ลมหายใจสุดท้าย? อโมริม เตรียมเคลียร์อนาคตคุม แมนยู ช่วงเบรกทีมชาติ หลังผลงานย่ำแย่

สถานการณ์ของ รูเบน อโมริม เฮดโค้ชชาวโปรตุเกสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังร้อนแรงกว่าที่เคย เมื่อสื่ออังกฤษชื่อดังอย่าง เดลี่ เมล และ เดอะ เทเลกราฟ รายงานตรงกันว่า อโมริมเตรียมหารืออนาคตคุมทีมกับบอร์ดบริหารในช่วงโปรแกรมทีมชาติ หลังพา “ปีศาจแดง” เปิดฤดูกาลได้อย่างน่าผิดหวัง ไร้ชัยชนะจาก 3 เกมแรก แถมเพิ่งโดนทีมเล็กจากลีกทูเขี่ยตกรอบบอลถ้วย

บอร์ดยังหนุนหลัง แต่ผลงานกดดันหนัก

แม้กระแสวิจารณ์จะถาโถมอย่างต่อเนื่อง แต่รายงานเผยว่าบอร์ดบริหารของแมนยูไนเต็ด ยังไม่มีความคิดที่จะปลดอโมริมออกจากตำแหน่งในทันที โดยยังคงเลือกที่จะให้เวลาและโอกาสในการแก้ไขสถานการณ์ แต่สิ่งที่กุนซือวัย 39 ปีต้องเผชิญคือแรงกดดันมหาศาลจากทั้งแฟนบอลและผลงานในสนามที่ไม่อาจปฏิเสธได้

ตัวเลขที่บ่งบอกทุกอย่าง

การออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยฟอร์มไม่ชนะใครใน 3 นัดแรก ถือเป็นการตอกย้ำปัญหาที่คาราคาซังมาตั้งแต่ปีก่อน ซึ่งอโมริมพาทีมจบเพียงอันดับที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก 2024/25 ขณะที่สถิติคุมทีมรวม 45 นัด ทำได้แค่ ชนะ 16 เสมอ 12 แพ้ 17 หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ชนะเพียง 35.56% ตัวเลขเหล่านี้คือคำตอบชัดเจนว่าทำไมแฟนบอลเริ่มหมดศรัทธาและตั้งคำถามถึงทิศทางของทีมภายใต้การนำของเขา

จุดแตกหักหลังตกรอบคาราบาว คัพ

ความผิดหวังครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในศึก คาราบาว คัพ รอบสอง ที่แมนยูบุกไปแพ้ต่อ กริมส์บี้ ทาวน์ ทีมจากลีกทู ส่งผลให้ตกรอบแบบสุดช็อก ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอล แต่ยังกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เสียงวิจารณ์รุนแรงยิ่งกว่าเดิม และกลายเป็นสัญญาณเตือนว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง โอกาสที่อโมริมจะหลุดจากเก้าอี้ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง

ความรู้สึกภายในทีม

แม้บอร์ดจะยังคงสนับสนุนอโมริม แต่รายงานจาก เดอะ การ์เดี้ยน ระบุว่า บรรยากาศภายในทีมกลับเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน มีความรู้สึกว่า หากผลงานไม่กระเตื้องขึ้นอย่างรวดเร็ว อโมริมอาจตัดสินใจอำลาทีมด้วยตัวเองมากกว่าจะรอถูกปลด เพราะเจ้าตัวเองก็เผชิญแรงกดดันทั้งจากนักเตะ สื่อ และแฟนบอลที่เริ่มหมดความเชื่อมั่น

อนาคตที่เส้นด้ายของปีศาจแดง

ในโลกของฟุตบอล ช่วงเบรกทีมชาติ มักถูกใช้เป็นจังหวะสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกับสโมสรใหญ่ที่ไม่อาจยอมให้ฤดูกาลหลุดลอยตั้งแต่ต้น หากแมนยูยังไม่สามารถพลิกฟื้นฟอร์มได้หลังกลับมาจากเบรก ทีมงานบริหารอาจถูกบังคับให้ต้องเลือกทางออกที่เด็ดขาดเพื่อกอบกู้ศรัทธาแฟนบอลและรักษามาตรฐานของสโมสร

สิ่งที่แฟนบอลควรรู้

ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก มีหลายครั้งที่ทีมใหญ่ตัดสินใจเปลี่ยนกุนซือเร็วตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล เช่น เชลซี, สเปอร์ส หรือแม้แต่แมนยูเองที่เคยแยกทางกับกุนซือก่อนคริสต์มาส การหารือครั้งนี้ระหว่างอโมริมกับบอร์ดจึงอาจเป็น “จุดเปลี่ยนชะตา” ของปีศาจแดง เพราะมันจะเป็นตัวชี้ชัดว่า สโมสรจะเลือกให้เวลาเพื่อสร้างความต่อเนื่อง หรือจะเลือกความเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังที่สูงเสียดฟ้า

อนาคตของ รูเบน อโมริม และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย และทุกสายตาจะจับจ้องไปที่การตัดสินใจในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ว่าปีศาจแดงจะยังเดินไปพร้อมเขา หรือจะเปิดฉากบทใหม่ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลระดับโลกได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา