วันที่ 6 ตุลาคม 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์ของคดีรุกป่าในไทย เมื่อ ศาลจังหวัดราชบุรีมีคำพิพากษาจำคุก “น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์” อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นเวลา 4 ปี 1 เดือน พร้อมปรับอีก 60,000 บาท โดยไม่รอการลงโทษ จากคดีรุกครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
คำตัดสินครั้งนี้สั่นสะเทือนทั้งแวดวงการเมืองและสังคมไทย เพราะ “ปารีณา” ถือเป็นนักการเมืองหญิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากท่าทีเฉียบขาด กล้าพูด กล้าแสดงออก และเคยเป็นหนึ่งในแนวหน้าในพรรคใหญ่ของรัฐบาลในยุคนั้น
🔥 จุดเริ่มต้นของคดีรุกป่า – เส้นทางที่นำไปสู่คำพิพากษา
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2562 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ได้เข้าแจ้งความกล่าวโทษ น.ส.ปารีณา กรณีครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนและเขต ส.ป.ก. รวมเนื้อที่กว่า 1,706 ไร่
พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขต ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี (ป่าเขาสน) อำเภอจอมบึง ซึ่งถือเป็นเขตหวงห้ามของรัฐ
จากการตรวจสอบพบว่า ปารีณาได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ด้วยการสร้างฟาร์มไก่ บ้านพัก แทงค์น้ำ และขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสภาพป่ารวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท
⚖️ ศาลชี้ชัด “ผิดหลายกรรม” ลงโทษตามกฎหมาย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้ที่ดินดังกล่าวอาจมีการครอบครองมาก่อน แต่ไม่เคยมีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมายที่ดิน และ “ปารีณา” ในฐานะอดีต ส.ส. ย่อมต้องทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงมีความผิดฐาน
- ยึดถือครอบครองป่าสงวนเกิน 25 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ประกอบกิจการน้ำบาดาลในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต
โทษรวมคือ จำคุก 4 ปี 1 เดือน และปรับ 60,000 บาท พร้อมให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อุดหลุมบ่อ และออกจากพื้นที่ทั้งหมด
หลังคำพิพากษา ทนายของปารีณาได้ยื่นหลักทรัพย์ 1 ล้านบาท ขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งศาลอนุญาต
🧭 ทำไมคดีนี้ถึงสำคัญ?
คดีของ “ปารีณา” ไม่ใช่แค่เรื่องของบุคคล แต่เป็นบทเรียนครั้งสำคัญต่อ การใช้ที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตป่าสงวนและพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ถูกกำหนดไว้เพื่อใช้ในกิจการเกษตรกรรมตามสิทธิ์ของเกษตรกรเท่านั้น ไม่สามารถใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือกิจการเชิงพาณิชย์
กรณีนี้ยังสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างเรื่อง “สิทธิ์การครอบครองที่ดิน” และ “การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ” ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมไทยเฝ้าจับตาและเรียกร้องความเป็นธรรมมานาน
🌿 กฎหมายที่เกี่ยวข้องและความเข้าใจพื้นฐาน
- พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484
- กำหนดให้ป่าทุกแห่งที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์เป็นของรัฐ การเข้าไปครอบครองถือว่าผิดกฎหมาย
- พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
- การใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น
- พระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
- ที่ดินในโครงการ ส.ป.ก. ให้ใช้เฉพาะเพื่อเกษตรกรรม ห้ามซื้อขายหรือโอน
ความรู้เหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานที่ประชาชนควรทราบ เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์ของรัฐและทรัพยากรสาธารณะ
👩⚖️ ใครคือ “ปารีณา ไกรคุปต์”?
น.ส.ปารีณา เคยดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เป็นบุตรสาวของ นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
เธอเคยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากการอภิปรายในสภาและท่าทีทางการเมืองที่ชัดเจน กล้าชน กล้าพูด ทำให้ได้รับทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงวิจารณ์อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม คดีนี้กลายเป็น “จุดพลิกชีวิต” เพราะไม่เพียงแต่ส่งผลทางคดีอาญาเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อ คุณสมบัติทางการเมืองในอนาคต ของเธอด้วย
🔍 มุมมองทางสังคม – บทเรียนของผู้มีอำนาจ
คำพิพากษานี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” แม้จะเป็นนักการเมืองชื่อดังหรือผู้มีอิทธิพล หากกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรของชาติ ก็ต้องรับโทษตามกระบวนการ
สังคมไทยกำลังเฝ้าจับตาว่า กรณีนี้จะเป็น “ต้นแบบ” ของความโปร่งใสและความรับผิดชอบหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ประชาชนให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยุติธรรม
📌 บทเรียนสำคัญที่ประชาชนควรรู้
- การครอบครองที่ดินโดยไม่มีเอกสารสิทธิ์ อาจมีความผิดตามกฎหมาย
- เอกสาร ภ.บ.ท.5 ไม่ใช่เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์
- พื้นที่ ส.ป.ก. มีไว้เพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น ไม่สามารถใช้ในเชิงธุรกิจหรือปลูกสิ่งปลูกสร้างถาวร
- การบุกรุกป่าแม้เพียงบางส่วน อาจถูกฟ้องร้องและมีโทษหนักถึงจำคุก
📣 ปารีณาโต้กลับ เตรียมฟ้องกลับ “วีระ สมความคิด” และสื่อบางราย
หลังคำพิพากษา ปารีณาได้ออกมาแสดงจุดยืนว่า เธอจะดำเนินคดีต่อผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนคำพิพากษา และยืนยันว่าจะต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมายจนถึงที่สุด
💡 บทสรุป
คดี “ปารีณา ไกรคุปต์” ถือเป็นกรณีศึกษาครั้งสำคัญของประเทศไทย ที่ตอกย้ำว่า การจัดการทรัพยากรของชาติเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องเคารพกฎหมายอย่างสูงสุด
สำหรับประชาชนทั่วไป ควรใช้กรณีนี้เป็นบทเรียนในการเข้าใจสิทธิการครอบครองที่ดิน และเคารพต่อพื้นที่ของรัฐ เพื่อร่วมกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไป
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ และเรื่องราวใหญ่ระดับประเทศได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เว็บไซต์ที่ไม่เพียงรายงานข่าวกีฬา แต่ยังจับตาทุกความเคลื่อนไหวของสังคมไทยอย่างเข้มข้น
