
ในขณะที่ฤดูกาล ไทยลีก 2024-25 กำลังเดินทางเข้าสู่โค้งสุดท้าย หลายสโมสรเริ่มขยับตัวสู่ตลาดซื้อขายเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับซีซั่นหน้า และหนึ่งในทีมที่ไม่รอช้าคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ตัดสินใจเปิดตัว ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์ แบ็กซ้ายทีมชาติฟิลิปปินส์วัย 30 ปี เข้ามาเสริมทัพเป็นรายแรกด้วยแนวคิดชัดเจนว่าต้องการยกระดับเกมรับด้วยนักเตะเกรดคุณภาพในโควตาอาเซียน
เคมพ์เทอร์ เป็นนักเตะลูกครึ่งที่เกิดและเติบโตในนครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีคุณพ่อเป็นชาวสวิสและคุณแม่เป็นชาวฟิลิปปินส์ เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับทีมเยาวชนของ เอฟซี ซูริค ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2015-16 พร้อมประเดิมสนามในลีกสูงสุดทันที แม้ในช่วงแรกจะได้โอกาสลงเพียง 2 นัด แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง
ด้วยตำแหน่งดั้งเดิมเป็นปีกซ้าย เขาแสดงความโดดเด่นทั้งในเรื่องความเร็วและการเติมเกมรุก จนได้รับการเรียกติดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ชุด U-19 และ U-20 แสดงให้เห็นถึงความสามารถระดับแถวหน้า แต่เมื่อก้าวสู่ระดับสโมสรอย่างเต็มตัว เส้นทางของเขากลับเต็มไปด้วยบททดสอบ โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บที่คอยขวางความต่อเนื่องของการพัฒนา
ในช่วงปลายปี 2017 หลังเผชิญกับอาการบาดเจ็บหนัก เคมพ์เทอร์ไม่ได้รับการต่อสัญญากับ เอฟซี ซูริค จึงตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับ เนอชาแตล ซาแม็กซ์ สโมสรในลีกรอง ก่อนจะโชว์ฟอร์มโดดเด่นจนได้รับการดึงตัวกลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งกับ ซังต์ กัลเลน ซึ่งเขาได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอในบทบาทแบ็กซ้าย ก่อนจะย้ายไปร่วมทัพ กลาสส์ฮ็อปเปอร์ ซูริค สโมสรเบอร์หนึ่งของประเทศในฤดูกาล 2023-24 พร้อมถูกวางให้เป็นตัวหลักในตำแหน่งฟูลแบ็กเต็มตัว
น่าเสียดายที่หลังลงสนามใน 4 นัดแรก เขากลับได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง ทำให้ต้องพักยาวและหลุดจากทีมชุดใหญ่จนหมดโอกาสลงสนามตลอดทั้งฤดูกาลที่เหลือ
ในระดับทีมชาติ เคมพ์เทอร์ ตัดสินใจแสดงเจตจำนงที่จะรับใช้ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ปี 2018 แม้จะถูกเรียกตัวครั้งแรกในปี 2019 แต่ก็พลาดการประเดิมสนามเพราะการระบาดของโควิด-19 กระทั่งในปี 2021 เขาได้ลงเล่นให้ “ดิ อัซกัลส์” อย่างเป็นทางการในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก พบทีมชาติจีน ทว่าโชคร้ายอีกครั้งเมื่อได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับ ตัง เหมียว จนจมูกหักตั้งแต่นาทีที่ 14
แม้เส้นทางทีมชาติจะมีอุปสรรคมากมาย แต่เคมพ์เทอร์ยังคงเป็นหนึ่งในกำลังหลักของฟิลิปปินส์เมื่อเขาฟิตสมบูรณ์ โดยเฉพาะในศึก อาเซียน คัพ 2024 ที่เขาสวมปลอกแขนกัปตัน พาทีมสร้างประวัติศาสตร์เอาชนะทีมชาติไทยในรอบรองชนะเลิศเลกแรก ซึ่งถือเป็นชัยชนะเหนือ “ช้างศึก” ครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี และแม้จะพ่ายในเลกสองด้วยสกอร์ 1-3 แต่ผลงานของเขาโดดเด่นจนได้รับคำชมจากหลายฝ่าย
ที่น่าจดจำที่สุดคือการให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ bluewin.ch ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขาเล่าถึงบรรยากาศในสนามราชมังคลากีฬาสถานว่า “มันคือประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ เสียงเชียร์ของแฟนบอลที่กรี๊ดทุกครั้งที่บอลเข้าใกล้เขตโทษ มันทำให้เรารู้สึกฮึกเหิม แม้จะเป็นทีมเยือนก็ตาม”
การเข้ามาของ ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์ จึงไม่ใช่แค่การเสริมแบ็กซ้ายธรรมดา แต่คือการเพิ่มมิติใหม่ให้กับแนวรับของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้วยประสบการณ์ระดับสโมสรยุโรป ความแข็งแกร่งเชิงแท็กติก และวินัยการเล่นแบบมืออาชีพ เขาคือคำตอบของความมั่นคงในเกมริมเส้นที่ “กิเลนผยอง” กำลังมองหา และอาจเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะช่วยยกระดับทีมให้ลุ้นความสำเร็จในฤดูกาล ไทยลีก 2025-26
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของนักเตะใหม่และการเสริมทัพก่อนศึกใหญ่ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา