
วงการฟุตบอลไทยต้องสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า “คุณปวิณ ภิรมย์ภักดี” ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานสโมสรอย่างเป็นทางการ โดยมีผลทันที เหตุผลหลักมาจากเรื่องสุขภาพและเหตุผลส่วนตัว ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทัพ “เดอะ แรบบิท” ที่กำลังสร้างชื่อในเวทีลูกหนังไทยและเอเชีย
แถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากสโมสร
ทางสโมสรระบุชัดเจนว่า
“ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร คุณปวิณ ได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและยกระดับสโมสร ตั้งแต่ยุค บางกอกกล๊าส เอฟซี จนถึงปัจจุบันในนาม สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ครอบคลุมทั้งด้านโครงสร้างสโมสร มาตรฐานความเป็นมืออาชีพ และความสำเร็จในสนามแข่งขัน ซึ่งรวมถึงการคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการสำคัญของประเทศไทย และการสร้างชื่อเสียงให้สโมสรเป็นที่ยอมรับในระดับเอเชีย”
พร้อมกันนี้ สโมสรยังได้กล่าวขอบคุณคุณปวิณสำหรับความทุ่มเท ความมุ่งมั่น และวิสัยทัศน์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงอวยพรให้มีสุขภาพแข็งแรงต่อไป โดยในส่วนของโครงสร้างการบริหารใหม่ สโมสรจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเร็วๆ นี้
ความสำเร็จในยุคของปวิณ
นับตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเป็นประธานสโมสร คุณปวิณได้วางรากฐานความสำเร็จให้กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อย่างชัดเจน และฝากผลงานการคว้าแชมป์รายการใหญ่เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- แชมป์ไทยลีก 1 สมัย (2020/21)
- แชมป์ไทยลีก 2 (2019)
- แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย (2014)
- แชมป์ลีก คัพ 1 สมัย (2023/24)
- แชมป์ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2 สมัย (2021, 2022)
- แชมป์ควีนส์ คัพ 1 สมัย (2010)
- แชมป์สิงคโปร์ คัพ 1 สมัย (2010)
ความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความแข็งแกร่งของสโมสร แต่ยังทำให้บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำในวงการฟุตบอลไทย และได้รับการยอมรับในระดับเอเชีย
บทบาทสำคัญต่อการพัฒนาวงการ
ในยุคของปวิณ ไม่ได้มีเพียงแค่ถ้วยแชมป์เท่านั้น แต่ยังมีการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การพัฒนาสนาม ลีโอ สเตเดียม ให้ได้มาตรฐานสากล การสร้างศูนย์ฝึกเยาวชนเพื่อปั้นนักเตะใหม่ รวมถึงการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการให้ทัดเทียมกับสโมสรใหญ่ในเอเชีย สิ่งเหล่านี้กลายเป็นแบบอย่างที่ทีมอื่นๆ ในไทยลีกนำไปปรับใช้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลีกไทยพัฒนาก้าวไกล
อนาคตของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด หลังไร้เงาปวิณ
แม้การลาออกครั้งนี้จะสร้างคำถามใหญ่ให้กับแฟนบอลว่าอนาคตของสโมสรจะเดินไปในทิศทางใด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยังคงมีศักยภาพทั้งในสนามและนอกสนาม ด้วยขุมกำลังนักเตะคุณภาพระดับทีมชาติ และโครงสร้างที่แข็งแกร่งซึ่งถูกวางรากฐานเอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นแชมป์ไทยลีก หรือการสร้างผลงานในถ้วยเอเชีย สโมสรยังคงเป็นทีมที่ต้องจับตามองเสมอ
แฟนบอลร่วมเป็นพยานการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ
การก้าวลงจากตำแหน่งของคุณปวิณครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการสิ้นสุดยุคหนึ่งของสโมสร แต่ยังเป็นการเปิดทางให้กับการเปลี่ยนแปลงและการเริ่มต้นใหม่ที่น่าจับตา สำหรับแฟนบอล “เดอะ แรบบิท” ทุกคน การติดตามเส้นทางต่อไปของทีมจะยิ่งเข้มข้นและเต็มไปด้วยความท้าทาย ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา จะไม่พลาดนำเสนอทุกความเคลื่อนไหวให้แฟนบอลชาวไทยได้อัปเดตกันอย่างต่อเนื่อง