“จัดด์ ทรัมป์” สะดุดยาว 300 วัน! เปิดเหตุผลทำไมมือ 1 โลกถึงไม่จัดจ้านเหมือนเดิม

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

แฟนสนุกเกอร์ทั่วโลกเริ่มตั้งคำถามหนัก หลังผ่านไปเกือบ 300 วัน แล้วที่ “เพชฌฆาตปืนกล” จัดด์ ทรัมป์ มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ ไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดได้เลย แม้เคยเป็นนักสอยคิวที่ร้อนแรงที่สุดในยุค ล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งตกรอบ 16 คนสุดท้ายของ ศึกบริติชโอเพ่น 2025 จากการแพ้แบบเฉียดฉิวให้กับ ฌอน เมอร์ฟี่ 3-4 เฟรม กลายเป็นสัญญาณเตือนว่าฟอร์มของเขากำลังแผ่วลงอย่างน่าเป็นห่วง

ฟอร์มสะดุดต่อเนื่อง ไร้ถ้วยแชมป์นับจากยูเค 2024

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 คือครั้งสุดท้ายที่ จัดด์ ทรัมป์ ได้สัมผัสโทรฟี่ เมื่อเขาผงาดคว้าแชมป์ ยูเค แชมเปี้ยนชิพ 2024 ซึ่งเป็นหนึ่งในสามรายการระดับ ทริปเปิ้ลคราวน์ นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ เขาไม่สามารถกลับไปยืนบนจุดสูงสุดได้อีกเลย
ล่าสุด ในศึก บริติชโอเพ่น 2025 ที่เดอะเซ็นทอร์ เมืองเชลต์นัม ทรัมป์ต้องจอดป้ายตั้งแต่รอบ 16 คน หลังพ่ายเพื่อนร่วมชาติอย่าง เมอร์ฟี่ ไป 3-4 เฟรม นับเป็นอีกความพ่ายแพ้ที่สะท้อนให้เห็นถึงฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวา

จัดด์ยังครองมือ 1 โลก แต่แรงกดดันถาโถม

แม้ฟอร์มจะตก แต่โชคยังเข้าข้าง เมื่อคู่แข่งอย่าง ไคเรน วิลสัน มือ 2 ของโลก และ นีล โรเบิร์ตสัน มือ 3 ต่างพากันตกรอบตั้งแต่หัววัน ทำให้คะแนนสะสมของ จัดด์ ทรัมป์ ยังคงมากพอที่จะรักษาบัลลังก์ มือ 1 ของโลก เอาไว้ได้อีกระยะ อย่างไรก็ตาม หากยังคงไร้แชมป์ต่อไป มีโอกาสสูงที่ตำแหน่งนี้จะสั่นคลอนในช่วงท้ายฤดูกาล

สัญญาณอันตราย: 10 เดือนที่ไร้โทรฟี่

ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา ทรัมป์มีเพียงโอกาสเดียวในการเข้าชิงแชมป์ คือรายการ เพลย์เยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ 2025 เมื่อเดือนมีนาคม แต่สุดท้ายก็แพ้ ไคเรน วิลสัน แบบเฉียด 9-10 เฟรม ได้เพียงรองแชมป์ ทำให้แฟนสนุกเกอร์ต่างเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับ “เพชฌฆาตปืนกล” รายนี้

ความสำเร็จที่ผ่านมา ไม่พอผลักดันต่อ

ต้องยอมรับว่า ทรัมป์มีดีกรีแชมป์ถึง 37 รายการ รวมถึงแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้ง 30 รายการ ซึ่งเป็นอันดับ 4 ตลอดกาล และแชมป์รายการใหญ่ระดับ ทริปเปิ้ลคราวน์ 5 ครั้ง แต่เมื่อเทียบกับตำนานอย่าง รอนนี่ โอซัลลิแวน ที่ครองแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้งถึง 41 รายการ และ ทริปเปิ้ลคราวน์ ถึง 23 ครั้ง ชัดเจนว่า จัดด์ ยังห่างไกลจากระดับสุดยอดแห่งยุค

สาเหตุหลักที่ฟอร์มร่วง: ความรักที่เข้ามาเปลี่ยนสมดุล

แฟนคลับจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ จัดด์ ทรัมป์ ฟอร์มตกคือ “ความรัก” ย้อนกลับไปเมื่อราว 1 ปีก่อน เขามีข่าวว่ากำลังคบหากับ ไมซี่ หม่า นักสเก็ตลีลาชาวฮ่องกง วัย 25 ปี ซึ่งอายุน้อยกว่าเขาถึง 11 ปี ทั้งคู่คบหากันอย่างเปิดเผย ถึงขั้นที่ จัดด์ ยอมใช้ชีวิตอยู่ที่ฮ่องกงเป็นเวลานาน ภายใต้โครงการ Quality Migrant Admission Scheme (QMAS) ของรัฐบาลฮ่องกง
แม้ชีวิตรักจะดูราบรื่น แต่ฟอร์มการเล่นกลับสวนทาง ผลงานบนโต๊ะผ้าสักหลาดกลับไม่เฉียบคมเหมือนเดิม หลายฝ่ายจึงเริ่มตั้งคำถามว่าเขายังมีความกระหายในความสำเร็จเหมือนเดิมหรือไม่

อายุที่เพิ่มขึ้น กับแรงขับที่อาจลดลง

ปัจจุบัน จัดด์ ทรัมป์ อายุ 36 ปี ซึ่งถือเป็นช่วงที่นักสนุกเกอร์เริ่มเผชิญกับแรงกดดันจากร่างกายและจิตใจ บวกกับการที่นักสอยคิวระดับโลกหลายคนเมื่อเข้าสู่วัย 40 มักมีฟอร์มตกลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้อนาคตของทรัมป์ถูกจับตามองอย่างหนักว่าเขาจะยังคงรักษามาตรฐานได้หรือไม่

มองไปข้างหน้า: ซีอานกรังด์ปรีซ์คือโอกาสทอง

รายการถัดไปอย่าง ซีอานกรังด์ปรีซ์ 2025 ที่ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 7-13 ตุลาคม 2568 อาจเป็นโอกาสสำคัญที่ ทรัมป์ จะได้เรียกความมั่นใจกลับมา เพราะเป็นรายการที่เขาเคยเข้าชิงเมื่อปีที่แล้ว หากคว้าแชมป์ได้ในทัวร์นาเมนต์นี้ จะเป็นการปลดล็อกความกดดันและอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของฤดูกาล

สนุกเกอร์ยุคใหม่ที่ท้าทายมากขึ้น

ยุคปัจจุบันของสนุกเกอร์เต็มไปด้วยนักสอยคิวดาวรุ่งที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เช่น สแตน มูดี้ ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่โค่นมือระดับโลกได้หลายราย ทำให้การแข่งขันเข้มข้นกว่าเดิมมาก นักสนุกเกอร์จึงต้องมีทั้งความมุ่งมั่น ความฟิต และสมาธิสูงสุด หากขาดเพียงอย่างเดียว อาจส่งผลต่อฟอร์มการเล่นทันที

สรุป: จัดด์ต้องกลับมาจัดจ้านให้ได้

แม้ จัดด์ ทรัมป์ จะยังคงเป็นมือ 1 ของโลก แต่เส้นทางหลังจากนี้ไม่ง่าย หากต้องการรักษาสถานะและกลับมาครองความยิ่งใหญ่ เขาจำเป็นต้องปรับสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวกับอาชีพ พร้อมเรียกจิตใจนักล่าถ้วยกลับคืนมา เพื่อยืนยันว่าเขายังเป็น “เพชฌฆาตปืนกล” ตัวจริงในวงการสนุกเกอร์

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของโลกสนุกเกอร์ ข่าวกีฬาเด่น และผลการแข่งขันแบบเรียลไทม์ได้ที่ สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา