
โชเซ่ มูรินโญ่ ประกาศลั่นหัวใจตอนนี้เป็นสีแดงของ เบนฟิก้า เต็มตัว ไม่เหลือสีน้ำเงินของ เชลซี อีกต่อไป พร้อมพาทีมบุกเยือนถิ่นเก่าในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีกเฟส นัดที่ 2 คืนวันอังคารนี้ เจ้าตัวเผยไม่รู้สึกกดดันกับการกลับมาสแตมฟอร์ด บริดจ์ และยังชื่นชมผลงานของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ที่พา “สิงห์บลูส์” พัฒนาจนมีลุ้นแชมป์ยุโรปในซีซั่นนี้
🔴 มูรินโญ่คืนถิ่นเก่า แต่หัวใจเปลี่ยนสี
โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์จอมแท็กติกของ เบนฟิก้า เตรียมนำลูกทีมบุกเยือนอดีตต้นสังกัดอย่าง เชลซี ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025/26 รอบ ลีกเฟส นัดที่สอง วันอังคารที่ 30 กันยายนนี้ โดย “เฮียมู” ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ตอนนี้หัวใจของเขาเป็นสีแดงเต็มตัว ไม่ใช่สีน้ำเงินอีกต่อไป พร้อมเป้าหมายเดียวคือ การเก็บ 3 แต้มออกจากลอนดอน
มูรินโญ่ให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมเคยมาเยือนที่นี่ตอนที่คุม สเปอร์ส, แมนฯ ยูไนเต็ด และ อินเตอร์ มิลาน ผมรู้สึกว่าที่นี่คือบ้าน แต่ผมไม่ใช่สีน้ำเงินอีกต่อไป ตอนนี้ผมเป็นสีแดง และผมต้องการชัยชนะ”
คำพูดนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของยอดกุนซือวัย 62 ปี ที่ยังคงมีไฟแรงไม่เปลี่ยน แม้ต้องเผชิญหน้ากับทีมที่เคยร่วมสร้างความยิ่งใหญ่
🏆 ย้อนอดีตความสำเร็จ “เฮียมู” กับสิงห์บลูส์
การกลับมาครั้งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำ เพราะ มูรินโญ่ คือผู้วางรากฐานความยิ่งใหญ่ให้กับ เชลซี ตลอด 2 ช่วงเวลาที่คุมทีม (2004-2007 และ 2013-2015) เขาพาทีมคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และ ลีกคัพ 3 สมัย พร้อมยกระดับทีมจากผู้ท้าชิง สู่สโมสรระดับแถวหน้าของยุโรป
นอกจากนี้ เขายังผ่านการคุมทีมใหญ่มากมายทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ อินเตอร์ มิลาน ที่เคยคว้าทริปเปิลแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้วในปี 2010 ประสบการณ์ทั้งหมดทำให้การพา เบนฟิก้า กลับมาท้าชิงในเวทียุโรปครั้งนี้ ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวและความน่าสนใจให้กับทีมจากโปรตุเกส
🧠 เฮียมูชม “มาเรสก้า” ทำสิงห์พัฒนาไม่หยุด
แม้ต้องเป็นฝ่ายบุกมาเยือน แต่ มูรินโญ่ ไม่ลืมที่จะชื่นชมการทำงานของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือหนุ่มของ เชลซี ที่เข้ามายกระดับทีมให้แข็งแกร่งและเล่นฟุตบอลมีระบบมากขึ้น โดยเฉพาะผลงานการพาทีมคว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ รูปแบบใหม่เป็นครั้งแรก
“ตราสีทอง (แชมป์สโมสรโลก) มีความหมายมากๆ สำหรับสโมสรนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ทีมคว้าแชมป์คลับ เวิลด์ คัพ รูปแบบใหม่ ขอแสดงความยินดีกับพวกเขา แต่แน่นอนว่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยากกว่าการคว้าแชมป์สโมสรโลก เชลซี มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ผมมองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไม เชลซี จะคว้าแชมป์รายการนี้ไม่ได้”
คำชมนี้ไม่เพียงแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของมูรินโญ่ แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ “สิงห์บลูส์” ที่ยังคงเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างแท้จริง
⚽ ศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างอดีตกุนซือและทีมเก่า
การพบกันระหว่าง เชลซี และ เบนฟิก้า ครั้งนี้ถือเป็นแมตช์แห่งศักดิ์ศรีของอดีตและปัจจุบัน เพราะนอกจากจะเป็นการกลับถิ่นของกุนซือระดับตำนานแล้ว ยังเป็นเกมที่มีความหมายต่อการลุ้นเข้ารอบในระบบ ลีกเฟส ที่ทุกคะแนนมีค่า การชนะจะเป็นการยืนยันความมั่นใจของทั้งสองทีมในเส้นทางยุโรปปีนี้
สำหรับแฟนบอลทั่วโลก นี่คือหนึ่งในแมตช์ที่ห้ามพลาดของสัปดาห์ ไม่เพียงเพราะชื่อเสียงของทั้งสองสโมสร แต่ยังเพราะ เกมแท็กติกสุดเข้มข้น ระหว่างสองยอดโค้ชต่างยุคที่มีสไตล์เฉพาะตัว
📚 ความรู้เพิ่มเติมสำหรับแฟนบอล
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2025/26 ฤดูกาลนี้ใช้ระบบ ลีกเฟส เป็นปีแรก โดยแต่ละทีมจะเล่นทั้งหมด 8 นัดกับคู่แข่งต่างกลุ่ม และจัดอันดับรวมเพื่อหาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ทำให้ทุกแมตช์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเก็บคะแนน ระบบใหม่นี้ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและเปิดโอกาสให้ทีมจากชาติเล็กมีสิทธิ์ลุ้นเข้ารอบได้มากขึ้น
แฟนบอลสามารถติดตาม ผลบอลสด, ตารางบอลวันนี้, และบทวิเคราะห์ฟุตบอลจากทุกลีกใหญ่ ได้ที่เว็บไซต์ บ้านกีฬา ซึ่งพร้อมอัปเดตข้อมูลรวดเร็วและแม่นยำที่สุดสำหรับคอบอลชาวไทย
❤️ ศึกนี้เฮียมูเดิมพันด้วยศักดิ์ศรี
แม้จะเคยเป็นตำนานของ เชลซี แต่งานนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ ขอวางอดีตไว้เบื้องหลัง พร้อมลุยเต็มร้อยกับ เบนฟิก้า เพื่อเป้าหมายเดียวคือชัยชนะในค่ำคืนยุโรปที่ถิ่นเก่า และไม่ว่าจะจบอย่างไร นี่จะเป็นอีกหนึ่งแมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกต้องพูดถึง
ติดตามข่าวฟุตบอลเด็ดๆ วิเคราะห์เกมร้อนแรง และ ผลบอลสด ครบทุกคู่ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา