มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย ย้ำเป้าหมายชัดเจนว่าทัพ ช้างศึก ต้องคว้าแชมป์ คิงส์คัพ 2025 ให้ได้ พร้อมเผยเบื้องหลังการทำงานสุดเข้มข้น ใช้เทคโนโลยีอนิเมชั่นและวิดีโอวิเคราะห์แท็กติกละเอียดทุกจังหวะ ก่อนลงสนามพบกับ ทีมชาติอิรัก ในรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 7 กันยายน 2568 ที่จังหวัดกาญจนบุรี
แถลงข่าวสุดมั่นใจก่อนดวลทีมอันดับ 58 โลก
เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 11.30 น. ณ ห้องแถลงข่าวภายในสนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี อิชิอิได้ออกมาเปิดเผยถึงความพร้อมของทีม ก่อนนัดชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ซึ่งไทยจะต้องเผชิญหน้ากับอิรัก ทีมอันดับ 58 ของโลก
คำกล่าวจากอิชิอิเต็มไปด้วยความมั่นใจ
อิชิอิเปิดใจว่า “ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทีมชาติอิรักที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ทั้งสตาฟฟ์และทีมงานทุกคน อีกทั้ง เกรแฮม อาร์โนลด์ เฮดโค้ชของอิรัก ก็มีประสบการณ์ทั้งการเล่นและคุมทีมในเจลีก ส่วน เรบิน ซูลาก้า ก็เคยร่วมงานกันที่ประเทศไทย รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง”
พร้อมกันนั้นเขายังยืนยันถึงเป้าหมายที่ชัดเจนว่า “เราดีใจที่ได้เจออิรักในทัวร์นาเมนต์นี้ อิรักมีแรงกิ้งที่ดีกว่าเรา แต่เป้าหมายของเราคือการชนะทั้งสองเกมและเป็นแชมป์ให้ได้ เราจะพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อคว้าแชมป์ในครั้งนี้”
เทคนิคสมัยใหม่! ใช้สื่อดิจิทัลติวเข้มลูกทีม
กุนซือชาวญี่ปุ่นวัย 58 ปี ไม่ได้ปล่อยให้เวลาที่มีอย่างจำกัดกลายเป็นอุปสรรค แต่กลับใช้วิธีการใหม่ในการติวเข้มลูกทีม ด้วยการวิเคราะห์เกมรุกและเกมรับของอิรักผ่านวิดีโอและอนิเมชั่น เพื่อให้นักเตะเข้าใจแท็กติกและพร้อมตอบสนองทุกสถานการณ์ในสนามได้ดียิ่งขึ้น เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เรื่องสถิติไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับผม สิ่งสำคัญคือปัจจุบันและการเตรียมทีม แม้เวลาน้อย แต่เราพยายามวิเคราะห์เกมรุกและเกมรับของอิรักด้วยการเปิดวิดีโอให้นักเตะทำความเข้าใจก่อนลงสนาม ส่วนเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะ ต้องประเมินอีกครั้งว่าจะเลือกเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง และหากเกมเสมอจนต้องดวลจุดโทษ เราก็เตรียมความพร้อมไว้เช่นกัน”
ศึกไทยดวลอิรัก ความหมายมากกว่าแค่แชมป์
แมตช์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการลุ้นถ้วยคิงส์คัพ แต่ยังเป็นเกมที่มีความหมายเชิงจิตวิทยาและความมั่นใจ ทีมชาติไทยซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 102 ของโลก ต้องการพิสูจน์ศักยภาพต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่น ขณะที่อิรักก็ต้องการใช้เกมนี้เป็นเวทีเตรียมทีมก่อนศึกคัดบอลโลก การเผชิญหน้าจึงเต็มไปด้วยเดิมพันทั้งด้านเกียรติยศและความเชื่อมั่น
บทเรียนจากคิงส์คัพที่ยืนยาวในวงการฟุตบอลไทย
คิงส์คัพถือเป็นทัวร์นาเมนต์เก่าแก่ที่สืบสานมานานกว่า 50 ปี เป็นรายการที่แฟนบอลชาวไทยให้ความสำคัญและเฝ้ารอทุกครั้งที่จัดขึ้น การได้เจอทีมชั้นนำของเอเชีย เช่น อิรัก ทำให้เกมนี้ยิ่งมีความเข้มข้น และยังช่วยสร้างประสบการณ์ล้ำค่าให้กับนักเตะไทยรุ่นใหม่ในการยกระดับฝีเท้าสู่มาตรฐานสากล
โปรแกรมถ่ายทอดสดที่แฟนบอลต้องไม่พลาด
โปรแกรมนัดชิงชนะเลิศ คิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอิรัก จะฟาดแข้งในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 เวลา 20.00 น. ที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ถ่ายทอดสดให้ชมพร้อมกันผ่าน ไทยรัฐทีวี HD32, BG SPORTS และ True Visions Now แฟนบอลไทยทุกคนเตรียมใจลุ้นมันส์สะท้านสนาม
นี่คืออีกหนึ่งค่ำคืนแห่งประวัติศาสตร์ที่ชาวไทยทั้งประเทศรอคอย ติดตามทุกความเคลื่อนไหวและวิเคราะห์เจาะลึกเกมลูกหนังสุดเดือดได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา สื่อกีฬาเข้มข้นที่แฟนบอลไว้ใจ
