
สัญญาณเตือนจากรุ่นพี่เลือดวิสกี้
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายตัวเก๋าของ ลิเวอร์พูล ส่งสัญญาณแรงชัดเจนว่าพร้อมกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงคืนจาก มิลอส เคอร์เคซ ดาวรุ่งวัย 21 ปี หลังได้โอกาสลงสนามแทนในเกมเฉือนชนะ เบิร์นลี่ย์ 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมั่นใจว่าแมตช์ใหญ่ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะเปิดรังรับมือ แอตเลติโก มาดริด คือเวทีที่ดีที่สุดในการพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
เกมเบิร์นลี่ย์จุดเปลี่ยนโอกาส
นัดล่าสุดที่บุกชนะเบิร์นลี่ย์แบบหืดจับ 1-0 คือจังหวะที่สถานการณ์เปลี่ยน เคอร์เคซซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อเนื่องตั้งแต่เปิดซีซั่น กลับถูกถอดออกตั้งแต่นาทีที่ 38 หลังจากมีใบเหลืองติดตัว และเสี่ยงสูงที่จะโดนไล่ออกในครึ่งแรก ทำให้ โรเบิร์ตสัน ได้ลงมาแทนทันที ซึ่งนั่นกลายเป็นสัญญาณว่าเส้นทางการแย่งตำแหน่งตัวจริงยังไม่จบง่ายๆ แม้ค่าตัวของแข้งฮังการีรายนี้จะสูงถึง 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,760 ล้านบาท) ก็ตาม
เสียงคำรามจากโรเบิร์ตสัน
สตาร์ทีมชาติสกอตแลนด์วัย 31 ปี เปิดใจแบบไม่กั๊กว่าพร้อมเต็มที่ที่จะสู้เพื่อตำแหน่ง โดยมองว่าเกมกลางสัปดาห์นี้คือตัวชี้ชะตา
“บางทีเกมวันพุธนี้อาจเป็นโอกาสของผม ผมต้องการลงสนาม และเล่นเป็นแบ็คซ้ายตัวจริง ผมจะพยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อคว้าตำแหน่งคืนมา”
โรเบิร์ตสันยังเสริมว่าแม้จะต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่เขาเองก็พยายามช่วยผลักดันเพื่อนร่วมทีมรุ่นน้องให้พัฒนาไปข้างหน้าเช่นกัน
เคอร์เคซ ตัวแทนแห่งอนาคต
แม้จะประกาศกร้าวพร้อมสู้เพื่อเก้าอี้ตัวจริง แต่ โรเบิร์ตสัน ก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เคอร์เคซ คือนักเตะอนาคตของสโมสร การย้ายมาจาก บอร์นมัธ ทำให้เจ้าตัวต้องเจอแรงกดดันมหาศาล แต่โรเบิร์ตสันมองว่ามันคือเส้นทางที่เขาเองก็เคยเจอมาเหมือนกันตอนย้ายจาก ฮัลล์ ซิตี้ มาสู่แอนฟิลด์ และนี่คือสิ่งที่ทำให้เขาเข้าใจดีว่ารุ่นน้องต้องผ่านอะไรบ้าง
“เขาจะเป็นแบ็คซ้ายตัวจริงของลิเวอร์พูลในอนาคต มันขึ้นอยู่กับผมที่ต้องกดดันเขาในซีซั่นนี้ และช่วยเขาพัฒนา”
มุมมองจากการลงทีมชาติ
ช่วงเบรกทีมชาติที่ผ่านมา โรเบิร์ตสันได้ลงเล่นครบ 90 นาทีในเกมของทีมชาติสกอตแลนด์ และช่วยทีมคว้าผลการแข่งขันที่ดีสองนัดติด สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เขาเรียกความมั่นใจกลับคืนมา แต่ยังช่วยให้สภาพร่างกายกลับมาเต็มถัง พร้อมสำหรับเกมใหญ่ระดับยุโรปที่จะถึง
ศึกใหญ่รอพิสูจน์ตัวจริง
แมตช์กับ แอตเลติโก มาดริด ไม่ใช่เพียงเกมสำคัญในเส้นทาง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ของลิเวอร์พูลเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นเกมที่ชี้ชัดว่าใครจะเป็นแบ็คซ้ายตัวจริงในซีซั่นนี้ การแข่งขันภายในทีมจึงเดือดไม่แพ้เกมในสนามจริง และนี่คือจังหวะที่โรเบิร์ตสันต้องแสดงให้เห็นว่ายังคู่ควรกับตำแหน่งเดิมที่เคยยึดมาตลอดหลายปี
สิ่งที่แฟนบอลควรจับตา
แฟนบอลหงส์แดงทั่วโลก รวมถึงแฟนบอลไทยต่างเฝ้ารอจะได้เห็นว่าใครจะคว้าตำแหน่งนี้ไปครอง เพราะตำแหน่งแบ็คซ้ายไม่ใช่เพียงจุดยืนในสนาม แต่คือตัวแปรสำคัญต่อเกมรุกและเกมรับของทีม การต่อสู้ครั้งนี้อาจเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่สะท้อนถึงอนาคตของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้
เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
ฟุตบอลคือกีฬาที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ไม่มีตำแหน่งใดที่เป็นของใครตลอดไป ความสำเร็จในอดีตไม่ได้การันตีอนาคต ความท้าทายของโรเบิร์ตสันและเคอร์เคซจึงเป็นบทเรียนสำคัญให้แฟนบอลได้เห็นว่าการแข่งขันภายในทีมใหญ่เป็นสิ่งที่ผลักดันนักเตะให้ยกระดับอยู่เสมอ
ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีกที่กำลังจะมาถึงคือบททดสอบครั้งใหญ่ และทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ฟอร์มของแบ็คซ้ายทั้งสองคน แฟนบอลอย่าพลาดติดตามทุกความเคลื่อนไหวแบบสดใหม่ไปพร้อมกันที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา