ศึก “เยอรมัน มาสเตอร์ส 2025“ ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ที่ เทมโพโดรม กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยบทสรุปของแชมป์ตกเป็นของ “นักรบ” ไคเรน วิลสัน มือ 2 ของโลกชาวอังกฤษ ที่โชว์ฟอร์มระดับแชมป์โลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี หลังเฉือนเอาชนะเพื่อนร่วมชาติอย่าง “พญาเหยี่ยว” แบร์รี่ ฮอว์กินส์ มือ 12 ของโลกไปอย่างสุดระทึก 10-9 เฟรม ในแมตช์ชิงดำที่ดุเดือดจนแฟนสนุกเกอร์ทั่วโลกแทบลืมหายใจ
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเต็มไปด้วยความเข้มข้น ทั้งสองฝ่ายงัดฟอร์มเก่งออกมาสู้กันอย่างดุเดือด ผลัดกันนำผลัดกันตามตลอดทั้งเกม จนสถานการณ์ต้องลากยาวไปถึงเฟรมตัดสินสุดท้าย ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มของแฟนสนุกเกอร์ในสนาม และผู้ชมจากทั่วโลกที่ติดตามการถ่ายทอดสดแบบลุ้นกันตัวโก่ง ก่อนที่ ไคเรน วิลสัน จะโชว์ความนิ่งเหนือชั้นในช่วงเวลาสำคัญ เฉือนคว้าชัยไปได้อย่างหวุดหวิด 10-9 เฟรม คว้าเงินรางวัลมูลค่า 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 4.2 ล้านบาท) กลับบ้านอย่างสมศักดิ์ศรี
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ถือเป็นแชมป์ เยอรมัน มาสเตอร์ส สมัยที่ 2 ของ ไคเรน วิลสัน หลังจากเคยคว้าแชมป์รายการนี้ได้ครั้งแรกในปี 2019 และยังเป็นแชมป์รายการระดับ เวิลด์ แรงค์กิ้ง รายการที่ 9 ของเขานับตั้งแต่เทิร์นโปรเข้าสู่เส้นทางสนุกเกอร์อาชีพในปี 2010 อีกด้วย
สำหรับฤดูกาล 2024/25 นี่ถือเป็นแชมป์รายการที่ 3 ของ วิลสัน แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้เขาเพิ่งคว้าแชมป์ในศึก ซีอาน กรังด์ปรีซ์ 2024 ที่ประเทศจีน และ นอร์เทิร์น ไอร์แลนด์ โอเพ่น 2024 ที่ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ทำให้เขาคว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งได้ถึง 3 รายการภายในฤดูกาลเดียว ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอาชีพของเขา
อย่างไรก็ตาม แม้จะคว้าแชมป์ใหญ่มาครองได้อีกหนึ่งรายการ แต่ ไคเรน วิลสัน ยังคงรั้งตำแหน่งมือ 2 ของโลกเช่นเดิม โดยเก็บคะแนนสะสมเพิ่มอีก 81,500 คะแนน แต่ยังคงตามหลัง จัดด์ ทรัมป์ จอมคิวเพื่อนร่วมชาติที่ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกแบบเหนียวแน่น ด้วยคะแนนสะสมที่ห่างกันถึง 533,800 คะแนน
ทางฝั่งของ แบร์รี่ ฮอว์กินส์ ต้องพบกับความผิดหวังอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ แม้จะสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย 9-10 เฟรม นี่ถือเป็นการคว้าตำแหน่งรองแชมป์รายการที่ 2 ในฤดูกาลนี้ของเขา หลังจากเมื่อ 2 เดือนก่อนเพิ่งอกหักในศึกใหญ่ระดับ ทริปเปิล คราวน์ อย่าง ยูเค แชมเปี้ยนชิพ 2024 ที่แพ้ให้กับ จัดด์ ทรัมป์ ไปด้วยสกอร์ 8-10 เฟรม
นับตั้งแต่ ฮอว์กินส์ เทิร์นโปรเข้าสู่วงการสนุกเกอร์อาชีพในปี 1996 เขาสามารถคว้าแชมป์รายการระดับอาชีพได้เพียง 5 รายการเท่านั้น แบ่งเป็นแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้ง 4 รายการ และไมเนอร์แรงค์กิ้งอีก 1 รายการ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องเผชิญกับความผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศมากถึง 13 ครั้ง โดยเฉพาะในรายการใหญ่ระดับทริปเปิล คราวน์ ไม่ว่าจะเป็น ชิงแชมป์โลก, ยูเค แชมเปี้ยนชิพ หรือ มาสเตอร์ส เขาต่างผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศมาแล้วทั้งสิ้น แต่ไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลย
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ แบร์รี่ ฮอว์กินส์ ต้องพอใจกับตำแหน่งรองแชมป์และรับเงินรางวัลปลอบใจจำนวน 45,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.9 ล้านบาท) พร้อมกับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 37,000 คะแนน ซึ่งเพียงพอที่จะขยับอันดับโลกขึ้นจากอันดับ 12 ไปอยู่ที่อันดับ 11
แม้จะไม่ได้แชมป์ติดมือ แต่ ฮอว์กินส์ ยังคงแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอในการรักษาฟอร์มการเล่นในระดับสูงได้อย่างน่าประทับใจ และคงต้องติดตามกันต่อไปว่าเขาจะสามารถปลดล็อกคว้าแชมป์รายการใหญ่ที่รอคอยมานานได้หรือไม่ในอนาคต
ติดตามข่าวสารสนุ๊กเกอร์ได้ที่ : สนุกเกอร์สดบ้านกีฬา
