
ศึกดวลความเร็วในรายการ Singapore Grand Prix 2025 กลายเป็นสนามแห่งดราม่าอีกครั้ง เมื่อสองนักขับทีมเดียวกันอย่าง แลนโด นอร์ริส (Lando Norris) และ ออสการ์ เพียสตรี (Oscar Piastri) แห่งทีม McLaren เกิดเหตุปะทะกันกลางโค้งสาม จนหลายฝ่ายกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อ “ความสามัคคี” ภายในทีมที่กำลังลุ้นแชมป์โลกอย่างเข้มข้น
🔥 จุดชนวนเดือด! นอร์ริสเบียดเพียสตรีกลางสนาม หลังชนเวอร์สแทปเพ่น
เหตุเกิดในรอบต้น ๆ ของการแข่งขันเมื่อ นอร์ริส พยายามแซง เพียสตรี ทางด้านใน หลังเกิดการเฉี่ยวชนเล็กน้อยกับรถของ แม็กซ์ เวอร์สแทปเพ่น (Max Verstappen) ทำให้รถเสียสมดุลและเฉไปชนเพื่อนร่วมทีมทันที ถึงแม้จะไม่รุนแรงจนต้องออกจากการแข่งขัน แต่ก็เพียงพอจะสร้างแรงกระเพื่อมในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
นอร์ริสให้สัมภาษณ์หลังจบเรซอย่างมั่นใจว่า “ใครอยู่ในสนามก็คงทำเหมือนผม ช่องว่างตรงนั้นมันชัดเจนมาก ผมไม่ได้ตั้งใจทำร้ายทีม แต่ถ้าคุณตำหนิผมเรื่องนี้ คุณไม่ควรอยู่ใน F1” พร้อมยืนยันว่า FIA ตรวจสอบแล้วและไม่พบการละเมิดที่ร้ายแรง
ขณะที่ เพียสตรี ซึ่งจบอันดับ 4 รองจากนอร์ริสที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 3 กล่าวด้วยน้ำเสียงผิดหวังว่า “การที่รถสองคันของทีมเดียวกันมาชนกัน มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการเลย” และเรียกร้องให้ทีมกลับไปตรวจสอบเหตุการณ์อย่างละเอียด
⚖️ ความตึงเครียดในทีม: “นอร์ริส” ได้สิทธิพิเศษจริงหรือ?
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เพียสตรี รู้สึกเหมือนตนเอง “เสียเปรียบ” ภายในทีม
- ฮังการี เดือนสิงหาคม: เขาเป็นผู้นำทีมในช่วงต้น แต่ทีมกลับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้นอร์ริสแซงขึ้นหน้า
- อิตาลี เดือนกันยายน: เพียสตรีถูกสั่งให้เปิดทางให้นอร์ริสคืนตำแหน่งหลังพลาดจากพิทสต็อปที่ช้า
แม้ภายนอก เพียสตรี จะบอกว่า “ทีมยังคงยุติธรรม” แต่แหล่งข่าวภายในยอมรับว่าเขาเริ่มรู้สึกไม่สบายใจที่บทบาทในทีมดูด้อยกว่าเพื่อนร่วมทีม
อย่างไรก็ตาม เพียสตรียังคงยืนยันว่า “ผมเข้าใจดีว่าทีมต้องคิดถึงภาพรวม ทุกอย่างคือกระบวนการเรียนรู้ และผมยังเชื่อมั่นในเจตนาที่ดีของ McLaren”
🧠 “แม็คลาเรน” ทีมแห่งยุคทอง กลับมาครองโลกอีกครั้ง
แม้จะมีดราม่าภายใน แต่ความสำเร็จของ McLaren ในฤดูกาลนี้ถือว่ายิ่งใหญ่
พวกเขาเพิ่ง คว้าแชมป์โลกประเภททีม (Constructors’ Championship) สมัยที่ 10 และเป็นการป้องกันแชมป์ได้ 2 ปีซ้อน แซง Williams ขึ้นไปรั้งอันดับ 2 ของโลกตามหลังเพียง Ferrari ที่ครองสถิติสูงสุด 16 สมัย
ปีนี้ McLaren มีชัยไปแล้วถึง 12 สนามจาก 18 เรซ (เพียสตรี 7 ชนะ, นอร์ริส 5 ชนะ) ถือเป็นยุคทองที่กลับมาส่องแสงอีกครั้งหลังจากร้างความสำเร็จระดับนี้มานานหลายปี
Andrea Stella หัวหน้าทีมเปิดใจว่า ความสำเร็จนี้มาจาก “นวัตกรรมที่กล้าเสี่ยง” ทั้งในด้านระบบกันสะเทือนแบบ Anti-dive และการออกแบบแอโรไดนามิกที่ใช้ช่องระบายอากาศน้อยที่สุดในกริด ทำให้รถ MCL39 เป็นหนึ่งในรถที่มีสมดุลดีที่สุด โดยเฉพาะในโค้งความเร็วกลาง
📈 การครองแชมป์ที่มาพร้อมการจัดการทรัพยากรเหนือชั้น
ท่ามกลาง ข้อจำกัดงบประมาณ (Budget Cap) และเวลาทดสอบแอโรไดนามิกที่น้อยกว่าทีมอื่นในฐานะแชมป์เก่า McLaren ยังสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง และเลือก “หยุดพัฒนา” รถรุ่นปัจจุบันแต่เนิ่น ๆ เพื่อทุ่มเททรัพยากรสู่ปีหน้า ซึ่งจะมีการเปลี่ยนกติกาใหม่ทั้ง เครื่องยนต์และแชสซีส์
นี่คือตัวอย่างของการวางแผนระยะยาวที่หลายทีมยกให้เป็น ต้นแบบของการบริหารจัดการทีม F1 สมัยใหม่
🚦 สถิติที่ McLaren กำลังลุ้นทำลาย
- คะแนนสูงสุดต่อฤดูกาล: สถิติเดิม 860 (Red Bull, 2023) ตอนนี้ McLaren ทำได้ 623
- ระยะห่างจากทีมรองแชมป์: ปัจจุบันนำ 333 แต้ม ลุ้นทำลายสถิติ 451 ของ Red Bull
- โพเดียมมากสุดในปีเดียว: สถิติเดิม 33 (Mercedes, 2016) ตอนนี้ McLaren มีแล้ว 27
- รอบเร็วที่สุด (Fastest Laps): ปัจจุบันทำไปแล้ว 11 ครั้ง จากสถิติสูงสุด 14 (Ferrari, 2004)
- ชัยชนะมากสุดในฤดูกาลเดียว: ตอนนี้ 12 จาก 18 สนาม ต้องการอีก 4 เพื่อทุบสถิติเดิมของตนเอง
🏁 เส้นทางข้างหน้า: จากทีมเก่าผงาดสู่ราชาแห่งยุคใหม่
แลนโด นอร์ริส กล่าวหลังทีมคว้าแชมป์ว่า
“ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน เราอยู่ท้ายกริด แต่วันนี้เราคือทีมที่ดีที่สุดในโลก นี่คือความสำเร็จที่เกิดจากทุกคนในทีม”
เพียสตรี เสริมว่า
“ผมภูมิใจที่ได้อยู่ในทีมที่ให้โอกาสนักขับรุ่นใหม่และกล้าคิดต่าง เราจะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม”
💡 ทำไม McLaren ถึงเป็นทีมที่ควรจับตาในยุค F1 ใหม่
ในยุคที่ F1 มุ่งสู่ความยั่งยืนและเทคโนโลยีไฮบริดเต็มรูปแบบ ทีมอย่าง McLaren คือแบบอย่างของการปรับตัวอย่างชาญฉลาด ทั้งด้าน วิศวกรรม, กลยุทธ์การบริหาร และ วัฒนธรรมองค์กร ที่เปิดกว้างให้ทั้งสองนักขับเติบโต แม้จะมีแรงกดดันจากการลุ้นแชมป์
ดราม่าในสิงคโปร์อาจเป็นเพียง “รอยร้าวเล็ก ๆ” ในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่สิ่งสำคัญคือ วิธีที่พวกเขาจะรับมือ เพราะในโลกของ F1 ความสามัคคีภายในคือปัจจัยชี้เป็นชี้ตายสำหรับการครองบัลลังก์
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ และความเคลื่อนไหววงการ F1 ได้ก่อนใครที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา