
นครศรีธรรมราช – ความจริงที่รอการเปิดเผยนานกว่าเดือนครึ่งกำลังคลี่คลาย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบศพถูกฆ่าฝังดินกลางหุบเขาใน อ.ช้างกลาง คาดว่าเป็นร่างของ “ฟิล์ม หลักช้าง” ชายหนุ่มวัย 36 ปี ผู้พัวพันขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา
การขุดค้นครั้งนี้เกิดขึ้นหลังตำรวจทำงานต่อเนื่องกว่า 45 วัน ทั้งจาก สภ.ช้างกลาง, ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และกองกำกับการสืบสวนจังหวัดนครศรีธรรมราช จนได้เบาะแสสำคัญว่า นายปฏิพล พิทักษ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ฟิล์ม หลักช้าง” ไม่ได้เพียงหายตัว แต่ถูกลวงไปสังหาร ก่อนขุดหลุมฝังอำพรางไว้บริเวณเนินเขาใกล้สวนทุเรียนในพื้นที่บ้านหน้าเหมน หมู่ 12 ตำบลช้างกลาง
ร่องรอยการฆาตกรรมกลางภูเขา
หลักฐานในพื้นที่สะท้อนถึงการลงมืออย่างโหดเหี้ยม เจ้าหน้าที่พบร่องรอยเครื่องจักรหนักที่ถูกใช้ขุดดินลงลึกกว่า 1 เมตร ภายในหลุมมีศพถูกห่อด้วยผ้าคล้ายผ้าห่ม มัดด้วยเชือกไนล่อนและส่งกลิ่นเน่าโชยไปทั่วบริเวณ การเก็บวัตถุพยานทุกชิ้นถูกทำอย่างละเอียด ทั้งเชือก เศษวัตถุรอบศพ และร่องรอยการฝัง เพื่อใช้เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
ครอบครัวผู้ตาย โดยเฉพาะพ่อและแม่ของนายปฏิพล เดินทางมาร่วมตรวจสอบศพด้วยน้ำตา เมื่อพบว่ารอยสักที่แผ่นหลังตรงกับบุตรชายของตน ยืนยันว่าเป็น “ฟิล์ม หลักช้าง” อย่างแน่นอน แม้ยังต้องรอผลชันสูตรทางการแพทย์เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิต
ปมขัดแย้งธุรกิจมืด
การหายตัวไปของ “ฟิล์ม หลักช้าง” สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของขบวนการค้ายาเสพติดที่กว้างขวางในพื้นที่ ภายหลังตำรวจพบว่า นายปฏิพลเกี่ยวพันกับการ “หักหลัง” ในการลักลอบค้ายาบ้า โดยเฉพาะกรณี เบี้ยวหนี้ค่ายา 21 มัด คิดเป็น 42,000 เม็ด จนถูกหมายหัวจากกลุ่มค้ายาที่มีอิทธิพล
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า ตำรวจสามารถขยายผลจับกุมและยึดยาบ้าได้มากกว่า 300,000 เม็ด ในพื้นที่ใกล้กับจุดที่พบศพ ยิ่งตอกย้ำถึงขนาดเครือข่ายที่นายปฏิพลเข้าไปพัวพัน
เครือข่ายผู้ต้องสงสัยและการดำเนินคดี
พ.ต.อ.พงศ์พิชาญ ชยานนท์พิริย ผกก.สภ.ช้างกลาง เปิดเผยว่าตำรวจได้เบาะแสผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 5 ราย ซึ่งถูกจับกุมในพื้นที่ จ.พังงา ภายใต้คดีอาวุธปืนและยาเสพติด ก่อนที่จะรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการอุ้มฆ่าและนำชี้จุดฝังศพ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอหมายจับอย่างเป็นทางการจากศาลทุ่งสง เพื่อนำตัวทั้งหมดมาดำเนินคดีฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาและเกี่ยวพันกับยาเสพติด
มุมมองเชิงสังคมและบทเรียน
กรณีของ “ฟิล์ม หลักช้าง” สะท้อนปัญหา ยาเสพติดที่ฝังรากลึกในภาคใต้ และการจัดการของขบวนการค้าที่โหดเหี้ยมไม่ต่างจากมาเฟีย ย้ำเตือนว่าความโลภและการหักหลังในเส้นทางมืดนี้มักจบลงด้วยความตาย ไม่เพียงทำลายชีวิตของผู้พัวพัน แต่ยังสร้างบาดแผลให้ครอบครัวและสังคม
สำหรับประชาชนทั่วไป กรณีนี้คือบทเรียนชัดเจนว่า ยาเสพติดไม่เพียงผิดกฎหมาย แต่ยังเป็นกับดักแห่งความตาย ที่พาเข้าสู่ความรุนแรงและความสูญเสียอย่างไม่มีทางย้อนคืน
บทสรุป
คดี “ฟิล์ม หลักช้าง” ไม่ใช่เพียงเรื่องของการหายตัวไป แต่คือ โศกนาฏกรรมอันโหดเหี้ยมของธุรกิจผิดกฎหมาย ที่สะท้อนโครงสร้างของเครือข่ายค้ายาที่ฝังลึกในพื้นที่ ความจริงที่ถูกเปิดเผยครั้งนี้กำลังจะนำไปสู่การดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งสังคมไทยต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ความยุติธรรมจะมาถึงครอบครัวผู้สูญเสียได้มากน้อยเพียงใด
📌 ติดตาม ข่าวเด่น และ ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา