
วันนี้ (27 สิงหาคม 2568) กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนให้ประชาชนในหลายพื้นที่ระวังภัยจาก ฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะ 39 จังหวัดทั่วประเทศ ที่มีความเสี่ยงเจอทั้งน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก็ไม่พ้นโดนฝนถล่มเช่นกัน สถานการณ์ครั้งนี้เกิดจากอิทธิพลของ พายุคาจิกิ ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ แต่ยังคงก่อให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
ทำไมถึงฝนตกหนักทั่วประเทศ?
สาเหตุสำคัญมาจาก ร่องมรสุม ที่พาดผ่านประเทศเมียนมาเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำเหนือภาคเหนือ ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะบริเวณใกล้ภูเขาและทางน้ำไหลผ่าน ซึ่งเสี่ยงสูงต่อการเกิด น้ำป่าไหลหลาก และ น้ำท่วมฉับพลัน
พื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ
- ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์
- ภาคอีสานตอนบน: เลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ และขอนแก่น
- ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด
- ภาคใต้: ชุมพร ระนอง พังงา และพื้นที่รอบอ่าวไทย
กรมอุตุฯ เน้นย้ำว่าประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่ใกล้ทางน้ำ ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีฝนตกสะสมหลายวัน อาจทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นได้
รายงานพยากรณ์อากาศแต่ละภูมิภาค
- ภาคเหนือ: ฝนฟ้าคะนอง 80% ของพื้นที่ ฝนตกหนัก-หนักมาก อุณหภูมิสูงสุด 32°C ต่ำสุด 21°C
- ภาคอีสาน: ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 33°C
- ภาคกลาง: ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ไม่รอด
- ภาคตะวันออก: ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ ระยอง-จันทบุรี-ตราด เจอหนัก คลื่นสูงกว่า 2 เมตร
- ภาคใต้ฝั่งตะวันออก: ฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ เน้นเพชรบุรี ประจวบฯ และชุมพร
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ ระนอง-พังงาเจอฝนถล่มหนัก
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล: ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ เสี่ยงน้ำรอการระบาย
อันตรายที่มากับฝน
- น้ำท่วมฉับพลัน – มักเกิดในพื้นที่เมืองที่มีระบบระบายน้ำไม่ทัน โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่ประชาชนต้องเผื่อเวลาเดินทาง
- น้ำป่าไหลหลาก – อันตรายร้ายแรงในพื้นที่ภูเขา เช่น ภาคเหนือและอีสานตอนบน
- คลื่นลมแรงในทะเล – อันดามันและอ่าวไทยยังมีคลื่นสูง 2 เมตรขึ้นไป เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
เคล็ดลับเอาตัวรอดในช่วงฝนตกหนัก
- ติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศทุกวัน
- เก็บของมีค่าและอุปกรณ์ไฟฟ้าไว้ในที่สูง
- หลีกเลี่ยงการเดินทางในเส้นทางน้ำท่วมขัง
- เตรียมไฟฉายและแบตสำรองสำหรับการสื่อสาร
- หากอยู่ใกล้เขาหรือทางน้ำ ต้องเตรียมแผนหนีภัยทันที
สถานการณ์พายุคาจิกิ
แม้พายุ “คาจิกิ” จะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังทำให้ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ล่าสุดกรมอุตุฯ ย้ำว่า 26 จังหวัดยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางภาคเหนือและอีสานที่มีฝนตกหนักสะสมติดต่อกันหลายวัน
มองในมุมยาว (ข้อมูลที่ควรรู้ตลอดปี)
ประเทศไทยอยู่ในเขตมรสุมเขตร้อน การเผชิญฝนถล่ม น้ำท่วม และพายุเป็นเรื่องปกติในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมทุกปี ซึ่งเรียกกันว่า ฤดูฝน ประชาชนควรทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่น ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา ที่มีผลโดยตรงต่อฝนฟ้าและภัยธรรมชาติ นอกจากนี้การเตรียมความพร้อมทั้งในครัวเรือนและระดับชุมชนถือเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่จะลดความเสียหายได้
⚠️ วันนี้ใครที่อยู่ใน 39 จังหวัดตามที่กรมอุตุฯ เตือน อย่าประมาทเด็ดขาด ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง และวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัว
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกการอัปเดตสำคัญ