
ไทย U23 จัดโปรแกรมอุ่นเครื่องสุดเข้ม
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตอบรับคำเชิญจัดศึกอุ่นเครื่องให้ ทีมชาติไทย U23 พบกับ ทีมชาติจีน U23 จำนวน 2 นัดเต็ม ในช่วง ฟีฟ่าเดย์ ตุลาคม 2568 เพื่อยกระดับทีมและเตรียมความพร้อมสู่ทัวร์นาเมนต์สำคัญปลายปีนี้และต้นปีหน้า
ภารกิจใหญ่รอช้างศึก U23
ขุนพล “ช้างศึก U23” ภายใต้การคุมทีมของ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กำลังเผชิญบททดสอบสำคัญ 2 รายการใหญ่ ได้แก่
- มหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2568 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนธันวาคม ถือเป็นเวทีที่ทีมไทยถูกจับตามองว่าจะสามารถทวงความยิ่งใหญ่คืนมาได้หรือไม่
- ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U23 รอบสุดท้าย ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในเดือนมกราคม 2569 ซึ่งเป็นเวทีชี้วัดศักยภาพของทีมในระดับทวีป
การได้ลงอุ่นเครื่องกับจีน U23 ครั้งนี้จึงถือเป็นบททดสอบที่เหมาะสม ช่วยให้ทีมไทยได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากคู่แข่งที่มีสไตล์การเล่นรวดเร็วและแข็งแกร่ง
โปรแกรมการแข่งขัน
สมาคมฯ ได้จัดโปรแกรมอุ่นเครื่องทั้ง 2 นัดอย่างชัดเจน
- นัดแรก วันที่ 10 ตุลาคม 2568 แข่งขันแบบปิด ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดหรือประกาศผล เพื่อเน้นการทดสอบแท็กติกและวางหมากในเชิงลึก
- นัดที่สอง วันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 16.00 น. ณ สนาม Kunming Haigeng Training Center Main Stadium ประเทศจีน โดยจะมีการแจ้งข้อมูลเรื่องการถ่ายทอดสดให้ทราบภายหลัง
สองเกมนี้นับเป็นโอกาสทองสำหรับนักเตะไทยรุ่นใหม่ ที่จะได้พิสูจน์ฝีเท้าต่อหน้าทีมงานสตาฟฟ์โค้ชและแฟนบอลทั้งประเทศ
ความหมายที่มากกว่าผลลัพธ์
แมตช์อุ่นเครื่องกับจีน U23 ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกมกระชับมิตร แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมทีมให้พร้อมสู้ศึกใหญ่ในระดับภูมิภาคและเอเชีย นักเตะหลายคนจะได้โอกาสแสดงศักยภาพจริงจัง ขณะที่โค้ชธวัชชัยก็จะได้วางระบบการเล่นและเช็กความพร้อมของนักเตะทั้งตัวหลักและดาวรุ่ง
มุมมองที่ยั่งยืนของวงการฟุตบอลไทย
เกมระดับเยาวชนเช่นนี้ยังสะท้อนถึงการสร้างรากฐานของฟุตบอลไทยในระยะยาว การได้ดวลกับทีมแกร่งจากเอเชียตะวันออกอย่างจีน ช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับนักเตะ และเพิ่มพูนความเข้าใจในสไตล์การเล่นหลากหลาย ที่สามารถนำมาต่อยอดได้ในอนาคตของวงการฟุตบอลไทย
สรุป
การอุ่นเครื่องครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่สำคัญอย่างยิ่งของ ทีมชาติไทย U23 ก่อนเผชิญศึกซีเกมส์และชิงแชมป์เอเชีย U23 ที่ใกล้เข้ามา ทุกสายตาจับจ้องไปที่ทีมไทยว่าจะสามารถใช้สองนัดนี้ในการเสริมความแข็งแกร่งได้แค่ไหน แฟนบอลเตรียมเอาใจช่วยและติดตามทุกความเคลื่อนไหวไปพร้อมกันได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา