
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกาศศักดาเสริมแกร่งแบบไม่เกรงใจใคร ด้วยการคว้าตัว โรเบิร์ต ซูลจ์ เพลย์เมกเกอร์ระดับท็อปจาก ลาสค์ ลินซ์ ทีมแกร่งแห่งลีกออสเตรีย เข้ามาเติมมิติเกมรุกให้แน่นปึ้ก พร้อมเตรียมลุยศึก ไทยลีก ฤดูกาล 2025-26 และล่าแชมป์ในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ด้วยความหวังทะลุเกินรอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้
สำหรับ โรเบิร์ต ซูลจ์ วัย 33 ปี ถือเป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่มี โปรไฟล์สุดโหด และโดดเด่นที่สุดของตลาดรอบนี้ ด้วยมูลค่าประเมินราว 900,000 ยูโร (ประมาณ 34 ล้านบาท) เขาคือแข้งที่แพงที่สุดในบรรดา “น้องใหม่ไทยลีก” ซีซั่นนี้ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Transfermarkt โดยเจ้าตัวเคยผ่านสังเวียนเดือดทั้งใน บุนเดสลีกา เยอรมัน, ยูโรปาลีก, และ ลีกยูเออี มาแล้วอย่างโชกโชน
ย้อนเส้นทางอาชีพของ ซูลจ์ นั้นไม่ธรรมดา เขาเริ่มต้นกับสโมสรเล็กในออสเตรียในตำแหน่งกองหน้า ก่อนจะขยับมาเล่นมิดฟิลด์เต็มตัวที่ เอสเฟา รีด และโชว์ฟอร์มเด่นจน เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ยักษ์ใหญ่ประจำลีกออสเตรีย ทุ่มเงิน 1.25 ล้านยูโร (ราว 47 ล้านบาท) คว้าตัวไปช่วงกลางฤดูกาล 2013-14 พร้อมพาทีมคว้าแชมป์ลีกทันที
ไฮไลต์สำคัญคือการได้ลงเล่นใน ยูฟ่า ยูโรปาลีก 4 นัดเต็มกับ ซัลซ์บวร์ก โดยเจอกับทีมอย่าง อาแจ็กซ์ และ บาเซิล ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ระดับยุโรปที่น้อยคนในไทยลีกจะสัมผัสมา
หลังแจ้งเกิดเต็มตัว เขาย้ายซบ กรอยเทอร์ เฟือร์ธ ทีมใน ลีกา 2 เยอรมัน ด้วยค่าตัวเท่ากับซัลซ์บวร์กจ่ายตอนซื้อมาจากรีด แม้จะถูกโยกเล่นสลับระหว่างหน้าต่ำและกองกลางตัวรุก แต่เขากลับทำสถิติสุดโหด 20 ประตู 17 แอสซิสต์ จาก 91 เกม สะกดสายตาแมวมองทั้งยุโรปได้อยู่หมัด
ฤดูกาล 2017-18 โรเบิร์ตได้ย้ายสู่ลีกสูงสุดของเยอรมันอย่าง บุนเดสลีกา กับทีม ฮอฟเฟ่นไฮม์ ภายใต้การคุมทีมของ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ ซึ่งปัจจุบันคุมทีมชาติเยอรมัน แม้เส้นทางในฮอฟเฟ่นไฮม์จะสะดุดเพราะอาการบาดเจ็บกระดูกเชิงกราน แต่เขาก็ยังยืนหยัดและกลับมามีบทบาทอีกครั้งกับ อูนิโอน เบอร์ลิน ที่ยืมตัวไปใช้งานในซีซั่น 2018-19
ซูลจ์ในวัยที่แข็งแกร่งสุดขีดพาเบอร์ลินคว้าอันดับ 3 ในลีกา 2 และเบียด สตุ๊ตการ์ต ผ่านรอบเพลย์ออฟด้วยกฎประตูทีมเยือนจนได้เลื่อนชั้นสู่บุนเดสลีกา แต่เจ้าตัวกลับเลือกทางเดินใหม่ย้ายไป โบคุ่ม ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านยูโร (ราว 56 ล้านบาท) และกลายเป็นคีย์แมนของทีมทันที
กับโบคุ่ม เขายังโชว์คลาสระดับมาสเตอร์พีซ พาทีมคว้าแชมป์ ลีกา 2 ฤดูกาล 2020-21 พร้อมตั๋วกลับสู่ลีกสูงสุด และมีส่วนร่วมแบบชัดเจนด้วยการยิง 17 ประตูและแอสซิสต์อีก 19 ครั้ง จาก 45 เกมทุกรายการ เรียกได้ว่าพาทีมขึ้นชั้นแบบแบกไว้ทั้งหลัง
แต่เส้นทางกลับโค้งไปไกลถึงตะวันออกกลาง เมื่อ อิตติฮัด คัลบา จากลีกสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทุ่มเงิน 2.5 ล้านยูโร (ราว 94 ล้านบาท) คว้าตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2021 แม้จะทำผลงานได้ดี 5 ประตูกับ 10 แอสซิสต์ แต่ทีมจบอันดับ 11 จาก 14 ทีม ทำให้เขาเลือกย้ายกลับบ้านเกิดอีกครั้งในฤดูกาลถัดมากับ ลาสค์ ลินซ์
แม้จะวัยแตะหลักสาม แต่มาตรฐานของโรเบิร์ตไม่เคยตก เขาพาลาสค์จบท็อป 3 ของลีกถึง 2 ครั้งในช่วง 3 ปี และยังคงเป็นหัวใจสำคัญของเกมรุก ก่อนจะหมดสัญญาหลังจบซีซั่น 2024-25 และกลายเป็นเป้าหมายหลักของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ในที่สุด “ปราสาทสายฟ้า” ก็ดึงตัวเขามาร่วมทีมได้สำเร็จ โดยหมายมั่นปั้นมือให้เป็นหัวใจของแดนกลางในภารกิจทวงแชมป์ในประเทศ และทะลวงรอบลึกๆ ของถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ให้จงได้
โรเบิร์ต ซูลจ์ ผู้มากับดีกรีเกมระดับยุโรป, ประสบการณ์ลีกเยอรมัน, เทคนิคจัดจ้าน, วิสัยทัศน์เหนือชั้น, ลูกจ่ายคมกริบ และสัญชาตญาณการเข้าพื้นที่อันตรายที่เฉียบขาด เขาคือมิดฟิลด์เบอร์ 32 ที่พร้อมเขย่ารากฐานเกมรับของ ไทยลีก ให้สะเทือนไปทั้งลีก
ติดตามฟอร์มการเล่นของ โรเบิร์ต ซูลจ์ และความเคลื่อนไหวของศึกไทยลีกได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา เราจะเกาะติดทุกจังหวะการปะทะของยอดจอมทัพออสเตรียรายนี้อย่างใกล้ชิด