
คืนวันที่ 21 กันยายน 2568 คือคืนแห่งปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่คอท้องฟ้ารอคอย “ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี” หรือที่นักดาราศาสตร์เรียกว่า Saturn Opposition เพราะโลกโคจรมาอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์และดาวเสาร์พอดี ทำให้เรามองเห็นดาวเสาร์สว่างและใหญ่กว่าปกติ สามารถสังเกตได้ตลอดคืนตั้งแต่หัวค่ำจนรุ่งเช้า
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) จัดกิจกรรมสังเกตการณ์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ 5 จุดใหญ่ทั่วประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่, นครราชสีมา, ขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา และสงขลา พร้อมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook และ YouTube ของ NARIT เวลาประมาณ 19:00 น. ทำให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงความสวยงามของ “ราชาแห่งวงแหวน” ได้อย่างใกล้ชิด
ทำไมดาวเสาร์ถึงพิเศษ?
ดาวเสาร์ (Saturn) เป็นดาวเคราะห์ที่มีเสน่ห์ที่สุดดวงหนึ่งในระบบสุริยะ เพราะมีวงแหวนขนาดใหญ่โดดเด่นที่สร้างความประทับใจมาตลอดหลายศตวรรษ อีกทั้งยังมีดวงจันทร์บริวารจำนวนมหาศาล รวมถึง “ไททัน” (Titan) ดวงจันทร์ที่ใหญ่กว่าดาวพุธ และมีบรรยากาศหนาทึบคล้ายโลก
และในปี 2568 นี้ ดาวเสาร์อยู่ห่างจากโลกเพียง 1,279 ล้านกิโลเมตร ใกล้กว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ 1,434 ล้านกิโลเมตร ทำให้เราสามารถมองเห็นวงแหวนบางเฉียบด้วยกล้องขนาดเล็ก หรือแม้กระทั่งด้วยตาเปล่าก็เห็นเป็นจุดสว่างโดดเด่นทางทิศตะวันออกหลังพระอาทิตย์ตก
10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับดาวเสาร์
เพื่อเพิ่มอรรถรสการสังเกตการณ์ บ้านกีฬา ขอสรุป 10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับดาวเสาร์ ที่ทำให้คุณมองฟ้ายามคืนนี้อย่างมีความหมายมากขึ้น
- ราชาวงแหวนแห่งระบบสุริยะ
วงแหวนของดาวเสาร์มีมวลกว่า 30 ล้านล้านตัน ประกอบด้วยน้ำแข็งและฝุ่นสะท้อนแสง ทำให้สวยงามและโดดเด่นที่สุดในระบบสุริยะ - แชมป์ดวงจันทร์บริวาร
ปัจจุบันค้นพบแล้วกว่า 140 ดวง แบ่งเป็นดวงจันทร์ปกติและดวงจันทร์ผิดปกติ เช่น ไททัน และ เอนเซลาดัส ที่นักวิทยาศาสตร์สนใจเพราะอาจมีมหาสมุทรใต้พื้นผิว - โครงสร้างซับซ้อน
ภายในประกอบด้วยแกนเหล็ก-หิน, ชั้นไฮโดรเจนโลหะเหลวที่ก่อสนามแม่เหล็ก และชั้นบรรยากาศไฮโดรเจน-ฮีเลียมที่ให้สีเหลืองทองเฉพาะตัว - ชื่อที่มากับตำนาน
“Saturn” มาจากเทพโรมันแห่งกาลเวลาและการเกษตร ตรงกับเทพโครนอสในตำนานกรีก ส่วนในภาษาไทย “เสาร์” มาจากภาษาสันสกฤต Śani ซึ่งมีความหมายถึงเทพแห่งกรรมและโชคชะตา - ประวัติการค้นพบที่น่าทึ่ง
ค.ศ.1610 กาลิเลโอ เห็นวงแหวนแต่เข้าใจว่าเป็น “หู” ก่อนที่ คริสเตียน ฮอยเกนส์ จะยืนยันว่าเป็นวงแหวนจริงในปี 1655 และ โจวันนี แคสสินี พบช่องว่างวงแหวนที่เรารู้จักกันจนถึงปัจจุบัน - ยานอวกาศคู่หู-คู่แค้น
Pioneer 11, Voyager 1-2 และ Cassini-Huygens คือยานที่เคยสำรวจดาวเสาร์ โดย Cassini ปิดภารกิจด้วยการพุ่งเข้าสู่ดาวเสาร์ในปี 2017 - พายุหกเหลี่ยมลึกลับ
ที่ขั้วเหนือของดาวเสาร์มีพายุรูปหกเหลี่ยมขนาดยักษ์ ความเร็วลมสูงถึง 530 กม./ชม. เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ทั้งหมด - ออโรราแห่งดาวเสาร์
เช่นเดียวกับโลก ดาวเสาร์มีแสงเหนือเกิดจากลมสุริยะปะทะสนามแม่เหล็ก ก่อให้เกิดการเรืองแสงสีฟ้าและเขียวรอบขั้วดาว - ดาวเสาร์ไร้วงแหวน (ชั่วคราว)
ทุก 15 ปี ระนาบวงแหวนเอียงจนมองจากโลกเหมือนไม่มีวงแหวน ครั้งล่าสุดเกิดเมื่อมีนาคม 2568 และครั้งหน้าจะเกิดอีกในปี 2040 - ใกล้โลกที่สุดในรอบปี
ปรากฏการณ์ Saturn Opposition ปีนี้คือวันที่ 21 กันยายน 2568 ที่ระยะ 1,279 ล้านกิโลเมตร เปิดโอกาสให้สังเกตดาวเสาร์ได้ตลอดคืน
บรรยากาศการชมดาวเสาร์ทั่วไทย
กิจกรรมสังเกตการณ์ตามหอดูดาวทั้ง 5 แห่งเต็มไปด้วยผู้คน ทั้งนักเรียน ครอบครัว และผู้สนใจทั่วไป ทุกคนตื่นเต้นเมื่อได้เห็นวงแหวนดาวเสาร์ด้วยตาตัวเอง แม้วงแหวนในปีนี้จะบางเฉียบจากตำแหน่งการโคจร แต่ก็ยังงดงามจนเรียกเสียงฮือฮา
หลายคนยังได้เห็น ดวงจันทร์ไททัน ดวงใหญ่ที่สุดของดาวเสาร์ผ่านกล้องโทรทรรศน์ ขณะที่การถ่ายทอดสดทางออนไลน์ก็มีผู้ชมหลายพันคนร่วมเป็นสักขีพยานในปรากฏการณ์ครั้งนี้
ดาวเสาร์หลังจากนี้
ดาวเสาร์จะยังคงปรากฏบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนไปจนถึง กุมภาพันธ์ 2569 ก่อนจะค่อย ๆ เลือนหายไป ส่วนปรากฏการณ์ใกล้โลกที่สุดครั้งถัดไปจะเกิดในวันที่ 4 ตุลาคม 2569 ผู้สนใจสามารถเตรียมตัวรอชมความมหัศจรรย์ของดวงดาวที่ได้ชื่อว่า “เพชรแห่งระบบสุริยะ” ได้อีกครั้ง
สรุป
ค่ำคืนแห่ง ดาวเสาร์ใกล้โลก คือช่วงเวลาที่ธรรมชาติส่งมอบความงดงามให้กับสายตามนุษย์ ไม่เพียงเป็นโอกาสในการชมดวงดาว แต่ยังเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้จักรวาลและความมหัศจรรย์ของฟากฟ้า ใครที่พลาดคืนนี้ อย่าลืมติดตามการถ่ายทอดสดหรือเตรียมตัวให้พร้อมในครั้งถัดไป
ขอบคุณรูปภาพจากNARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา