เรื่องราวชีวิตหลังอำลาโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดของ ดาบิด เด เคอา ไม่ได้เงียบเหงาไร้ความหมายเหมือนที่หลายคนคิด ล่าสุดนายด่านชาวสเปนออกมาเปิดใจอย่างเข้มข้นถึงเบื้องหลังการพัก 1 ปีเต็มนับจากลาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมย้ำชัดว่าต่อให้มีข้อเสนอมากมายจากทีมในอังกฤษ ก็ไม่คิดจะเฝ้าเสาให้ใครนอกจากผีแดงทีมเดียว ก่อนคัมแบ็กกลับมาระเบิดฟอร์มสุดหนึบกับ ฟิออเรนติน่า ในฤดูกาลล่าสุด
ดาบิด เด เคอา ปัจจุบันวัย 34 ปี สวมถุงมือเฝ้าเสาให้กับ ฟิออเรนติน่า สโมสรแกร่งแห่งกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หลังตัดสินใจอำลา แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเดือนสิงหาคม 2023 สิ้นสุดเส้นทาง 12 ปีในสีเสื้อปีศาจแดงอย่างสุดซึ้ง โดยตลอดเวลากับยูไนเต็ด เด เคอาลงสนามไปมากถึง 545 นัด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ยูโรปาลีก 1 สมัย และลีกคัพอีก 2 ครั้ง ทิ้งผลงานที่ตราตรึงใจแฟนบอลทั่วโลก
แม้จะมีหลายทีมยื่นข้อเสนอเข้ามาในทันทีหลังยุติสัญญากับแมนฯ ยูไนเต็ด แต่เด เคอากลับเลือกที่จะเว้นวรรค ไม่รีบเซ็นสัญญาเพื่อพักกายใจหลังเล่นฟุตบอลอาชีพแบบต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปี และเขาก็ใช้เวลาอย่างมีคุณค่าในการดูแลตัวเองทั้งที่ มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ซ้อมอยู่กับศูนย์ฝึกทีมชาติสเปนและบางครั้งยังซ้อมกับทีมระดับดิวิชั่นล่างของอังกฤษเพื่อรักษาสภาพร่างกายให้สมบูรณ์พร้อมอยู่เสมอ
ระหว่างปีที่ห่างหายจากเกม เขาตัดสินใจร่วมงานกับโค้ชนายทวารมือดีอย่าง เคร็ก เอลลิสัน ซึ่งกลายเป็นทั้งคู่ซ้อมและเพื่อนคนสำคัญในช่วงเวลายากลำบากของชีวิต เด เคอายอมรับเต็มปากว่า “เคร็กช่วยให้ผมผ่านปีที่แสนยาวนานไปได้ เขาไม่ใช่แค่โค้ชที่ยอดเยี่ยม แต่ยังเป็นคนที่ผมรักและเคารพอย่างแท้จริง เราซ้อมด้วยกันอย่างหนักทุกวัน ใช้เวลาคุยกันมากมาย เขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม”
จนกระทั่งในเดือนสิงหาคม 2024 เด เคอาตัดสินใจเซ็นสัญญากับ ฟิออเรนติน่า และกลับมาโชว์ฟอร์มสุดเหนียวหนึบ พาทีมจบอันดับ 6 ของตารางกัลโช่ เซเรีย อา และเฝ้าเสาไปถึง 42 นัดรวมทุกรายการในซีซั่นแรกของเขากับทีมม่วงมหากาฬ สยบทุกคำวิจารณ์ที่เคยถาโถมใส่ในช่วงเว้นวรรค
ที่สำคัญ เด เคอายังพูดถึงความรู้สึกในวันที่ต้องยุติความสัมพันธ์กับแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ เอริก เทน ฮาก ตัดสินใจดึง อ็องเดร โอนาน่า เข้ามาแทนว่า “ผมปฏิเสธทุกข้อเสนอจากสโมสรในอังกฤษโดยไม่ลังเล เพราะสำหรับผม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมเดียวในอังกฤษที่ผมรักและเคารพ ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น สโมสรสร้างผมขึ้นมาให้เป็นอย่างทุกวันนี้ ทำให้ผมมีอาชีพที่น่าภาคภูมิใจ ผมรู้สึกเสมอว่าถ้าจะกลับมา ก็ต้องกลับมาในฐานะที่แข็งแกร่งกว่าเดิม”
น้ำเสียงจริงใจแต่แฝงด้วยพลังของเด เคอา สะท้อนหัวใจของยอดมือกาวที่ไม่เคยหยุดรักสโมสรเก่าของเขา พร้อมฝากบทเรียนสำคัญให้แฟนบอลได้รู้ว่าความซื่อสัตย์และการพักเพื่อรีเฟรชตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักเตะระดับท็อป
ติดตามทุกบทสัมภาษณ์เข้มข้นแบบนี้ รวมถึงข่าวสารวงการฟุตบอลที่คุณไม่ควรพลาดได้ทุกวันที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
