การดูแลผู้สูงอายุถือเป็นภารกิจสำคัญของภาครัฐในปี 2568 โดยเฉพาะ บัตรสวัสดิการผู้สูงอายุ ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แต่ยังสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้ผู้สูงวัยมีเงินใช้จ่ายที่มั่นคงมากขึ้น บ้านกีฬา ขอพาผู้อ่านไปเจาะทุกมุม ตั้งแต่ขั้นตอนการเช็กสิทธิ์ การโอนเงิน ไปจนถึงเกณฑ์การรับเงินที่ควรรู้
วิธีเช็กสิทธิ์เงินผู้สูงอายุผ่านเว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th
กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เปิดช่องทางให้ผู้สูงอายุทุกคนตรวจสอบสิทธิได้ง่าย ๆ ด้วยตนเอง ผ่านเว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th
- เลือกเมนู “ตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคม”
- กรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
- คลิกตรวจสอบ ระบบจะแสดงข้อมูลสิทธิของท่าน
วิธีนี้ช่วยให้ผู้สูงอายุและครอบครัวสามารถตรวจสอบสิทธิได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และแม่นยำ ไม่ต้องเดินทางไปที่หน่วยงานให้เสียเวลา
เงินผู้สูงอายุ 2568 ได้เท่าไรบ้าง
รัฐบาลกำหนดอัตราเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ ดังนี้
- อายุ 60 – 69 ปี : ได้รับ 600 บาท/เดือน
- อายุ 70 – 79 ปี : ได้รับ 700 บาท/เดือน
- อายุ 80 – 89 ปี : ได้รับ 800 บาท/เดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป : ได้รับ 1,000 บาท/เดือน
นอกจากนี้ ยังมี เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ โดยได้รับเพิ่มเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 8 เดือน รวมสูงสุด 800 บาทต่อคน
กำหนดการโอนเงินผู้สูงอายุ กันยายน 2568
กรมบัญชีกลางจัดรอบการโอนเงินเพื่อกระจายภาระงานและลดความหนาแน่นของผู้รับสิทธิ โดยแบ่งเป็น 3 รอบ
- รอบที่ 1 : วันที่ 16 กันยายน 2568 สำหรับผู้ที่เกิดก่อนปี 2496
- รอบที่ 2 : วันที่ 17 กันยายน 2568 สำหรับผู้ที่เกิดระหว่างปี 2496 – 2502
- รอบที่ 3 : วันที่ 18 กันยายน 2568 สำหรับผู้ที่เกิดระหว่างปี 2503 – 2508
ทั้งนี้ เงินจะเข้าบัญชี พร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน หากยังไม่ได้ผูกบัญชีต้องรีบดำเนินการก่อนกำหนด เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิ
ปัญหาที่เจอบ่อยและวิธีแก้ไข
วันที่ 17 กันยายน 2568 มีผู้รับสิทธิจำนวนมาก ทำให้บางคนได้รับเงินล่าช้ากว่ากำหนด โดยกรมบัญชีกลางยืนยันว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีครบทุกคนภายใน 15.00 น. นอกจากนี้ยังมีมาตรการโอนซ้ำสำหรับผู้ที่โอนไม่สำเร็จ โดยกำหนดรอบแก้ไข 3 ครั้ง คือ
- 24 ตุลาคม 2568
- 24 พฤศจิกายน 2568
- 24 ธันวาคม 2568
ผู้สูงอายุที่ยังไม่ผูกพร้อมเพย์สามารถแจ้งความประสงค์ให้โอนเข้าบัญชีบุคคลอื่นได้ เพียงดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากเว็บไซต์โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ หรือขอได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด
ความสำคัญของการมีบัตรสวัสดิการผู้สูงอายุ
บัตรสวัสดิการผู้สูงอายุไม่ได้เป็นเพียงบัตรรับเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสร้างความมั่นคงในชีวิตประจำวัน
- ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ
- สร้างหลักประกันรายได้ในวัยชรา
- เพิ่มความมั่นใจให้ครอบครัวว่าผู้สูงวัยจะมีเงินเลี้ยงชีพ
- เชื่อมโยงเข้ากับสวัสดิการอื่น ๆ ของรัฐ เช่น การรักษาพยาบาลและการช่วยเหลือฉุกเฉิน
นี่คือหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลผลักดันต่อเนื่องเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศไทย
เคล็ดลับที่ควรรู้
- ควรผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนเป็นหลัก เพื่อให้การโอนเงินแม่นยำและรวดเร็ว
- หากมีปัญหา ให้รีบติดต่อ Call Center กรมบัญชีกลาง โทร. 0 2272 6400 ทันที
- ควรตรวจสอบสิทธิอย่างสม่ำเสมอผ่านเว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th
- ไม่ควรให้ผู้อื่นใช้สิทธิแทน เพราะอาจเกิดปัญหาการโอนเงินผิดบัญชี
สรุป
บัตรสวัสดิการผู้สูงอายุ คือหัวใจสำคัญในการช่วยเหลือผู้สูงวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บ้านกีฬา ขอย้ำว่าผู้มีสิทธิทุกท่านควรตรวจสอบสิทธิและผูกพร้อมเพย์ให้เรียบร้อย เพื่อรับเงินได้ตรงเวลาอย่างไม่สะดุด ถือเป็นสวัสดิการที่ภาครัฐจัดเต็มเพื่อคนไทยสูงวัยอย่างแท้จริง
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา
