
🔥 สโคลส์มั่นใจ “อโมริม” เอาไม่อยู่ หงส์แดงพร้อมขย้ำปีศาจแดงกลางแอนฟิลด์
พอล สโคลส์ ตำนานมิดฟิลด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จุดประเด็นร้อนก่อนศึก แดงเดือด โดยออกโรงฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแตกว่า “ไม่มีทางที่ รูเบน อโมริม จะพา แมนยู บุกมาคว้าแต้มจาก ลิเวอร์พูล ได้แน่” พร้อมเชื่อว่าการกลับมาเล่นในบ้านครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ “หงส์แดง” คืนชีพอีกครั้ง และกลับเข้าสู่เส้นทาง ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างเต็มตัว
⚽ ลิเวอร์พูลหล่นบัลลังก์จ่าฝูง แต่ยังไม่หมดลุ้นแชมป์
สถานการณ์ล่าสุดของ ลิเวอร์พูล เรียกได้ว่าไม่สู้ดีนัก หลังแพ้ในเกม พรีเมียร์ลีก สองนัดติดต่อกัน ทำให้พวกเขาหล่นจากตำแหน่งจ่าฝูงมาอยู่รองจ่าฝูงตามหลัง อาร์เซน่อล อยู่เพียงหนึ่งแต้ม โดยร้านรับพนันถูกกฎหมายหลายแห่งต่างปรับอัตราต่อรองใหม่ ให้ ไอ้ปืนใหญ่ ขยับขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่งในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม ด้วยศักดิ์ศรีของสโมสรใหญ่ การกลับมาเล่นใน แอนฟิลด์ ย่อมไม่ใช่เกมธรรมดา โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังพยายามกู้ศรัทธาภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม เกมนี้จึงไม่เพียงแต่เดิมพันด้วยสามแต้ม แต่ยังหมายถึง “ศักดิ์ศรี” ของทั้งสองสโมสรที่อยู่เหนือผลการแข่งขัน
🔴 สโคลส์เชื่อเกมนี้หงส์ไม่พลาดแน่
อดีตมิดฟิลด์จอมยิงไกลของ “ปีศาจแดง” แสดงความมั่นใจเต็มร้อยว่า เกมนี้จะเป็นคืนของเจ้าบ้านแน่นอน โดยกล่าวว่า
“รูเบน อโมริม จำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างกับ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ผมคิดว่าพวกเขาต้องหาทางหยุดการเสียประตูเพื่อคว้าผลเสมอ”
สโคลส์เสริมว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถเอาชนะในเกมบิ๊กแมตช์ได้เลยในช่วงหลัง แม้ล่าสุดจะเรียกฟอร์มกลับมาด้วยการเปิดบ้านชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 แต่เมื่อเจอกับทีมระดับท็อป ความสม่ำเสมอยังเป็นปัญหาหลัก ขณะเดียวกัน แม้ผีแดงจะบุกไปเสมอที่ แอนฟิลด์ ได้สองครั้งติดต่อกัน แต่สโคลส์เชื่อว่าครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิม เพราะสภาพทีมและฟอร์มโดยรวมแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
🧱 ปีศาจแดงยุคอโมริมยัง “เปราะ” และคาดเดาได้ง่าย
อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษรายนี้ยังพูดต่อว่า
“แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเป็นเหมือนเดิม ผมจำไม่ได้แล้วว่านัดสุดท้ายพวกเขาชนะเกมบิ๊กแมตช์เมื่อไหร่ นักเตะกลุ่มนี้มีผลงานเลวร้ายอย่างต่อเนื่อง และไม่มีความมั่นใจที่จะคว้าผลลัพธ์ พวกเขาถูกคาดเดาได้ง่าย และพวกเขาจะบุกไปแพ้ที่ แอนฟิลด์”
คำพูดของสโคลส์สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่แฟนผีหลายคนรู้สึกตรงกัน – ทีมขาดแรงขับเคลื่อน ไม่มีผู้นำในสนาม และระบบของ อโมริม ยังไม่สามารถพัฒนาได้อย่างที่คาดหวัง แม้จะพยายามปรับแนวทางจากสไตล์บอลโปรตุเกสให้เข้ากับพรีเมียร์ลีก แต่การเปลี่ยนผ่านยังไม่ราบรื่น โดยเฉพาะในเกมใหญ่ที่ความกดดันสูง
🏟️ ลิเวอร์พูลพร้อมล้างแค้น – กลับบ้านคือจุดเปลี่ยน
ฝั่ง ลิเวอร์พูล เอง แม้จะสะดุดในลีก แต่การกลับมาเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอล “เดอะ ค็อป” ที่เต็มอัฒจันทร์ คือสิ่งที่พวกเขารอคอย อาร์เน่ สลอต รู้ดีว่านี่คือโอกาสทองในการเรียกศรัทธาแฟนบอลกลับคืน ด้วยแนวรุกที่พร้อมเต็มสูบ ทั้ง ซาลาห์, ดิอาซ, นูเญซ และมิดฟิลด์พลังหนุ่มอย่าง โซบอสไล ที่พร้อมจุดไฟให้แอนฟิลด์ลุกเป็นไฟอีกครั้ง
นอกจากนี้ สถิติในรังเหย้าของลิเวอร์พูลถือว่าแข็งแกร่งสุดในลีกตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยแพ้ในบ้านเพียงไม่กี่ครั้งในช่วง 3 ฤดูกาลหลัง และทุกครั้งที่เจอ แมนยู ในแอนฟิลด์ พวกเขามักจะทำได้ดีเสมอ
📊 เกมแดงเดือดมากกว่าศึกศักดิ์ศรี คือศึกแห่งทิศทางทีม
สำหรับแฟนบอลทั่วโลก เกมแดงเดือดคือหนึ่งในแมตช์ที่สะเทือนวงการลูกหนัง แต่สำหรับปีนี้ มันมีความหมายมากกว่าเดิม เพราะจะเป็นบทพิสูจน์ว่า แมนยูของอโมริม จะไปต่อได้ไหมในเส้นทางการสร้างทีมระยะยาว และจะเป็นจุดเปลี่ยนของ ลิเวอร์พูล ว่าจะคืนสู่ฟอร์มแชมป์ได้หรือไม่
ไม่เพียงแต่แฟนบอลอังกฤษเท่านั้นที่จับตามอง แฟนบอลไทยก็รอคอยเกมนี้อย่างใจจดใจจ่อ เพราะศึกนี้มักเต็มไปด้วยดราม่า ลูกยิงสุดมันส์ และการปะทะที่เต็มไปด้วยอารมณ์ในสนาม
🧭 ประวัติศึกแดงเดือดที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ
ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ศึกแดงเดือดเป็นเกมที่พลิกผลได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นยุคของ เจอร์ราร์ด vs สโคลส์, ซัวเรซ vs รูนีย์ หรือยุคใหม่ของ ซาลาห์ vs แรชฟอร์ด ทุกการเผชิญหน้ามักสร้างเรื่องราวใหม่ที่ถูกเล่าขานเสมอ แอนฟิลด์ในยามที่ “หงส์แดง” ต้องการชัยชนะ มักกลายเป็นสนามที่ทีมเยือนแทบไม่มีใครรอดออกมาได้ง่ายๆ
🔔 สรุปมุมมองจาก บ้านกีฬา
จากมุมมองของ บ้านกีฬา เกมนี้ไม่ใช่แค่ศึกแห่งศักดิ์ศรี แต่คือเกมชี้ชะตาเส้นทางของทั้งสองสโมสร หากลิเวอร์พูลคว้าชัยได้ พวกเขาจะกลับมามีความมั่นใจเต็มสูบในการลุ้นแชมป์ แต่หากแมนยูพ่ายแพ้อีกครั้ง แรงกดดันต่ออโมริมจะทวีคูณ และอนาคตของเขาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดอาจเริ่มสั่นคลอน
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของศึกแดงเดือด และข่าวฟุตบอลเดือดๆ ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา แหล่งรวมข่าวบอลตัวจริงของแฟนบอลไทย