ประเด็นร้อนในโลกฟุตบอลอังกฤษถูกจุดไฟขึ้นอีกครั้ง เมื่อ ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ ออกมาตอบโต้เสียงดัง หลังถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เวย์น รูนี่ย์ ตอนอายุ 17 ปี โดยเจ้าตัวประกาศชัด ผลงานของเขาในวัยเดียวกันนั้นเหนือกว่าอย่างไม่เห็นฝุ่น
ต้นเรื่องมาจาก “แมตช์ ออฟ เดอะ เดย์”
สื่อดังจากอังกฤษอย่าง BBC ในรายการ Match of the Day ได้หยิบยกประเด็นเปรียบเทียบว่า ระหว่างโอเว่นกับรูนี่ย์ ใครเก่งกว่ากันเมื่ออายุ 17 ปี ซึ่งทันทีที่อดีตกองหน้าลิเวอร์พูลและเรอัล มาดริดได้เห็นโพสต์ดังกล่าว เขาไม่รอช้า เข้าไปคอมเมนต์ตอบกลับทันที พร้อมยกตัวเลขและผลงานแบบละเอียดเพื่อยืนยันจุดยืน
คำตอบโต้จากโอเว่น
โอเว่นพิมพ์ตอบว่า
“ตอนผมอายุ 17 ปีผมยิงใน พรีเมียร์ลีก ได้ 18 ลูก (แถมได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดด้วย) ขณะที่ในช่วงวัยเดียวกัน ว๊าซซ่า ยิงได้ 6 ประตู พอผมอายุ 18 ปีผมยิงได้ 18 ลูกอีกหน (ผมได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดอีกครั้งและถูกโหวตเป็นอันดับ 4 ในการชิงรางวัล บัลลง ดอร์ ด้วย) ส่วน ว๊าซซ่า ยิงได้ 9 ลูกตอนวัยเดียวกัน”
นอกจากนี้ เขายังเสริมว่า
“ในช่วง 7 ฤดูกาลแรกที่เราเล่นกันใน พรีเมียร์ลีก มันไม่เคยมีซีซั่นไหนเลยที่ ว๊าซซ่า ยิงได้มากกว่าผม (ผมยิงได้รวม 117 ประตูส่วนเขาทำได้ 80 ลูก) แถมช่วงนั้นผมยังได้เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ได้รางวัล บัลลง ดอร์ ด้วย หลังจากนั้นผมก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ขณะที่เขายังรักษาระดับการเล่นของตัวเองได้ ซึ่งแน่นอนว่าผลงานช่วงนั้นจะทำให้เขาได้รับการจดจำว่าเป็นนักเตะที่เก่งกว่าผม แต่ถ้าเทียบกันตอนอายุ 17 ปีเนี่ยนะ ขอทีเถอะ”
โอเว่น vs รูนี่ย์: สองตำนานต่างยุค
ทั้งโอเว่นและรูนี่ย์ต่างเป็นกองหน้าที่สร้างชื่อในฐานะความหวังใหม่ของทีมชาติอังกฤษในช่วงวัยรุ่น โอเว่นแจ้งเกิดอย่างยิ่งใหญ่ในฟุตบอลโลก 1998 ขณะที่รูนี่ย์ก็สร้างความฮือฮาในยูโร 2004 และกลายเป็นศูนย์หน้าตัวหลักของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในยุคทองของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน การเปรียบเทียบระหว่างทั้งคู่จึงเป็นประเด็นที่แฟนบอลอังกฤษถกเถียงกันมาโดยตลอด
ความต่างที่ชัดเจนในเส้นทางอาชีพ
โอเว่นเริ่มต้นด้วยผลงานอันร้อนแรง คว้ารางวัลดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลซ้อนตั้งแต่วัยรุ่น และยังเป็นหนึ่งในนักเตะที่เคยขึ้นไปลุ้นรางวัล บัลลง ดอร์ จนถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์ของพรสวรรค์ แต่เส้นทางของเขาต้องสะดุดเพราะปัญหาบาดเจ็บเรื้อรัง ขณะที่รูนี่ย์แม้จะไม่พุ่งแรงเท่าตอนเริ่มต้น แต่กลับรักษาระดับการเล่นได้ยาวนานกว่า จนก้าวขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของแมนฯ ยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษ
มุมมองที่แฟนบอลควรจับตา
การถกเถียงว่าใครเหนือกว่ากันระหว่างโอเว่นกับรูนี่ย์อาจไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ทั้งสองต่างเป็น “ตำนาน” ที่ฝากผลงานระดับประวัติศาสตร์ไว้กับทีมชาติและสโมสร เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าเส้นทางลูกหนังไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งทางร่างกายและความต่อเนื่องตลอดเส้นทางอาชีพ
การที่โอเว่นออกมาตอบโต้ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง แต่ยังเป็นการย้ำเตือนว่าในช่วงเวลาหนึ่ง เขาเคยเป็นกองหน้าที่โลกทั้งโลกต้องจับตามอง และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของวงการลูกหนังผู้ดี ติดตามประเด็นเข้มข้นและเรื่องราวเด็ดในโลกฟุตบอลต่อไปได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
