สะเทือนมหาดไทย! ครม.ไฟเขียวโยกย้ายใหญ่ ข้าราชการ-ผู้ว่าฯ 25 ตำแหน่ง เกมล้างบาง-จัดระเบียบอำนาจการเมือง

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

การประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 19 สิงหาคม 2568 กลายเป็นจุดสนใจทั้งประเทศ เมื่อมีการ แต่งตั้ง-โยกย้ายข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมแล้วถึง 25 ตำแหน่ง ถือเป็นการขยับตัวครั้งใหญ่ที่ไม่ใช่แค่การปรับระบบราชการ แต่ยังโยงลึกไปถึง สมรภูมิการเมืองระดับชาติ

เกมโยกย้ายครั้งใหญ่ที่ต้องจับตา

นาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามขับเคลื่อนการโยกย้ายครั้งนี้ โดยยืนยันว่า “ไม่ได้โยกย้ายตามฐานเสียงพรรคการเมือง” แต่เน้นพิจารณาจาก ความสามารถและประสบการณ์ ของข้าราชการแต่ละราย พร้อมระบุว่า นี่ไม่ใช่รอบสุดท้าย เพราะยังมีการปรับอีกชุดในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สังคมและนักวิเคราะห์การเมืองกลับมองว่า การโยกย้ายรอบนี้สะท้อนชัดถึงการจัดระเบียบอำนาจใหม่ หลังเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยถูกเปลี่ยนมือจากพรรคภูมิใจไทย กลับมาอยู่ในกำกับของพรรคเพื่อไทย

รายชื่อผู้ว่าฯ-ข้าราชการที่ถูกโยกย้าย

การโยกย้ายครั้งนี้ครอบคลุมทั้ง ระดับผู้ว่าราชการจังหวัด อธิบดี และรองปลัดกระทรวง โดยมี 25 รายชื่อสำคัญ อาทิ

  • 1. จุมพฎ วรรณฉัตรสิริ พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย 
  • 2.  ชูชีพ พงษ์ไชย พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย 
  • 3. ชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรการ พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 
  • 4. ณรงค์ เทพเสนา พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ
  • 5. ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 
  • 6.  ปราชญา อุ่นเพชรวรากร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 
  • 7.  วีระพันธ์ ดีอ่อน พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 
  • 8.ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย
  • 9.  อังกูร ศีลาเทวากูล พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการ 
  • 10. สุรศักดิ์ อักษรกุล พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ไปเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน 
  • 11. รัฐศาสตร์ ชิดชู พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่12.  ชรินทร์ ทองสุข พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น 
  • 12.  ชรินทร์ ทองสุข พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น 
  • 13. นริศ นิรามัยวงศ์ พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี 
  • 14. รัฐพล นราดิศร พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย 
  • 15. ทศพล เผื่อนอุดม พ้นจากผู้ตรวจราชการ ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่
  • 16. ศุภมิตร ชิณศรี พ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ 
  • 17. เอกวิทย์ มีเพียร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี 
  • 18.ศรัณย์ศักดิ์ ศรีเครือเนตร พ้นจากผู้ตรวจราชการ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต 
  • 19. .ชุติพร เสชัง พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน
  • 20. วิบูรณ์ แววบัณฑิต พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง 
  • 21. สยาม ศิริมงคล พ้นจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ 
  • 22. ชยชัย แสงอินทร์ พ้นจากผู้ตรวจราชการ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดสมุทรสงคราม 
  • 23. สมบัติ ไตรศักดิ์ จากผู้ตรวจราชการ ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี
  • 24. อนุรัตน์ ธรรมประจำจิต พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ 
  • 25. ชำนาญ ชื่นตา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี

การโยกย้ายนี้ถูกมองว่าเป็นการ “สลับหมาก” สำคัญ เพื่อให้ข้าราชการที่มีประสบการณ์ไปเสริมความเข้มแข็งในจังหวัดยุทธศาสตร์ และบางกรณีถูกตีความว่าเป็นการ ตัดอำนาจเครือข่ายการเมืองเก่า

ล้างบาง “สีน้ำเงิน” – สัญญาณทางการเมืองที่ชัดเจน

หนึ่งในประเด็นร้อนคือ การเด้ง 8 ผู้ว่าฯ ที่ถูกมองว่าเป็นฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทย เข้ากรุไปนั่งเก้าอี้ผู้ตรวจราชการและรองปลัดมหาดไทย นักการเมืองและนักวิชาการหลายฝ่ายมองว่าเป็นการ ล้างบางเครือข่ายสีน้ำเงิน อย่างเป็นระบบ เพื่อย้ำอำนาจใหม่ของพรรคเพื่อไทยในการกุมมหาดไทย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม กระทรวงมหาดไทยก็ได้มีการปรับตำแหน่งสำคัญในกรมปกครอง กรมที่ดิน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งล้วนแต่เชื่อมโยงกับเครือข่ายภูมิใจไทยทั้งสิ้น

ทำไมการโยกย้ายมหาดไทยจึงสำคัญ?

กระทรวงมหาดไทยถือเป็น หัวใจของระบบราชการไทย เพราะมีอำนาจกำกับดูแลจังหวัดกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น การบริหารทรัพยากร และการกำหนดทิศทางพัฒนาในพื้นที่ การที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเปลี่ยนมือจึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่อ แต่ยังเป็นการเปลี่ยนดุลอำนาจในพื้นที่นั้น ๆ

การโยกย้ายจึงกลายเป็น “เกมการเมือง” ที่พรรคใหญ่ต้องใช้เพื่อรักษาหรือขยายฐานเสียงของตัวเองในอนาคต

มุมมองต่ออนาคต – การเมืองท้องถิ่นร้อนแรงแน่

หลังการโยกย้ายล็อตนี้ หลายพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดยุทธศาสตร์ เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต และอุบลราชธานี จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นพื้นที่แข่งขันของหลายพรรคการเมืองใหญ่

การเมืองท้องถิ่นจึงมีแนวโน้มร้อนแรงขึ้นทันที โดยเฉพาะเมื่อพรรคภูมิใจไทยถูกมองว่า เสียขุมกำลังสำคัญไป การเลือกตั้งรอบหน้าจึงอาจกลายเป็นศึกใหญ่ที่ดุเดือดยิ่งกว่าเดิม

บทเรียนที่สังคมควรตระหนัก

  1. ระบบราชการกับการเมืองแยกไม่ขาด – แม้รัฐจะยืนยันว่าการโยกย้ายดูตามผลงาน แต่ความจริงการเมืองท้องถิ่นยังคงมีอิทธิพลสูง
  2. ผู้ว่าฯ คือกลไกสำคัญของรัฐ – การเลือกผู้ว่าที่มีความสามารถจึงส่งผลโดยตรงต่อประชาชน ทั้งด้านความปลอดภัย การพัฒนา และการจัดการทรัพยากร
  3. ความโปร่งใสคือหัวใจ – เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่น จำเป็นต้องเปิดเผยเหตุผลการแต่งตั้งโยกย้ายอย่างชัดเจน ลดข้อครหาว่าเป็นเพียงเกมการเมือง

✅ ครม.โยกย้ายครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่ “การเปลี่ยนเก้าอี้” แต่คือการขยับอำนาจครั้งใหญ่ที่ส่งผลทั้งต่อ ระบบราชการ การเมือง และอนาคตของประชาชนในพื้นที่

👉 ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวการเมืองและราชการที่สังคมต้องรู้

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา