กสิกรไทยชี้ไทยเสี่ยงเงินฝืด จับตาเงินเฟ้อลดแรง – สินค้าต่างประเทศจ่อทะลักกดราคาผู้ประกอบการไทย

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยช่วงกลางปี 2568 กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เมื่อ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (KResearch) และ Krungthai COMPASS ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่ประเทศไทยอาจเผชิญ ภาวะเงินฝืด จากแรงกดดันทั้งด้านราคาและการนำเข้าสินค้าราคาถูก โดยเฉพาะจากจีน ที่มีสัดส่วนการส่งออกเข้าสู่ไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เงินเฟ้อต่ำต่อเนื่อง – สัญญาณเตือนเงินฝืดใกล้ตัว

ข้อมูลล่าสุดของ KResearch ระบุว่า อัตราเงินเฟ้อไทยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2568 อยู่เพียง 0.21% YoY ซึ่งถือว่าต่ำมาก และมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่สภาวะเงินฝืด เนื่องจากราคาสินค้าในประเทศหลายหมวด เช่น เครื่องแต่งกาย ของใช้ส่วนตัว และของตกแต่งบ้าน ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

แม้ KResearch จะยังคงประเมินเงินเฟ้อเฉลี่ยตลอดปี 2568 ไว้ที่ 0.3% แต่คาดว่าไตรมาส 3 จะยังคงติดลบ และต้องรอถึงไตรมาส 4 ที่ราคาสินค้าเกษตรอย่าง เนื้อหมู อาจปรับสูงขึ้นจากฐานราคาที่ต่ำในปีก่อน ซึ่งจะช่วยพยุงเงินเฟ้อให้กลับมาเป็นบวกได้บ้าง

ปัจจัยเสี่ยงซ้ำซ้อน – เกษตร น้ำท่วม และข้อพิพาทชายแดน

นอกจากปัจจัยด้านราคาแล้ว ยังมีความเสี่ยงจากเหตุการณ์ภายนอก เช่น ข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา ที่อาจกระทบพื้นที่เพาะปลูกผลไม้ รวมถึงความเสี่ยงจาก อุทกภัย ในช่วงปลายปี ซึ่งอาจทำให้ผลผลิตเกษตรลดลง กระทบต่อทั้งราคาสินค้าและปริมาณสินค้าในตลาด

Krungthai COMPASS ชี้สินค้าต่างประเทศทะลัก – แข่งขันเดือดในตลาดไทย

ทาง Krungthai COMPASS วิเคราะห์ว่า แรงกดดันต่อเงินเฟ้อไทยจะต่อเนื่องจากการไหลบ่าของสินค้านำเข้าราคาถูก โดยเฉพาะจาก จีน ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนในมูลค่านำเข้าของไทยกว่า 30.9% (ข้อมูลมิถุนายน 2568) และหากนับเฉพาะสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค ตัวเลขสูงถึง 42% ของมูลค่าทั้งหมด

การแข่งขันทางราคาจึงทวีความรุนแรง เนื่องจากสินค้าจากจีนมีราคาถูกกว่าคู่แข่งจากประเทศอื่น และเข้ามาแทนที่สินค้าที่เคยส่งออกไปสหรัฐฯ ซึ่งถูกกีดกันทางการค้าจากมาตรการภาษี

บาทแข็ง – ดาบสองคมของเศรษฐกิจไทย

อีกปัจจัยที่ส่งผลคือ การแข็งค่าของเงินบาท ที่แม้ช่วยลดต้นทุนการนำเข้า แต่กลับทำให้สินค้านำเข้ามีราคาถูกลงมาก จนกระทบต่อผู้ประกอบการไทยที่ต้องแข่งขันกับราคานี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Krungthai COMPASS มองว่า การแข็งค่าของเงินบาทเกิดจากกระแสลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐฯ ของนักลงทุนเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจากปัญหานโยบายการเงินโลก ซึ่งแม้จะเป็นผลดีต่อผู้นำเข้า แต่ในระยะยาวอาจทำให้ผู้ผลิตไทยเผชิญแรงกดดันทางการแข่งขันอย่างหนัก

การเปิดตลาดสินค้านำเข้ากับสหรัฐฯ – ความท้าทายใหม่

การเปิดทางให้นำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่ถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีตอบโต้ อาจทำให้สินค้าทะลักเข้ามาในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องหาตลาดใหม่แทนการส่งออกไปสหรัฐฯ สิ่งนี้อาจทำให้การแข่งขันในตลาดไทยรุนแรงกว่าเดิม และกดดันเงินเฟ้อให้ต่ำต่อเนื่อง

มุมมองระยะยาว – ไทยต้องเร่งปรับตัว

บทเรียนจากสถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องหาทางออกจากการพึ่งพาสินค้านำเข้าราคาถูก และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการภายในประเทศ โดยการลงทุนในนวัตกรรม การสร้างแบรนด์ และการพัฒนาคุณภาพสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดที่เปิดกว้างและมีการแข่งขันรุนแรง

ในขณะเดียวกัน ภาครัฐต้องมีกลยุทธ์รับมือ ทั้งการดูแลราคาสินค้าเกษตร การบริหารอัตราแลกเปลี่ยน และการคุ้มครองผู้ประกอบการรายย่อยจากแรงกระแทกของสินค้าต่างประเทศ

ติดตาม ข่าวเด่น และ ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและการเงิน ที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคุณ

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา