
สถานการณ์ล่าสุดของ ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ ทำให้ชื่อของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการลูกหนัง เมื่อบรรดากองหน้าตัวหลักต่างเจออาการบาดเจ็บเล่นงาน ส่งผลให้ “ต้น” กลายเป็นความหวังใหม่ในแนวรุกของชาติ นี่คือเวลาทองที่เขาจะต้องพิสูจน์ว่าไม่ใช่แค่ ซูเปอร์ซับ อีกต่อไป แต่พร้อมก้าวสู่การเป็น “หัวหอกตัวจริง” อย่างเต็มภาคภูมิในปี 2025
⚽ เมื่อกองหน้าตัวหลักเจ็บ! โอกาสทองของ “ธีรศักดิ์”
ทัพ ช้างศึก มีภารกิจสำคัญในศึก เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก รอบ 3 ที่กำลังจะมาถึง โดยจะลงสนามพบ ทีมชาติไต้หวัน 2 นัดติด วันที่ 9 และ 14 ตุลาคม 2568 ซึ่งถือเป็นเกมสำคัญต่อการลุ้นตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายอย่างยิ่งใหญ่
ทว่ากลับต้องเจอกับปัญหาใหญ่เมื่อแนวรุกตัวหลักทั้ง ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ปรเมศย์ อาจวิไล ต่างมีอาการบาดเจ็บ ไม่พร้อมช่วยทีม ทำให้ชื่อของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ดาวยิงวัย 23 ปี จาก การท่าเรือ เอฟซี กลายเป็นความหวังใหม่ในแดนหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่คือช่วงเวลาที่เขาต้องแสดงให้เห็นว่า พร้อมก้าวข้ามจากบทบาท “ซูเปอร์ซับ” สู่ “กองหน้าตัวหลัก” ของชาติในยุคใหม่ ภายใต้การนำของกุนซือญี่ปุ่นที่เน้นระบบเกมรุกหนักแน่นและการเพรสซิ่งสูง
📊 ตัวเลขชัด! ปี 2025 คือปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน
หากมองจาก สถิติในปี 2025 จะเห็นชัดว่า “ธีรศักดิ์” กำลังได้รับความไว้วางใจมากขึ้น ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ โดยเฉพาะจำนวนการลงสนามเป็น ตัวจริง ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ผลงานกับการท่าเรือ เอฟซี (ไทยลีก):
- ลงสนาม 7 นัด
- ยิงได้ 3 ประตู
- ลงเล่นเป็น ตัวจริง 4 นัด และ สำรอง 3 นัด
- น่าสนใจคือยิงได้ถึง 2 ประตูจากการเป็นตัวสำรอง และอีก 1 ประตูจากตัวจริง
ผลงานกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ (ปี 2025):
- ลงเล่น 3 นัด
- ยิงได้ 1 ประตู
- ทั้ง 3 นัดที่ลงสนามเป็น ตัวจริงทั้งหมด
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนว่า “ธีรศักดิ์” กำลังกลายเป็นหัวหอกที่มีความพร้อมในการเป็นผู้นำแนวรุก ทั้งในสถานะผู้เล่นตัวจริงและบทบาทสำคัญในเกมใหญ่
🧠 เส้นทางทีมชาติ: จากเยาวชนสู่กำลังหลัก “ช้างศึก”
“ธีรศักดิ์ เผยพิมาย” คือนักเตะชาว นครราชสีมา ที่เดินตามรอยรุ่นพี่อย่าง อานนท์ สังข์สระน้อย อดีตกองหน้าทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่เคยลงเล่น 10 นัด ยิง 2 ประตู โดยธีรศักดิ์ใช้เวลาหลายปีในการสั่งสมประสบการณ์จากทีมเยาวชนจนถึงชุดใหญ่
สถิติรวมของธีรศักดิ์ในการรับใช้ทีมชาติทุกรุ่น:
- ทีมชาติไทยชุดใหญ่: 20 นัด ยิง 4 ประตู (ตัวจริง 8 นัด / สำรอง 12 นัด)
- ทีมชาติไทย U23: 22 นัด ยิง 6 ประตู (ตัวจริง 10 นัด / สำรอง 12 นัด)
- ทีมชาติไทย U22: 6 นัด ยิง 4 ประตู (ตัวจริง 5 นัด / สำรอง 1 นัด)
ตัวเลขนี้พิสูจน์ว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่ผ่านการเจียระไนอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้พร้อมสวมบท “กองหน้าตัวหลัก” ให้ทีมชาติชุดใหญ่เต็มตัว
🧭 จุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิตนักฟุตบอล
การก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมชาติไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในยุคที่คู่แข่งแย่งชิงตำแหน่งกันอย่างดุเดือด แต่สิ่งที่ “ธีรศักดิ์” มีคือความมุ่งมั่น ความขยัน และทัศนคติที่ยอดเยี่ยม เขาผ่านการเล่นในทุกระดับ ทั้งเยาวชน U19, U22, U23 จนถึงทีมชุดใหญ่
ในวัย 23 ปี เขากำลังอยู่ในช่วงพีคของร่างกายและพลังใจ และนี่อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะสร้างชื่อให้เขาเป็น ศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งของไทย ในอนาคตอันใกล้
💡 บทเรียนจากรุ่นพี่: เส้นทางสู่ความสำเร็จ
ตลอดประวัติศาสตร์ของทีมชาติไทย เราได้เห็นกองหน้ามากมายที่เริ่มจากการเป็นตัวสำรองก่อนก้าวขึ้นสู่ตัวจริง เช่น ธีรศิลป์ แดงดา ที่เคยต้องรอโอกาสในช่วงแรก แต่ด้วยความมุ่งมั่นจึงกลายเป็นดาวซัลโวประจำทีมในเวลาต่อมา การที่ “ธีรศักดิ์” อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านแบบนี้ จึงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอนาคตของเขาอาจสดใสไม่ต่างจากตำนานเหล่านั้น
🏁 ความหวังใหม่ของ “ช้างศึก”
การที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในศึก เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก ถือเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต เขามีทั้งฝีเท้า ความมุ่งมั่น และพลังใจที่พร้อมแบกความหวังของชาติ หากสามารถฉวยโอกาสนี้ไว้ได้ เขาอาจกลายเป็น “กองหน้าตัวหลัก” คนใหม่ที่แฟนบอลไทยรอคอยมานาน
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย และอนาคตของ “ธีรศักดิ์ เผยพิมาย” ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา แหล่งรวมข่าวฟุตบอลไทยที่ครบทุกมุมของเกมลูกหนัง