สืบ นาคะเสถียร 35 ปีแห่งการรำลึก เสียงปืนที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์การอนุรักษ์ป่าของไทย

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

1 กันยายน 2568 ครบรอบ 35 ปีแห่งการจากไปของ สืบ นาคะเสถียร ชายผู้พลิกชะตาการอนุรักษ์ป่าของประเทศไทย เรื่องราวของเขายังคงสะท้อนก้องในใจของคนไทยทุกคน เขาคือผู้ที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อผืนป่าและสัตว์ป่าที่ไร้เสียง จนวันนี้ชื่อของเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความเสียสละ ความมุ่งมั่น และแรงบันดาลใจที่ไม่เคยเลือนหาย

จากเด็กปราจีนบุรีสู่หัวใจแห่งการอนุรักษ์

สืบ นาคะเสถียร เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2492 ที่จังหวัดปราจีนบุรี มีชื่อเดิมว่า สืบยศ นาคะเสถียร เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความรักธรรมชาติ ก่อนสอบเข้าเรียนที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 35 และก้าวเข้าสู่เส้นทางนักอนุรักษ์เต็มตัวในปี 2524 ด้วยตำแหน่งหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระ จังหวัดชลบุรี

เสียงสะท้อนจากเชี่ยวหลาน และการคัดค้านเขื่อนน้ำโจน

ในปี 2529 สืบได้เป็นหัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าที่เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาเห็นความจริงอันเจ็บปวดว่าสัตว์ป่าจำนวนมากตายไปเพราะการสร้างเขื่อน และเป็นที่มาของวาทะอมตะที่คนไทยยังคงจดจำ
“ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่าทุกตัว เพราะพวกเขาพูดเพื่อตัวเองไม่ได้”
วลีนี้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการต่อสู้คัดค้านเขื่อนน้ำโจนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี

การตัดสินใจที่ห้วยขาแข้ง

ปี 2532 สืบได้รับโอกาสไปศึกษาต่อปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษ แต่เขากลับเลือกปฏิเสธเพื่อเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ที่ซึ่งเขาต้องเผชิญกับการบุกรุกป่า การล่าสัตว์ และแรงกดดันจากผู้มีอิทธิพล
ปัญหาเหล่านี้ทำให้เขาเหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ กระทั่งเช้ามืดวันที่ 1 กันยายน 2533 สืบได้เขียนพินัยกรรมและจดหมายลาตาย ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตนเองด้วยอาวุธปืน ณ บ้านพักในห้วยขาแข้ง โดยยืนยันว่าเป็นการกระทำด้วยเจตนาของเขาเอง

เสียงปืนที่ปลุกสังคมไทย

หลังการจากไปของสืบ หน่วยงานภาครัฐจึงเริ่มขยับและหันมาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ผืนป่าอย่างจริงจัง หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ถ้าไม่มีเสียงปืนในวันนั้น ก็อาจไม่มีการอนุรักษ์ป่าที่เข้มข้นเท่าวันนี้”
และในปี 2534 ผืนป่าห้วยขาแข้งและทุ่งใหญ่นเรศวร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก อันเป็นผลงานที่สืบเคยใช้เอกสารและงานวิจัยของตนเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอชื่อ

ห้วยขาแข้งวันนี้ ความหวังของโลก

35 ปีผ่านไป ห้วยขาแข้งไม่เพียงคงความสมบูรณ์ แต่ยังกลายเป็นแหล่งอนุรักษ์เสือโคร่งที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก งานวิจัยยืนยันว่าประชากรเสือโคร่งในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการฟื้นฟูประชากรแร้งที่หายไปนานกว่าสามทศวรรษก็เริ่มเห็นผลแล้ว
นอกจากนี้ ชุมชนรอบห้วยขาแข้งได้พัฒนาเป็น “ป่าชุมชน” สร้างเครือข่าย #ครอบครัวห้วยขาแข้ง ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าดูแลผืนป่า สร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ ถือเป็นแบบอย่างของการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่าได้อย่างยั่งยืน

ผลงานที่เป็นรูปธรรม

  • พื้นที่ป่าอนุรักษ์ของประเทศไทยขยายจากเป้าหมาย 20% จนเกินกว่า 25% ของพื้นที่ประเทศ
  • เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้รับการฝึกอบรมและสวัสดิการที่ดีขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการปกป้องป่า
  • การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมถูกยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่มากมาย

มรดกที่สืบฝากไว้

สืบ นาคะเสถียร ไม่ได้จากไปเปล่า เขาฝากเจตนารมณ์ไว้ให้คนรุ่นหลัง ว่าผืนป่าและสัตว์ป่าเป็นสมบัติของชาติที่ต้องร่วมกันรักษา และวันนี้ประเทศไทยยังตั้งเป้าหมายให้มีพื้นที่ป่า 40% ของประเทศ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน

รำลึก 35 ปี… สืบ นาคะเสถียร

ทุกวันที่ 1 กันยายน จึงถูกกำหนดให้เป็น วันสืบ นาคะเสถียร วันที่ประชาชนได้ร่วมรำลึกถึงผู้ชายที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อผืนป่า
เขาอาจจากไปแล้ว แต่ชื่อ “สืบ นาคะเสถียร” จะยังคงอยู่ในทุกลมหายใจของป่าไม้ไทย และในหัวใจของผู้ที่เชื่อว่า ธรรมชาติคือรากฐานของชีวิต

ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา