
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือคนดัง ออกโรงแสดงความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมในตัว ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์ ว่าจะสามารถพา ทีมชาติเยอรมนี กลับมาสู่ความแข็งแกร่งได้อีกครั้ง แม้ฟอร์มการเล่นในช่วงหลังจะยังไม่นิ่ง พร้อมย้ำว่าแม้แต่ชุดแชมป์โลกในอดีตก็เคยผ่านช่วงเวลายากลำบากมาแล้วเช่นกัน
ความมั่นใจจากตำนานลูกหนัง
“ผมเชื่อมั่นในตัว นาเกิลส์มันน์ อย่างเต็มเปี่ยม ผมไม่จำเป็นต้องคอยเช็กอยู่ตลอดเพื่อพูดว่า -ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี- ด้วยซ้ำ เพราะผมรู้ว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี! ทีมก็แค่อยู่ในช่วงที่ต้องหาตัวเองให้เจอและสู้ด้วยความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งตอนนี้พวกเขากำลังทำแบบนั้นได้ และหลังจากนี้เราจะได้เห็น เยอรมนี ชุดที่ยอดเยี่ยมลงเล่น ฟุตบอลโลก แน่นอน”
เสียงจากปากของ คล็อปป์ กลายเป็นประเด็นใหญ่ในโลกฟุตบอล หลังจาก อินทรีเหล็ก มีผลงานที่ยังไม่เข้าที่ในศึก ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป โดยหลังผ่าน 3 นัดแรก พวกเขามีเพียง 6 คะแนน เท่ากับ ไอร์แลนด์เหนือ และ สโลวาเกีย ผลงานดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ในประเทศอย่างหนัก และมีบางส่วนที่ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของ นาเกิลส์มันน์ ในการกุมบังเหียนทีมต่อ
ฟอร์มตกแต่ศรัทธายังไม่ลด
แม้หลายฝ่ายจะเริ่มกังขา แต่ คล็อปป์ กลับมองว่า เยอรมนี ยังมีศักยภาพมากพอที่จะกลับมาเป็นทีมที่ “น่ากลัว” ได้ในเวลาไม่นาน โดยเฉพาะเมื่อทีมกำลังอยู่ในช่วงปรับสมดุลเพื่อหาทิศทางการเล่นที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งเรื่องของแท็กติก การสร้างความเชื่อมั่น และความกลมเกลียวภายในทีม
ที่ผ่านมา เยอรมนีถือเป็นหนึ่งในชาติที่มีรากฐานฟุตบอลแข็งแกร่งที่สุดในโลก พวกเขาผ่านช่วงเวลาทั้งรุ่งเรืองและมรสุมมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือความสามารถในการ “กลับมายืนแถวหน้า” ของโลกฟุตบอลได้เสมอ
บทเรียนจากอดีตแชมป์โลก 1990
คล็อปป์ ยกตัวอย่าง ทีมแชมป์โลก 1990 ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เคยเกือบพลาดการไปเล่นรอบสุดท้ายมาแล้ว โดยระบุว่า “ในกลุ่มทีมที่เป็นแชมป์โลกก็เคยมีทีมที่ทำผลงานได้ย่ำแย่ในการเล่นรอบคัดเลือกมาแล้ว อย่างก่อนที่จะได้แชมป์ ฟุตบอลโลก 1990 น่ะ อิคเค่อ ฮาสเลอร์ (หมายถึง โธมัส ฮาสเลอร์) ก็ต้องมาช่วยทำประตูในนัดท้ายๆ เพื่อให้เราผ่านรอบคัดเลือกมาได้แบบหวุดหวิดเหมือนกัน”
ความจริงในประวัติศาสตร์คือ ในศึก ฟุตบอลโลก 1990 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เยอรมัน ตะวันตก ต้องเอาชนะ เวลส์ 2-1 ในนัดสุดท้ายของกลุ่ม 4 เพื่อคว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม และผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในฐานะหนึ่งในทีมอันดับสองที่ดีที่สุด ก่อนจะระเบิดฟอร์มคว้าแชมป์โลกได้ในที่สุด
ทีมใหญ่ต้องผ่านบททดสอบ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เยอรมนี ต้องเผชิญเสียงวิจารณ์รอบด้าน เพราะตลอดประวัติศาสตร์ “อินทรีเหล็ก” มักถูกมองว่าเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ในยามที่กดดันที่สุด พวกเขาเคยฟื้นจากความล้มเหลวมาหลายครั้ง และสามารถกลับมาไล่ล่าความสำเร็จได้เสมอ
การมี นาเกิลส์มันน์ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความสามารถด้านแท็กติก การปลุกปั้นทีม และสร้างโครงสร้างการเล่นที่ทันสมัย ถือเป็นจุดแข็งที่ คล็อปป์ เองมองว่าเป็น “กุญแจสำคัญ” ในการพาทีมกลับมาครองความยิ่งใหญ่ในระดับโลกอีกครั้ง
เส้นทางข้างหน้าและความหวังของแฟนบอล
สำหรับสถานการณ์ในกลุ่มเอของรอบคัดเลือก เยอรมนียังมีโปรแกรมอีกหลายเกมให้แก้ตัว โอกาสจบในตำแหน่งจ่าฝูงหรือคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายยังเปิดกว้าง เมื่อพิจารณาจากศักยภาพนักเตะที่มีทั้งประสบการณ์และดาวรุ่งมากฝีมือ การกลับมาของ “ความดุดัน” จึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง
ประสบการณ์จากอดีตบวกกับศักยภาพในปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเยอรมนีมีสิทธิ์ที่จะพลิกสถานการณ์และก้าวขึ้นมาเป็นตัวเต็งในรอบสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก 2026 ได้เช่นกัน เหลือเพียงการหาจังหวะและความมั่นใจในทีมให้ลงตัวเท่านั้น
ความยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยหายไป
เยอรมนีเป็นหนึ่งในชาติที่คว้าแชมป์โลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นชาติที่ผลิตนักเตะระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบเยาวชนที่แข็งแกร่งและแนวทางการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ การสะดุดในรอบคัดเลือกไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับพวกเขา แต่กลับกลายเป็นแรงผลักดันให้ทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในทุกยุคสมัย
และเมื่อผสมความเชื่อมั่นจากคนในวงการลูกหนังระดับตำนานอย่าง คล็อปป์ เข้ากับโครงสร้างทีมของ นาเกิลส์มันน์ มันยิ่งตอกย้ำว่า เยอรมนี ยังคงเป็นหนึ่งในทีมที่ไม่มีใครมองข้ามได้เลย
แฟนบอลชาวไทยที่ติดตาม ฟุตบอลโลก จึงเตรียมรับชมการกลับมาของ “อินทรีเหล็ก” ได้แบบไม่ต้องสงสัย ติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวบอล และวิเคราะห์ฟุตบอลระดับโลกได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา