
มาริโอ บาโลเตลลี่ อดีตกองหน้าทีมชาติอิตาลี ออกโรงจวกแข้งอิตาเลียนรุ่นใหม่แบบไม่ไว้หน้า หลังมองว่าทีมชุดปัจจุบัน “ไม่มีความทุ่มเท” และ “ไร้ความภาคภูมิใจ” ในการสวมเสื้อทีมชาติเท่ากับยุคก่อน พร้อมเชื่อมั่นว่า ทีมชาติอิตาลี ยังมีศักยภาพมากพอที่จะคว้าตั๋วไป ฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย
บาล็อตติทนไม่ไหว สวนแข้งรุ่นใหม่ “ไม่มีใจเพื่อทีม”
มาริโอ บาโลเตลลี่ วัย 35 ปี ปัจจุบันไร้สังกัด ออกมาเปิดใจอย่างดุเดือดถึงสิ่งที่เขามองว่าเป็น “ปัญหาเชิงจิตใจ” ของนักเตะทีมชาติอิตาลีชุดนี้ โดยเฉพาะเรื่องความมุ่งมั่นและหัวจิตหัวใจในการเล่นเพื่อธงไตรรงค์แห่งอิตาลี
อิตาลีเคยเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ในเวทีลูกหนังโลก พวกเขาคว้าแชมป์โลกมาแล้ว 4 สมัย แต่ในช่วงหลังกลับไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ถึง 2 ครั้งติดต่อกัน สะท้อนความตกต่ำของทีมอย่างชัดเจน และเป็นเหตุให้เสียงวิจารณ์ดังขึ้นเรื่อยๆ จากแฟนบอลและอดีตนักเตะที่เคยสร้างความยิ่งใหญ่ไว้
สถานการณ์ปัจจุบันของอิตาลีในรอบคัดเลือก
ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป สถานการณ์ของอิตาลีถือว่าไม่ง่าย พวกเขารั้งอันดับ 2 ของกลุ่มไอ มีแต้มตามหลัง นอร์เวย์ จ่าฝูงถึง 6 คะแนน แม้จะลงเล่นน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม
ตามกติกา ทีมอันดับ 2 ยังมีโอกาสผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟเพื่อชิงตั๋วไปเล่นรอบสุดท้าย ซึ่งหมายความว่า “อัซซูรี่” ยังมีความหวัง แต่แรงกดดันรอบนี้ถือว่าสูงมาก เพราะนี่อาจเป็นศึกชี้ชะตาอนาคตของทีมชาติอิตาลีทั้งยุค
คำพูดจากปากบาโลเตลลี่
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิใครเป็นพิเศษหรอกนะ แต่ทุกวันนี้มีหลายครั้งที่ผมเห็นนักเตะลงเล่นให้ทีมชาติโดยที่ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องชุดแข่งของทีมชาติอย่างแท้จริง และผมไม่ชอบอะไรแบบนั้นเลย สมัยที่ผมยังเล่นให้ทีมชาติน่ะผมจะรู้สึกภาคภูมิใจเสมอเวลาที่ได้เป็นตัวแทนของ อิตาลี สำหรับผมแล้วตอนนี้ทีมชาติกำลังขาดอะไรแบบนั้น” บาโลเตลลี่ ระบุ
อดีตความยิ่งใหญ่กับปัจจุบันที่ต่างกันสุดขั้ว
ย้อนกลับไปในยุคที่อิตาลีคว้าแชมป์โลกครั้งล่าสุดเมื่อปี 2006 “อัซซูรี่” เต็มไปด้วยผู้เล่นที่เล่นด้วยหัวใจและความเชื่อมั่นในทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็น ฟาบิโอ คันนาวาโร่, จานลุยจิ บุฟฟ่อน หรือ ฟรานเชสโก ต๊อตติ ทุกคนมีความมุ่งมั่นและพร้อมทุ่มสุดตัวในทุกแมตช์ แตกต่างจากภาพที่บาโลเตลลี่เห็นในตอนนี้ ที่เขามองว่า “นักเตะรุ่นใหม่หลายคนขาดแรงผลักดัน” และ “ไม่รู้จักความหมายของคำว่าเสียสละเพื่อทีมชาติ”
ความแตกต่างนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของฝีเท้า แต่คือเรื่องของ “จิตวิญญาณ” และ “ความภูมิใจ” ในการสวมชุดสีฟ้า ที่เป็นหัวใจของความสำเร็จของอิตาลีในอดีต
ความเชื่อมั่นยังไม่หมด
แม้จะตำหนิอย่างหนัก แต่บาโลเตลลี่ก็ยังคงมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของอิตาลี โดยเฉพาะการลุ้นผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลกที่สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก เป็นเจ้าภาพร่วม
เมื่อถูกถามว่า “อิตาลีจะได้ตั๋วไปฟุตบอลโลกหรือไม่” เจ้าตัวตอบสั้นแต่ชัดเจนว่า “แน่นอน ผมเชื่อว่าหนนี้เราจะได้ไปเล่นด้วย”
ทีมชาติอิตาลี กับความท้าทายครั้งสำคัญ
การที่อิตาลีพลาดไปเล่นฟุตบอลโลกถึง 2 สมัยซ้อน ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของวงการลูกหนังแดนรองเท้าบู๊ต เพราะนี่คือชาติที่เคยถูกยกให้เป็นหนึ่งในมหาอำนาจลูกหนังโลก การที่พวกเขาจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงแท็คติกหรือระบบการเล่นเท่านั้น แต่ต้องสร้าง “หัวใจนักสู้” ให้กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง
หากอิตาลีต้องการกลับมาเป็นทีมที่แฟนบอลทั่วโลกยำเกรง เหมือนในยุคทอง พวกเขาจำเป็นต้องผสมผสานความสามารถรุ่นใหม่เข้ากับจิตวิญญาณนักสู้แบบรุ่นเก่าให้ได้ เพราะฟุตบอลโลกไม่ใช่เวทีที่ชนะได้ด้วยชื่อชั้นเพียงอย่างเดียว
เส้นทางสู่ฟุตบอลโลก 2026 ยังเปิดกว้าง
แม้สถานการณ์จะดูไม่ง่าย แต่ความเป็นจริงคือ ทีมชาติอิตาลี ยังมีโอกาสเต็มเปี่ยมในการไปเล่นรอบสุดท้าย เพราะพวกเขายังเหลือโปรแกรมสำคัญที่สามารถทำคะแนนไล่จี้นอร์เวย์ได้ ความสามารถของขุนพลชุดนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่สิ่งที่จะตัดสินว่าอิตาลีจะได้ไปหรือไม่ คือ “ใจ” และ “ความภาคภูมิใจ” ที่บาโลเตลลี่พูดถึงอย่างตรงไปตรงมา
และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมาของ “อัซซูรี่” ที่แฟนบอลทั่วโลกเฝ้ารอ
แฟนบอลอิตาเลียนและคอลูกหนังทั่วโลกต่างจับตาดูว่าทีมชุดนี้จะสามารถเปลี่ยนคำวิจารณ์ให้เป็นพลังได้หรือไม่ การผ่านเข้ารอบ ฟุตบอลโลก 2026 ไม่ใช่แค่เป้าหมายของสมาคมฟุตบอลเท่านั้น แต่มันคือความภูมิใจของทั้งประเทศ ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลอิตาลีได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา