
จาก : ผลบอลสด ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2025 ระหว่าง เรอัล มาดริด 1-2 อาร์เซนอล วันนี้ 17/4/68 – บ้านกีฬา
ค่ำคืนแห่งการล้างแค้นของ อาร์เซนอล กลายเป็นตำนานบทใหม่ เมื่อพลพรรค “ปืนใหญ่” บุกถล่ม เรอัล มาดริด ถึงถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว 2-1 ในศึก ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2025 รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง พร้อมตีตั๋วเข้าสู่รอบรองฯ ด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-1 แบบเด็ดขาด ซึ่งทาง บ้านผลบอล ไม่พลาดที่จะเก็บทุกจังหวะดราม่ามาสรุปให้แฟนบอลได้ซึมซับอารมณ์เข้มข้นจากสนามจริง พร้อม ผลบอลสด ที่ลุ้นมันทุกนาทีเหมือนดูข้างสนาม
ครึ่งแรกเริ่มต้นด้วยความกดดันมหาศาลจากฝั่งเจ้าบ้าน เรอัล มาดริด ที่ต้องการประตูตั้งแต่ต้นเกมหลังตามหลังจากเลกแรกถึง 0-3 พวกเขาครองบอลมากถึง 67% ในครึ่งแรก และมีโอกาสจะแจ้งแต่เจาะแนวรับของอาร์เซนอลที่เล่นอย่างมีวินัยไม่ได้ โดยเฉพาะการปิดเกมของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี และ วิลเลียม ซาลิบา ที่เหนียวแน่นทุกจังหวะ นาทีที่ 27 เหมือนราชันจะได้ลุ้นเมื่อผู้ตัดสินเป่าจุดโทษให้จากจังหวะ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ถูกทำฟาวล์ แต่ VAR กลับคำตัดสิน ทำให้ครึ่งแรกจบลงแบบไม่มีสกอร์ แต่ความเดือดยังไม่จบ
ครึ่งหลังเริ่มต้นด้วยไฟที่ลุกโชนขึ้นใหม่ ในนาทีที่ 65 บูคาโย่ ซาก้า ยิงให้ปืนใหญ่ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะหลุดเข้าไปยิงในกรอบอย่างเฉียบขาด ไม่ทันไรเพียงสองนาที วินิซิอุส จูเนียร์ ก็ตอบโต้ให้มาดริดด้วยการยิงตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 67 จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+3 เมื่อ กาเบรียล มาร์ติเนลลี จ่ายให้ มิเกล เมริโน่ ซัดปิดเกมเป็น 2-1 ส่งให้ อาร์เซนอล บุกสยบ เรอัล มาดริด ถึงบ้าน และปิดเกมด้วยสกอร์รวม 5-1 อย่างไร้ข้อกังขา
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
เรอัล มาดริด (4-3-3)
- ผู้รักษาประตู: ติโบต์ กูร์ตัวส์
- กองหลัง: ดานี่ การ์บาฆาล, ดาวิด อลาบา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ลูคัส บาซเกซ (น.75 ออก เอ็มบัปเป้)
- กองกลาง: ออเรลียง ชูอาเมนี่, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, จู๊ด เบลลิงแฮม
- แนวรุก: โรดรีโก้ (น.61 ออก เซบาญอส), วินิซิอุส จูเนียร์, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (น.75 ออก บราฮิม ดิอาซ)
นักเตะโดดเด่น: วินิซิอุส จูเนียร์ (8.1), ติโบต์ กูร์ตัวส์ (7.6), เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ (7.3)
อาร์เซนอล (4-3-3)
- ผู้รักษาประตู: ดาบิด รายา
- กองหลัง: จูเรียน ทิมเบอร์ (น.90+5 ออก เบน ไวท์), วิลเลียม ซาลิบา, จาคุบ คิเวียร์, มิเคล ลูอิส-สเกลลี่
- กองกลาง: โธมัส ปาร์เตย์, มิเกล เมริโน่, มาร์ติน โอเดการ์ด
- แนวรุก: บูคาโย่ ซาก้า (น.77 ออก เลอันโดร ทรอสซาร์), กาเบรียล มาร์ติเนลลี (น.90+5 ออก คีแรน เทียร์นี่ย์), ดีแคลน ไรซ์ (น.90+5 ออก ซินเชนโก้)
นักเตะโดดเด่น: มิเกล เมริโน่ (8.4), กาเบรียล มาร์ติเนลลี (7.5), ดีแคลน ไรซ์ (7.4)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
วิเคราะห์บอล ฝั่ง เรอัล มาดริด ของ คาร์โล อันเชล็อตติ ยึดแผน 4-3-3 ตามถนัด เปิดเกมรุกหนักเน้นปีกเร็วอย่าง วินิซิอุส และ เอ็มบัปเป้ คอยเจาะแนวรับ แต่การขาดผู้เล่นหลักหลายราย รวมถึงการโดนจับทางง่ายในแดนกลางทำให้พวกเขาครองบอลได้แต่ขาดความหลากหลาย
ด้าน อาร์เซนอล ของ มิเกล อาร์เตต้า วางระบบ 4-3-3 เช่นกันแต่เน้นตั้งรับลึกแล้วสวนกลับเร็ว โดยมี ซาก้า และ มาร์ติเนลลี เป็นอาวุธโจมตีริมเส้น ขณะที่ เมริโน่ คุมจังหวะกลางสนามได้ยอดเยี่ยม การเปลี่ยนตัวช่วงท้ายเกมยังช่วยปิดเกมได้อย่างเด็ดขาด นี่คือเกมที่พวกเขาเล่นด้วยสมองมากกว่าพลัง
สถิติการแข่งขัน
แม้จะพ่ายในเกมนี้แต่ เรอัล มาดริด เหนือกว่าในหลายตัวเลข พวกเขาครองบอลถึง 67% ผ่านบอลทั้งหมด 431 ครั้งด้วยความแม่นยำ 86% และยิงรวม 18 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียง 3 ขณะที่ อาร์เซนอล แม้จะครองบอลแค่ 33% แต่มีความเฉียบคมกว่า ยิงเข้ากรอบ 6 จาก 11 ครั้ง และใช้โอกาสได้คุ้มค่ากว่าชัดเจน เกมนี้จึงเป็นตัวอย่างของ “ชนะเกมแม้ไม่ได้ครองบอล”
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 65′ บูคาโย่ ซาก้า ยิงให้อาร์เซนอลนำ 0-1
⚽ 67′ วินิซิอุส จูเนียร์ ยิงตีเสมอให้มาดริด 1-1
⚽ 90+3′ มิเกล เมริโน่ ยิงปิดเกมให้อาร์เซนอลชนะ 1-2
🔁 61′ มาดริดเปลี่ยน ดานี่ เซบาญอส, ฟราน การ์เซีย, เอ็นดริค ลงสนาม
🔁 74′-75′ เปลี่ยน โมดริช และ เอ็มบัปเป้ ออก ส่ง บราฮิม ดิอาซ
🔁 77′ อาร์เซนอลเปลี่ยน ทรอสซาร์ ลงแทน ซาก้า
🔁 90+5′ เปลี่ยนตัวชุดใหญ่ 3 คนส่ง เทียร์นี่ย์, ซินเชนโก้, ไวท์
🟨 4′ ดาวิด อลาบา โดนใบเหลือง
🟨 10′ เมริโน่ ถูกทำฟาวล์จนได้จุดโทษ
🟨 13′ ซาก้า ยิงจุดโทษพลาด
🟨 27′ เอ็มบัปเป้ ถูกยกเลิกจุดโทษหลัง VAR
🟨 36′ ดาบิด รายา โดนเตือนเรื่องถ่วงเวลา
🟨 85′ รือดิเกอร์ โดนใบเหลืองจากการเข้าสกัด
🟨 85′ ปาร์เตย์ โต้เถียงจนโดนจดชื่อ
Player of the Match
มิเกล เมริโน่ คือตัวแปรสำคัญในแดนกลางของ อาร์เซนอล ไม่เพียงคุมจังหวะเกมได้ดี แต่ยังวิ่งไม่หมด เติมเกมรุกได้ต่อเนื่อง และยิงประตูชัยในช่วงทดเวลา ทำให้ได้รับเรตติ้ง 8.4 สูงสุดของเกม สมฐานะ Man of the Match จาก บ้านกีฬา
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ผลรวมสองนัด อาร์เซนอล เอาชนะไปด้วยสกอร์ 5-1 เข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้แบบยิ่งใหญ่ นี่ถือเป็นการหักปากกาเซียนหลังจากหลายฝ่ายคาดว่า เรอัล มาดริด จะมีประสบการณ์เหนือกว่า ขณะที่ราชันต้องยุติเส้นทางไว้เพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
การแข่งขันนัดถัดไป
แม้จะตกรอบแชมเปียนส์ลีกแบบเจ็บลึก แต่ เรอัล มาดริด ยังเหลือโปรแกรมลาลีกาให้ต้องลุยต่อแบบไม่มีเวลาพัก โดยนัดถัดไปใน ตารางบอล คือเกมเปิดบ้านรับมือ แอธเลติก บิลเบา วันที่ 21 เมษายน เวลา 02:00 น. และอีก 3 วันต่อมาจะบุกเยือน เกตาเฟ่ วันที่ 24 เมษายน เวลา 02:30 น. ส่วนฝั่ง อาร์เซนอล ที่กำลังคึกสุดขีดจากผลงานทะลุตัดเชือกยูซีแอล ก็จะกลับมาสู้ในพรีเมียร์ลีกทันที โดยจะบุกเยือน อิปสวิช ทาวน์ วันที่ 20 เมษายน เวลา 20:00 น. ก่อนเปิดบ้านดวล คริสตัล พาเลซ ในเกมกลางสัปดาห์วันที่ 24 เมษายน เวลา 02:00 น. เรียกได้ว่า “ปืนใหญ่” ยังไม่ปล่อยคันเร่งลงแม้แต่นิด
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ บ้านผลบอล จากเวทีใหญ่ยุโรปจนถึงเกมในประเทศ ได้ที่ บ้านกีฬา ศูนย์รวมข่าวสารวงการลูกหนังที่ให้คุณมากกว่าแค่สกอร์