
วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งวันประวัติศาสตร์สำหรับชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อ กองกำลังบูรพา ภายใต้ กองทัพภาคที่ 1 ประกาศความสำเร็จในการ ผลักดันทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่รุกล้ำ 4 จุดสำคัญในจังหวัดสระแก้ว โดยปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการแสดงพลังอธิปไตยที่ชัดเจนที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปี ท่ามกลางความตึงเครียดของสถานการณ์ชายแดน และความวิตกของประชาชนในพื้นที่
การผลักดันครั้งนี้ดำเนินการภายใต้แผนยุทธการ “จักรพงษ์ภูวนารถ 681” ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโต้การละเมิดสิทธิของไทยอย่างเป็นระบบ โดยมีการระบุชัดว่า กัมพูชาได้รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ที่อ้างสิทธิ์ตาม MOU ปี 2543 (MOU43) ครอบคลุมในพื้นที่ 4 จุด ได้แก่ 2 จุดใน อำเภอตาพระยา และอีก 2 จุดใน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นแนวเขตชายแดนที่มีประวัติศาสตร์การทับซ้อนกันของเขตแดนมาอย่างยาวนาน
หลังจากการ ผลักดันทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่ กองทัพบกได้มีคำสั่งให้ ตรึงกำลังทหารตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำซ้ำซ้อน และรักษาความมั่นคงในพื้นที่ อีกทั้งยังมีการ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ที่กัมพูชาล่วงล้ำเข้ามาโดยผิด MOU43 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดของประเทศไทยในการรักษาอธิปไตย
ในขณะเดียวกัน กองทัพไม่ได้ละเลยภารกิจดูแลประชาชน โดยมีการประสานกับฝ่ายปกครองในจังหวัดสระแก้วเพื่อ อพยพประชาชนจากจุดเสี่ยง ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เตรียมไว้จำนวน 19 จุด โดยมีผู้เข้าพักพิงแล้วกว่า 4,076 คน พร้อมได้รับการดูแลจาก มณฑลทหารบกที่ 19 ที่ตั้ง โรงครัวพระราชทาน คอยประกอบอาหารและดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้พลัดถิ่นด้วยความอบอุ่นหัวใจ
แม้สถานการณ์จะตึงเครียด แต่ผู้บัญชาการทหารบกอย่าง พลโท อมฤต บุญสุยา ได้ออกมายืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการปะทะหรือสู้รบอย่างรุนแรงในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ทั้งหมดเป็นการวางกำลังเชิงป้องกันเท่านั้น โดยมีเป้าหมายหลักคือ รักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนคนไทยทุกคน
ด้าน พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษก ศบ.ทก. และโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้ออกมาย้ำถึง ข่าวปลอมที่แพร่กระจายบนโซเชียล โดยเฉพาะกรณีที่มีเพจระบุว่า กัมพูชานำ รถยิง BM-21 จำนวน 20 คัน หันปลายปืนใส่ไทย ซึ่งจากการตรวจสอบของหน่วยข่าวกรองพบว่า ไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อและ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเคลื่อนไหวของกำลังทหาร ที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง
ทำไม “สระแก้ว” จึงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ?
จังหวัดสระแก้วถือเป็นแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคตะวันออก เพราะเชื่อมโยงกับพื้นที่เศรษฐกิจ การค้าชายแดน และยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่หากสูญเสียหรืออ่อนแอ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศโดยตรง สถานการณ์ชายแดนจึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองทุกฝีก้าว ทั้งในแง่ความมั่นคงและผลกระทบต่อประชาชน
ความเข้าใจเกี่ยวกับ MOU43 คืออะไร?
บันทึกความเข้าใจ MOU43 เป็นข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ลงนามในปี 2543 โดยสาระสำคัญคือ การหยุดสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือการกระทำใด ๆ ที่เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่พิพาทในแนวเขตแดนระหว่างสองประเทศ เพื่อรอการเจรจาแบ่งเขตอย่างเป็นทางการต่อไป การที่กัมพูชาเข้ามาสร้างสิ่งปลูกสร้างหรือส่งทหารเข้าประจำการในพื้นที่จึงถือเป็นการ ละเมิด MOU43 อย่างชัดเจน
คำเตือนจากฝ่ายความมั่นคง
เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่และทั่วประเทศ หน่วยงานด้านความมั่นคงขอความร่วมมือ ดังนี้
- งดบันทึกหรือแชร์ข้อมูลการเคลื่อนไหวของทหาร โดยเฉพาะคลิปวิดีโอ ภาพถ่าย หรือข้อความที่อาจส่งผลต่อความมั่นคง
- ระวังข่าวปลอม (Fake News) ที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย โปรดตรวจสอบแหล่งข่าวให้ดี เชื่อถือเฉพาะข้อมูลจากทางการเท่านั้น
สระแก้ววันนี้ไม่ใช่แค่จังหวัดชายแดน แต่คือแนวหน้าของอธิปไตยไทย
เสียงปืนอาจยังไม่ดัง แต่ความเงียบของชายแดนก็ไม่ควรถูกตีความว่าไร้ความหมาย เพราะในทุกเมตรของแนวชายแดนคือชีวิตของคนไทยที่รอให้รัฐปกป้อง และกองทัพก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ในยามวิกฤต พวกเขาจะไม่ยอมให้แผ่นดินไทยต้องถูกล่วงละเมิดแม้แต่นิ้วเดียว
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา