
วันที่ 18 กันยายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยาออกคำเตือนเข้มข้นถึงประชาชนทั่วประเทศ หลังผลการพยากรณ์ล่าสุดจากแบบจำลองของ ศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) ชี้ชัดว่า ตั้งแต่วันนี้ยาวไปถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ประเทศไทยจะเจอ มรสุมมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ฝนเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอีสาน ภาคกลาง และตอนบนของภาคเหนือ
ฝนสะสม 15 วัน ระวังหนัก 22–25 กันยายน
ข้อมูลการตรวจวัดบ่งชี้ว่า ระหว่างวันที่ 22–25 กันยายน จะเป็นช่วงที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะฝนจะตกหนักต่อเนื่องจนเกิดการสะสมในหลายจังหวัด เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และการสัญจรลำบาก ใครที่ต้องเดินทางต่างจังหวัดหรือไปทำงานกลางแจ้ง แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์กันฝน เช่น ร่ม เสื้อกันฝน รองเท้ากันลื่น และวางแผนเส้นทางล่วงหน้า
สัญญาณพายุปลายเดือน
ปลายเดือนกันยายน โดยเฉพาะวันที่ 26–27 ก.ย. มีสัญญาณการก่อตัวของพายุที่อาจเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ แม้ยังไม่แน่ชัดว่าจะเข้าสู่ไทยหรือไม่ แต่ผลกระทบแน่นอนคือฝนจะเพิ่มปริมาณและความรุนแรงในหลายพื้นที่ จึงควรติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ประกาศฉบับแรก “พายุดีเปรสชัน”
ล่าสุด (18 ก.ย. 68) กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 1 ระบุว่า พายุดีเปรสชันที่ก่อตัวบริเวณฟิลิปปินส์ได้เคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว และคาดว่าจะทวีกำลังเป็น พายุโซนร้อน ก่อนขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของจีน วันที่ 19–20 กันยายน แม้พายุลูกนี้จะไม่เข้าไทยโดยตรง แต่ทำให้ ร่องมรสุมขยับขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือและอีสาน ส่งผลให้มีฝนตกหนักหลายจุด
ทำไมฝนถึงตกหนักช่วงนี้?
ฝนที่ตกในรอบนี้เป็นผลจาก แนวร่องมรสุม ที่พาดผ่านตอนกลางของประเทศ ผสมกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่มักก่อตัวบริเวณทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดเมฆฝนสะสมมากขึ้น สถานการณ์ลักษณะนี้เป็นวงจรประจำฤดูฝนของไทยที่มักเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายน–ตุลาคม
ช่วงเวลาเสี่ยงต้องระวัง
- 17–21 ก.ย. : ฝนเพิ่มขึ้นทั่วไทย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
- 22–25 ก.ย. : ระวังฝนหนักสะสม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
- 26–27 ก.ย. : มีสัญญาณพายุเข้าใกล้ ต้องติดตามใกล้ชิด
- ปลายก.ย.–ต้นต.ค. : ฝนยังตกต่อเนื่องจากร่องมรสุม
เคล็ดลับรับมือหน้าฝน
- ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง ทุกครั้ง โดยเฉพาะการเดินทางไกล
- ชาร์จแบตมือถือให้เต็ม เผื่อใช้ติดต่อฉุกเฉินหรือเช็กข้อมูลพยากรณ์อากาศ
- หลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เช่น ทางต่ำ ใต้สะพาน หรือพื้นที่ลุ่ม
- ป้องกันสุขภาพ เตรียมยาสามัญประจำบ้าน เพราะโรคที่มากับหน้าฝน เช่น ไข้หวัด ไข้เลือดออก มักระบาดช่วงนี้
- เกษตรกร ควรวางแผนการเพาะปลูก ปรับระบบระบายน้ำในแปลงนา และติดตามประกาศกรมอุตุฯ อย่างใกล้ชิด
สิ่งที่ต้องเข้าใจเกี่ยวกับข่าวพายุในโซเชียล
ช่วงนี้โลกออนไลน์แชร์ข่าวการก่อตัวของพายุถี่มาก หลายครั้งเป็นข้อมูลที่ไม่ผ่านการวิเคราะห์เชิงวิชาการ กรมอุตุฯ ยืนยันว่า ภายใน 7 วันแรกยังถือว่าเป็นสภาพฝนตามฤดูกาล ไม่ควรตื่นตระหนกเกินไป แต่ควรใช้ข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา เป็นหลัก และติดตามประกาศอย่างต่อเนื่อง
คำเตือนสุดท้าย
ฝนคือเรื่องธรรมชาติ แต่ผลกระทบของฝนหนักไม่ธรรมดา ทั้งน้ำท่วม บ้านเรือนเสียหาย ไปจนถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสุขภาพ ดังนั้น 15 วันข้างหน้านี้คือช่วงที่คนไทยต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะแม้พายุจะไม่เข้าไทยโดยตรง แต่ อิทธิพลของมรสุมและร่องความกดอากาศ ก็ก่อให้เกิดฝนหนักได้ทั่วประเทศ
บ้านกีฬา ขอย้ำให้ทุกคนติดตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ป้องกันก่อนแก้ไข และใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
ขอบคุณรูปภาพจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา