อโมริมเก้าอี้สั่นคลอนหลังฟอร์มดิ่ง
กระแสความไม่พอใจในหมู่แฟนบอลและบอร์ดบริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลัง รูเบน อโมริม พาทีมเก็บได้เพียง 4 แต้มจาก 4 เกมลีก แถมเพิ่งโดนคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ยำ 0-3 ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ผลงานอันย่ำแย่นี้ยิ่งซ้ำเติมความกดดันหนัก เพราะก่อนหน้านี้ทีมยังตกรอบคาราบาว คัพ ด้วยน้ำมือทีมโนเนมจากลีกทูอย่าง กริมสบี้ ทาวน์ สถานการณ์ทำให้เสียงเรียกร้องเรื่องการเปลี่ยนแปลงกุนซือดังขึ้นไม่หยุด
อนาคตไม่แน่นอน อาจเด้งก่อนเบรกทีมชาติ
แหล่งข่าวหลายสำนักรายงานตรงกันว่า หากผลงานยังคงตกต่ำ บอร์ดบริหารของ “ปีศาจแดง” อาจไม่รอช้าและสั่งปลดอโมริมในช่วงพักเบรกทีมชาติเดือนตุลาคมนี้ทันที เพื่อหยุดปัญหาไม่ให้ลุกลามไปไกลกว่านี้ และรายชื่อกุนซือที่มีโอกาสเข้ามาเสียบแทนก็เริ่มถูกพูดถึงอย่างจริงจัง โดยมีถึง 5 ชื่อใหญ่ที่ถูกโยงเข้ามามากที่สุด
1. โอลิเวอร์ กลาสเนอร์
ชื่อแรกที่มาแรงคือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ นายใหญ่ชาวออสเตรียที่สร้างปาฏิหาริย์กับคริสตัล พาเลซ พาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ สร้างประวัติศาสตร์ให้สโมสรได้ไปลุยเวทียุโรป จุดแข็งของกลาสเนอร์คือการทำงานกับขุมกำลังที่จำกัด แต่สามารถดึงศักยภาพนักเตะออกมาได้เต็มร้อย ระบบการเล่นที่เขาใช้ยังใกล้เคียงกับแท็กติกที่อโมริมพยายามปลูกฝัง ทำให้การเปลี่ยนถ่ายอาจไม่สะดุด แต่คำถามใหญ่คือ เขาจะหาทางทำให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กลับมาระเบิดฟอร์มในระบบกองหลัง 3 ตัวได้หรือไม่
2. ไมเคิ่ล คาร์ริค
ไมเคิ่ล คาร์ริค อดีตมิดฟิลด์ขวัญใจแฟนผี ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่แฟนบอลชื่นชอบ ปัจจุบันว่างงานหลังแยกทางกับมิดเดิ้ลสโบรช์ แม้ผลงานไม่ดีนักแต่เขามีประสบการณ์ตรงกับแมนยูเพราะเคยรับบทกุนซือขัดตาทัพมาแล้วทั้งหลังยุคมูรินโญ่และโซลชา คาร์ริคใช้เวลา 12 ปีในฐานะนักเตะที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และทำงานในฐานะโค้ชมาหลายปี จึงแทบไม่ต้องปรับตัวกับสโมสร อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในระดับนี้และการบริหารจัดการนักเตะซูเปอร์สตาร์อาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่
3. แกเร็ธ เซาธ์เกต
อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็เป็นชื่อที่บอร์ดบริหารชื่นชอบ โดยเฉพาะกลุ่มทุน อิเนออส และเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ที่เป็นแฟนตัวยงผลงานการสร้างทีมและการบริหารความสัมพันธ์กับนักเตะของเขา ตลอด 8 ปีที่คุมทัพสิงโตคำราม เซาธ์เกตได้รับความเคารพอย่างมากโดยเฉพาะนักเตะแมนยูที่ร่วมงานในทีมชาติ แต่ข้อกังขาคือเขาไม่ได้คุมทีมสโมสรมานานกว่า 15 ปี นับตั้งแต่คุมมิดเดิ้ลสโบรช์ในปี 2009 และประสบการณ์นั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก
4. มาร์โก ซิลวา
มาร์โก ซิลวา กุนซือโปรตุกีสของฟูแล่ม คือตัวเลือกที่มีประสบการณ์โชกโชนในพรีเมียร์ลีก เขาผ่านงานกับฮัลล์ ซิตี้, วัตฟอร์ด, เอฟเวอร์ตัน และฟูแล่ม ปัจจุบันเขาเป็นหนึ่งในกุนซือที่มีจำนวนเกมคุมทีมมากที่สุดเป็นอันดับสาม รองเพียงเป๊ป กวาร์ดิโอล่า และมิเกล อาร์เตต้า จุดเด่นของซิลวาคือการสร้างทีมให้มีรากฐานแข็งแกร่ง เล่นตามระบบที่มีวินัยสูง เขาอาจช่วยให้แมนยูยกระดับได้ในระยะสั้น แต่ยังมีคำถามเรื่องพัฒนาการระยะยาวว่าจะตอบโจทย์ทีมยักษ์ใหญ่ได้จริงหรือไม่
5. เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
สุดท้ายคือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ชื่อของเขายังวนเวียนกับเก้าอี้กุนซือแมนยูมาตลอด แม้ตอนนี้รับงานเฮดโค้ชทีมชาติสหรัฐอเมริกาเพื่อเตรียมศึกฟุตบอลโลก แต่แฟนผีบางส่วนยังคงฝันอยากเห็นเขากลับมาในพรีเมียร์ลีก โปเช็ตติโน่เคยสร้างชื่อกับเซาธ์แฮมป์ตันและสเปอร์ส ด้วยสไตล์การเล่นที่กดดันสูงและต่อบอลเร็ว ถูกใจบอร์ดและแฟนบอล อย่างไรก็ตาม ผลงานในช่วงหลังกับเปแอสเชและเชลซี รวมถึงแรงกดดันในทีมชาติสหรัฐฯ ทำให้ความน่าเชื่อถือของเขาลดลงไปพอสมควร
มุมมองที่แฟนบอลควรคิด
การหากุนซือใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ใช่แค่เรื่องแก้ปัญหาระยะสั้น แต่คือการวางรากฐานระยะยาวว่าจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในอังกฤษและยุโรปได้หรือไม่ ทุกชื่อที่ถูกโยงต่างมีจุดเด่นและจุดอ่อนชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์, แท็กติก, การจัดการนักเตะ หรือความสามารถในการรับแรงกดดัน ระหว่างที่อนาคตของอโมริมแขวนอยู่บนเส้นด้าย แฟนบอลทั่วโลกจึงต้องจับตาว่า “ปีศาจแดง” จะเลือกเดินไปในทิศทางใด
ศึกใหญ่รออยู่
การตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลโดยตรงต่อเส้นทางของแมนยูในฤดูกาลที่ยังเหลืออีกยาวไกล ไม่ว่าจะเป็นการลุ้นโควตายุโรปหรือศึกหนักในพรีเมียร์ลีก ทุกสายตาจับจ้องไปที่บอร์ดบริหารว่าพวกเขาจะกล้าพอที่จะเปลี่ยนแปลงหรือยังคงให้โอกาสอโมริมพิสูจน์ตัวเอง ติดตามทุกความเคลื่อนไหวเข้มข้นได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
