
เรื่องร้อนแรงที่พุ่งทะยานเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียลขณะนี้ หนีไม่พ้นประเด็น กยศ. เตือนลูกหนี้ 3.5 ล้านบัญชี รีบชำระหนี้ภายใน 5 กรกฎาคม 2568 พร้อมปัญหายอดหนี้ที่หลายคนพบว่า “ไม่ตรงตามตาราง” แม้จะจ่ายตรงเวลา จนกลายเป็นดราม่าหนักบนหน้าเพจดัง บ้านกีฬาในฐานะผู้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด ขอพาเจาะลึกทุกแง่มุมทั้งวิธีจ่ายหนี้ กยศ. ช่องทางใหม่ล่าสุด เหตุผลที่ยอดหนี้บวม และข้อเท็จจริงตามกฎหมายใหม่ที่ผู้กู้ทุกคนควรรู้!
กยศ. แจ้งเตือนตรงเวลา 5 ก.ค. ของทุกปี คือเส้นตาย!
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ออกโรงแจ้งลูกหนี้ทุกคนว่า วันที่ 5 กรกฎาคม ของทุกปี เป็น วันครบกำหนดชำระเงินรายปี โดยในปี 2568 นี้ มีผู้กู้กว่า 3.5 ล้านบัญชี ที่ต้องเร่งชำระหนี้ภายในวันดังกล่าว โดยผู้กู้สามารถตรวจสอบยอดค้างชำระผ่านแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ซึ่งปัจจุบันรองรับการแจ้งเตือนทั้ง SMS และ Notification ทันสมัยกว่าสมัยก่อนมาก
สำหรับวิธีการจ่ายหนี้ กยศ. ปัจจุบันถือว่าง่ายและสะดวกสุดๆ เพราะสามารถชำระได้ทุกธนาคารผ่าน Mobile Banking โดยสแกน QR Code ที่ปรากฏในแอปฯ ได้ทันที หรือเลือกช่องทางอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ทางการ www.studentloan.or.th ซึ่งเป็นช่องทางที่อัปเดตเสมอ
ทำไมยอดหนี้เพิ่ม? เจาะลึกดราม่า “ยอดบวม” บนโซเชียล
หลังจากเพจดังอย่าง Drama-addict เผยเคสของผู้กู้ที่จ่ายตรงทุกปี แต่ยอดกลับเพิ่มขึ้นจากตารางผ่อน จนเกิดข้อสงสัยและความไม่พอใจในหมู่ผู้กู้เป็นวงกว้าง โดยผู้กู้หลายรายโพสต์ว่าแม้จ่ายครบทุกปีจนแสดงเป็นยอด 0.00 บาท แต่พอถึงปีใหม่กลับมีหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นหลายพันบาท
กยศ. จึงต้องรีบออกมาชี้แจงว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดจาก กฎหมายใหม่ที่มีผลตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งกำหนดลำดับการตัดชำระใหม่ โดยระบบเดิมจะตัดไปที่เงินต้น 100% ก่อน โดยยังไม่ได้หักดอกเบี้ยและเบี้ยปรับตามลำดับที่กฎหมายกำหนด จึงทำให้ในแอปฯ แสดงยอดคงค้างแบบ “ไม่ตรงข้อเท็จจริง”
โดยหลักการใหม่ ผู้กู้ต้องจ่ายทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ เช่น งวดแรกอาจจ่ายแค่เงินต้น 6,000 บาท งวดถัดไปจะต้องเพิ่มดอกเบี้ย 500 บาท และเบี้ยปรับอีก 100 บาท รวม 6,600 บาท และจะเป็นแบบนี้ต่อเนื่องจนจบสัญญา ดังนั้นคนที่จ่ายหลังวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นมา จะถูกปรับยอดให้สอดคล้องกับระบบใหม่นี้ ซึ่ง ยอดใหม่ในแอปฯ จะอัปเดตภายในเดือนกรกฎาคม
ความรู้พื้นฐาน: ทำไมต้องรีบชำระหนี้ กยศ.
เหตุผลที่หลายคนมองข้ามคือ ทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายคืนเข้าไปจะถูกนำกลับมา “หมุนเวียน” ให้เด็กรุ่นต่อไปกู้เรียนต่อไป ปัจจุบัน กยศ. ช่วยเหลือนักเรียนและนักศึกษาไปแล้วกว่า 7.1 ล้านคน เป็นวงเงินกู้กว่า 8 แสนล้านบาท การชำระตรงเวลาไม่เพียงแค่ช่วยตัวเองไม่ต้องเสียดอกเบี้ยและเบี้ยปรับแพงๆ แต่ยังช่วยสังคมในระยะยาวด้วย
เทคนิคง่ายๆ เช็กยอดและวางแผนจ่าย กยศ. แบบมืออาชีพ
✅ ดาวน์โหลดและใช้แอปฯ กยศ. Connect เพื่อตรวจสอบยอดหนี้ที่แท้จริงทุกเดือน
✅ วางแผนเก็บเงินเพื่อจ่ายล่วงหน้า เผื่อดอกเบี้ยและค่าปรับตามกฎหมายใหม่
✅ หากพบยอดผิดปกติ ให้ติดต่อ สายด่วน กยศ. 0-2016-4888
✅ เลือกชำระหนี้ผ่าน Mobile Banking หรือ QR Code เพื่อความสะดวกและหลักฐานชัดเจน
กยศ. Connect ล่ม! ประเด็นระบบล่มในวันสำคัญ
วันครบกำหนด 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลายคนเจอปัญหาแอปฯ ล่มใช้ไม่ได้ สร้างความกังวลไปทั่วประเทศ ซึ่ง กยศ. ระบุว่ากำลังเร่งแก้ไขและขยายช่องทางสื่อสารเพื่อให้ผู้กู้ได้รับข้อมูลครบถ้วนเร็วขึ้น
สรุป: ลูกหนี้ต้องรู้สิทธิและหน้าที่
แม้จะมีดราม่าเรื่องยอดหนี้เพิ่ม แต่ผู้กู้ก็ยังต้องรับผิดชอบตามสัญญาอย่างเคร่งครัด เพราะการไม่จ่ายตรงเวลาไม่เพียงแต่เสียสิทธิ แต่ยังทำให้โดนดอกเบี้ยและเบี้ยปรับเพิ่มอีก แนะนำให้ตรวจสอบยอดบ่อยๆ สอบถามจนเข้าใจ และหากมีข้อสงสัยให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง
นี่คือเรื่องใหญ่ที่กระทบคนไทยเป็นล้านๆ บ้านกีฬา ขอเป็นกำลังใจให้ผู้กู้ทุกคนสู้ไปพร้อมกัน เพราะการศึกษาเปลี่ยนชีวิตได้ แต่ต้องรู้เท่าทันกฎหมายและสิทธิของตัวเองเสมอ
ติดตาม ข่าวกระแสมาแรง ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกประเด็นร้อนทั้งในและนอกสนาม