
ข่าวเดือดกลางวงการภาษีไทย เมื่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) สนธิกำลังตามคำร้องของ กรมสรรพากร บุกจับกุมกรรมการบริษัทนำเข้า–ส่งออกเครื่องยนต์ 2 ราย ฐานร่วมกันออก ใบกำกับภาษีปลอม ให้เครือข่ายผู้ค้าของเก่า สร้างความเสียหายแก่รัฐกว่า 1,200 ล้านบาท เหตุเกิดจากการตรวจสอบบริษัทที่จดทะเบียนในซอยลาดพร้าว 87 ก่อนพบความผิดปกติของเอกสารภาษีจำนวนมาก และพฤติการณ์เข้าข่าย “ธุรกิจทิพย์” ไม่มีการดำเนินกิจการจริง รายละเอียดการจับกุมและยอดความเสียหายได้รับการยืนยันจากหลายสำนักข่าวและประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วในวันที่ 5 ตุลาคม 2568
ในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาสองรายตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิออกตามกฎหมาย” โดยหนึ่งรายถูกจับกุมที่ลานจอดรถมหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร อีกหนึ่งรายถูกจับหน้าบ้านพักใน อ.แกลง จ.ระยอง ขณะที่การสืบสวนอาศัยร่องรอยจาก ใบกำกับภาษี–สำเนาใบกำกับภาษีจำนวนหลายร้อยฉบับ ช่วงปี 2556–2559 ที่นำไปใช้เครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มโดยไม่มีการซื้อขายจริง ก่อนกรมสรรพากรประเมิน VAT รวมเบี้ยปรับ สูงกว่า 1.2 พันล้านบาท และส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สายข่าว “บ้านกีฬา” ขอสรุปให้เข้าใจง่าย เจาะทั้ง “ข่าวร้อน” และ “ความรู้ยืนพื้น” ที่คนทำธุรกิจ–นักบัญชี–นักการตลาด–ฟรีแลนซ์ ต้องเก็บเข้าลิสต์ เพราะเรื่อง ใบกำกับภาษี ไม่ใช่เรื่องไกลตัว: ผิดพลาดนิดเดียว เสี่ยงทั้งอาญา–แพ่ง และกระทบกระแสเงินสดธุรกิจแบบเจ็บลึก
ทำความเข้าใจ “ใบกำกับภาษี” ให้ถูกตั้งแต่ต้นเกม
ใบกำกับภาษี คือเอกสารภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีออกให้ผู้ซื้อเพื่อใช้เป็นหลักฐานซื้อขายและใช้เครดิตภาษีได้ ถูกต้องต้องมีอย่างน้อย:
- ชื่อ–ที่อยู่–เลขประจำตัวผู้เสียภาษี (13 หลัก) ของผู้ขาย
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ (ถ้ามี)
- เลขที่เอกสาร/วันเดือนปี
- รายละเอียดสินค้า/บริการ ปริมาณ ราคา
- VAT 7% แยกต่างหาก และยอดรวมสุทธิ
- ลายมือชื่อ/ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ ของผู้ออกเอกสาร (กรณี e-Tax Invoice/ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์)
หากขาดหัวใจหลัก เช่น เลขผู้เสียภาษีไม่ตรง–ชื่อบริษัทไม่ตรงทะเบียน–สถานประกอบการไม่มีจริง เอกสารนั้นอาจ ใช้เครดิตภาษีไม่ได้ และเปิดประตูสู่ความเสี่ยงทางกฎหมายเต็ม ๆ
สัญญาณ “ใบกำกับภาษีปลอม/เสี่ยง” ที่เจอบ่อย
- ราคาผิดปกติ ถูกเว่อร์เกินตลาด, รายการซื้อขายไม่สอดคล้องธุรกิจ
- บริษัทผู้ออกเอกสาร ตั้งอยู่ในทาวน์โฮม/ออฟฟิศปิดตาย, ไม่มีโทรศัพท์/เว็บไซต์/ช่องทางติดต่อ, Google Map ว่างเปล่า
- เลขประจำตัวผู้เสียภาษี ตรวจแล้วไม่ขึ้นสถานะ “จดทะเบียน VAT”
- เอกสารสะกดชื่อบริษัท/สินค้าเพี้ยนเล็กน้อย (เทคนิคทำให้ตรวจยาก)
- ขอชำระเป็นเงินสด–เงินโอนชื่อบุคคล ไม่ออกเอกสารประกอบอื่น ๆ
- เอกสารเป็นสำเนาสแกนคุณภาพต่ำ ไม่สามารถตรวจสอบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ได้
ข่าวนี้ก็สะท้อนสัญญาณคลาสสิกหลายข้อ—จากการตรวจสถานที่จริง ไม่พบการดำเนินกิจการ แต่มีเอกสารใบกำกับภาษีจำนวนมากหมุนเวียนในระบบภาษี
เช็กลิสต์ 10 ข้อ “กันพลาดภาษี” สำหรับเจ้าของกิจการ/ฟรีแลนซ์
- ตรวจสถานะผู้เสียภาษีของคู่ค้ากับกรมสรรพากร (ควรบันทึกหลักฐานหน้าจอทุกครั้ง)
- ทำ Due Diligence คู่ค้า: เลขจดทะเบียน, ที่อยู่, เบอร์, เว็บไซต์, ที่ตั้งจริง, รีวิวลูกค้า
- ใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt (ลายเซ็นดิจิทัล ตรวจสอบย้อนกลับได้)
- เก็บ PO/สัญญา/ใบส่งของ/หลักฐานรับ–ส่งสินค้า และหนังสือมอบอำนาจให้ครบ
- ตรวจเลขที่เอกสารไม่ซ้ำ/ไล่ลำดับเดือนต่อเดือน
- วางนโยบาย ไม่รับเอกสารเงินสดลอย ที่ไม่มีหลักฐานประกอบ
- ให้บัญชี–ภาษีรีวิวเอกสารทุกสิ้นเดือน (ก่อนยื่น ภ.พ.30)
- แยกบัญชีธนาคารธุรกิจ–ส่วนตัวชัดเจน
- ตั้ง Vendor Onboarding Checklist ก่อนรับคู่ค้าใหม่
- เจอผิดปกติ ให้หยุดบันทึกเครดิต VAT และแจ้ง/ปรึกษา กรมสรรพากร 1161 หรือที่ทำการสรรพากรพื้นที่
โทษ–ความเสี่ยงที่ต้องรู้ (สรุปแบบเข้าใจไว)
- ผู้ออก ใบกำกับภาษีปลอม/ไม่มีสิทธิออก: เสี่ยงคดีอาญา, ปรับ–จำคุกตามกฎหมายภาษีและอาญาที่เกี่ยวข้อง
- ผู้รับเอกสาร รู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แต่ยังนำไปเครดิตภาษี: เสี่ยงโดน เพิกถอนเครดิต VAT, เบี้ยปรับ–เงินเพิ่มย้อนหลัง และคดีอาญา
- บริษัท–ผู้บริหาร: เสี่ยง คดีร่วมกันกระทำผิด และ ความรับผิดของนิติบุคคล
- ภาพลักษณ์–เครดิตทางการค้า: กระทบเชนซัพพลายเออร์–สถาบันการเงินทันที
ทำไม “อุตสาหกรรมของเก่า/อะไหล่เครื่องยนต์” ถึงตกเป็นเป้า?
ธุรกรรมสินค้ามือสอง/อะไหล่เครื่องยนต์มักมี โครงสร้างต้นทุนซับซ้อน เอกสารรับ–ส่งสินค้าหลายทอด และผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก ทำให้เป็นช่องว่างให้มิจฉาชีพใช้ ใบกำกับภาษีเท็จ ปั้นยอดขาย/ภาษีเข้า–ออกเพื่อ หักเครดิต VAT โดยไม่มีการซื้อขายจริง—รูปแบบที่เห็นในหลายคดีใหญ่ก่อนหน้า และในครั้งนี้ก็มีองค์ประกอบคล้ายกันหลายจุดตามข่าวที่เปิดเผย
ตั้งรับอนาคตด้วยดิจิทัลภาษี: เปลี่ยนเกมด้วย e-Tax
การใช้ e-Tax Invoice & e-Receipt และการเชื่อม Peppol (มาตรฐานแลกเปลี่ยนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์) จะช่วย
- ลดปลอมเอกสาร (เพราะต้องมีลายเซ็นดิจิทัล)
- ตรวจสอบย้อนกลับง่ายขึ้น (Audit Trail)
- ปิดช่องโหว่ออกเอกสารย้อนหลัง/ซ้ำซ้อน
- ลดต้นทุนเอกสาร–เก็บเอกสารนาน 5–7 ปีแบบมั่นใจ
แนะนำให้ธุรกิจวางแผนเปลี่ยนผ่านพร้อมอบรมทีมบัญชี–ไอที ตั้ง Policy การออก–รับ e-Tax เป็นมาตรฐานองค์กร
เคสนี้สอนอะไรเรา?
- เอกสารดี มีชัยไปกว่าครึ่ง – ธุรกิจที่เอกสารแน่นไม่กลัวตรวจ
- คู่ค้าดี = ความเสี่ยงต่ำ – ตรวจภูมิหลังคู่ค้าก่อนทุกครั้ง
- ดิจิทัลช่วยได้ – e-Tax คือเกราะป้องกันใบกำกับภาษีปลอม
- สายบัญชี–การเงินต้อง Empowered – ให้สิทธิ์ “หยุดดีล” เมื่อเจอความเสี่ยง
- โปร่งใสไว้ก่อน – เมื่อเกิดเหตุ ให้ร่วมมือเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่
สรุปข่าว–สถานการณ์ล่าสุด
- ปอศ.จับ 2 กรรมการบริษัทเครื่องยนต์ ข้อหาออกใบกำกับภาษีปลอม เครือข่ายผู้ค้าของเก่า รัฐเสียหายเกิน 1.2 พันล้านบาท
- ตรวจสถานที่จดทะเบียนไม่พบบุคลากร/สินค้าหรือการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ ส่อ “บริษัทบังหน้า” เพื่อออกเอกสารเท็จ
- ทั้งสองผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวน–ดำเนินคดีตามกฎหมาย (ติดตามความคืบหน้าจาก บช.ก./บก.ปอศ. และสื่อหลัก)
บ้านกีฬาเชื่อว่า “เกมภาษีที่โปร่งใส” คือกติกายุติธรรมของทั้งประเทศ ข่าวนี้จึงไม่ใช่แค่ดราม่าหน้าหนึ่ง แต่คือสัญญาณเตือนธุรกิจไทยให้ ยกระดับ Compliance ทันที—เพราะความเสี่ยงภาษีไม่ได้เจ็บแค่ค่าปรับ แต่เจ็บยาวที่ “ความน่าเชื่อถือ”
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ทั้งสายกีฬา–เศรษฐกิจ–นโยบายสาธารณะ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เราจะคัดทุกประเด็นสำคัญมาเล่าให้เข้าใจง่าย พร้อม “ทริกใช้งานได้จริง” สำหรับเจ้าของกิจการ และคนทำงานการเงิน–บัญชี