สถานการณ์ของ รูเบน อโมริม กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หลังผลงานออกสตาร์ตซีซั่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย่ำแย่ที่สุดในรอบกว่า 30 ปี เสียงวิจารณ์ถาโถมเก้าอี้กุนซือสั่นคลอนทุกวินาที และมีข่าวลือว่าหาก 3 เกมสำคัญกับ เชลซี, เบรนท์ฟอร์ด และ ซันเดอร์แลนด์ ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดี อาจถึงเวลาปิดฉากตำแหน่งผู้จัดการทีมของเขาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลยังคงเปิดโอกาสให้กุนซือโปรตุเกสรายนี้พลิกสถานการณ์ได้ หากเขาสามารถลงมือแก้ไขปัญหาที่กำลังฉุดรั้งทีมให้ออกนอกเส้นทาง โดยนี่คือ 5 สิ่งสำคัญที่ อโมริม ต้องทำทันทีเพื่อกู้วิกฤติปีศาจแดง
1. ตัดสินใจชัดเจนเรื่องโกลมือหนึ่ง
ตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นปัญหาสะสมของยูไนเต็ดมาหลายฤดูกาล หลังจากปล่อย อ็องเดร โอนาน่า ไปยืมตัวที่แทร็ปซอนสปอร์ แต่กลับไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น แม้ อัลตาย บายินดีร์ จะได้ลงเฝ้าเสาครบทั้ง 4 นัดพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ แต่ฟอร์มยังไม่ใกล้เคียงระดับที่ทีมต้องการ
ในขณะเดียวกัน เซนเน่อ ลัมเมนส์ นายด่านชาวเบลเยียมวัย 23 ปี ที่ถูกเซ็นมาด้วยค่าตัวกว่า 18.2 ล้านปอนด์ยังแทบไม่ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง ทั้งที่สโมสรแสดงความเชื่อมั่นถึงขั้นยอมเมินโอกาสคว้า เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ หรือแม้กระทั่ง จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ซึ่งปัจจุบันอยู่กับแมนฯ ซิตี้ นี่คือสัญญาณชัดว่า อโมริม ต้องกล้าตัดสินใจและอาจถึงเวลามอบโอกาสให้ลัมเมนส์เป็นตัวจริง
2. ปรับสมดุลแดนกลาง
ปัญหาใหญ่ที่เห็นได้ชัดคือระบบมิดฟิลด์ขาดความลงตัว การยึดติดกับแผน 3-4-3 ทำให้แผงกลางไร้ประสิทธิภาพ ทั้ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ต้องถอยต่ำเกินไปเพื่อเล่นคู่กับ กาเซมีโร่ หรือ มานูเอล อูการ์เต้ จนเสียความอันตรายในเกมรุก ความจริงคือ บรูโน่ คือนักเตะที่สร้างสรรค์เกมได้ดีที่สุดของทีม แต่ระบบที่บีบให้เขาเล่นเกมรับมากขึ้นกลับฆ่าศักยภาพของเขาเอง
กาเซมีโร่ ไม่ได้มีความฟิตเหมือนช่วงพีก ขณะที่ อูการ์เต้ ยังไม่สามารถยืนระยะได้ ส่วนดาวรุ่งอย่าง ค็อบบี้ เมนู ถูกกุนซือมองข้าม ทั้งที่นี่อาจเป็นตัวเลือกสำคัญในการเติมพลังสดให้แดนกลาง แมนยูจำเป็นต้องหาความสมดุลใหม่ มิฉะนั้นเกมรุกจะยังคงติดขัดและไร้ไอเดียเหมือนที่ผ่านมา
3. ยืดหยุ่นแท็กติก อย่าดื้อหลังสาม
การยึดติดกับหลังสามทำให้คู่แข่งจับทางง่าย ไม่ว่าต้องเจอกับทีมเล็กหรือใหญ่ แมนยูเล่นในแบบเดิมซ้ำๆ จนโดนเจาะทะลุอย่างต่อเนื่อง แฟนบอลเคยอดทนรอให้ระบบนี้เข้าที่ แต่เวลาผ่านไปผลงานกลับไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย การไม่มีแผนสำรองและการดึงดันใช้แผนเดิม คือจุดอ่อนที่คู่แข่งใช้โจมตีอยู่เสมอ
หาก อโมริม ไม่ยอมปรับและเพิ่มความยืดหยุ่น เช่น การสลับใช้ระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-3-3 ที่เหมาะสมกับนักเตะที่มีอยู่ โอกาสกลับมาเก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่องแทบจะเป็นศูนย์
4. เชื่อใจและผลักดัน เบนยามิน เชชโก้
เบนยามิน เชชโก้ ย้ายมาด้วยค่าตัว 73.7 ล้านปอนด์หลังโชว์ฟอร์มยิง 21 ประตูให้แอร์เบ ไลป์ซิก แต่จนถึงตอนนี้ลงเล่นให้แมนยูไปแล้ว 5 นัดยังหาประตูไม่เจอ กองหน้าดาวรุ่งวัย 22 ปีรายนี้กำลังเสียความมั่นใจ และถูกนำไปเปรียบเทียบกับกองหน้าใหม่ทีมอื่นอย่าง อูโก้ เอกิติเก้ ของลิเวอร์พูล หรือ วิคตอร์ โยเคเรส ของอาร์เซน่อล ที่ระเบิดฟอร์มตั้งแต่เริ่มต้นซีซั่น
เชชโก้ต้องการโอกาสลงเล่นต่อเนื่องและการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมในการสร้างโอกาสจบสกอร์ หาก อโมริม ยังไม่กล้าให้เขาลงสนามแบบจริงจัง อาจทำให้นักเตะที่ถูกคาดหวังสูงสุดรายนี้กลายเป็นดีลล้มเหลวอีกหนึ่งรายในประวัติศาสตร์สโมสร
5. สร้างทีมสปิริตกลับคืน
หนึ่งในสิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทีมที่แทบไม่เหลืออยู่ในห้องแต่งตัว แม้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะยังคงเป็นผู้นำที่มุ่งมั่น แต่การโวยผู้ตัดสินและการแสดงอารมณ์หงุดหงิดตลอดเวลาของเขาก็ไม่ช่วยอะไร หาก อโมริม ต้องการรักษาตำแหน่ง สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือการสร้างบรรยากาศที่นักเตะทุกคนเชื่อมั่นในกันและกัน รวมถึงสร้างความฮึกเหิมกลับคืนมาสู่ทีม
แมนยูในอดีตเป็นทีมที่เต็มไปด้วยไฟนักสู้ ทุกคนพร้อมวิ่งและสู้เพื่อเพื่อนร่วมทีม ความสามัคคีเช่นนี้ต้องถูกปลุกขึ้นมาใหม่โดยมีโค้ชเป็นคนกำหนดทิศทาง
มุมมองจากประวัติศาสตร์ลูกหนัง
ไม่ใช่ครั้งแรกที่แมนยูเจอสถานการณ์กดดันเช่นนี้ ในอดีต เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็เคยถูกสื่อและแฟนบอลตั้งคำถามถึงผลงานในช่วงแรก แต่เขาใช้การปรับทีม การเชื่อใจนักเตะดาวรุ่ง และการสร้างสปิริตทีมจนกลายเป็นตำนาน หาก อโมริม ต้องการรอดจากแรงกดดันในเวลานี้ เขาอาจต้องย้อนมองบทเรียนจากอดีตและกล้าปรับเปลี่ยนในสิ่งที่ควร
เส้นทางชี้ชะตากำลังเริ่มต้น
เกมใหญ่กับ เชลซี วันที่ 20 กันยายนนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของสามศึกชี้อนาคต ทุกการตัดสินใจของ อโมริม จะถูกจับตามองจากแฟนบอลทั่วโลก ไม่เพียงเพื่อรักษาตำแหน่ง แต่ยังเพื่อกอบกู้ศรัทธาและนำทีมกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องอีกครั้ง บ้านกีฬา จะคอยอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวและทุกจังหวะสำคัญของปีศาจแดงให้แฟนบอลไทยได้ติดตามแบบเข้มข้น ติดตามทุกข่าวร้อน ทุกประเด็นเดือด และทุกความเคลื่อนไหววงการลูกหนังได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
