
สัญญาณการเปลี่ยนแปลงที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดยังแรงไม่หยุด ล่าสุดมีกระแสข่าว อเลฮานโดร การ์นาโช่ ปีกอนาคตไกลทีมชาติอาร์เจนตินา ส่อแววย้ายซบเชลซี หลังกลายเป็นนักเตะที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะยอมรับในฝีเท้า แต่กลับมองว่าสไตล์ของเจ้าหนูวัย 21 ปีรายนี้ ไม่เข้าระบบ
อโมริมยอมรับตรงไปตรงมาว่า “การ์นาโช่เป็นนักเตะที่มีศักยภาพยอดเยี่ยม” แต่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเจ้าตัวถึง ไม่สามารถเข้ากับปรัชญาฟุตบอล ที่เขาต้องการได้ และด้วยความไม่ลงรอยนี้ ทำให้ทั้งสองฝ่ายอาจต้องแยกทางกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อเปิดทางให้การ์นาโช่ ไปหาความลงตัวกับสโมสรอื่น
โดยจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างการ์นาโช่กับอโมริมแตกร้าว เกิดขึ้นในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ที่เจ้าตัว หลุดจากตัวจริง อย่างน่าประหลาดใจ แม้จะลงเล่นเป็นตัวจริงมาอย่างต่อเนื่องกว่า 25 นัดในซีซั่นก่อนหน้า ส่งผลให้เจ้าตัวออกอาการไม่พอใจอย่างชัดเจน ก่อนจะ ถูกตัดชื่อออกจากทีมชุดปรีซีซั่น ในเวลาต่อมา
ฝั่ง เชลซี ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เป็นหนึ่งในทีมที่ถูกเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการ์นาโช่ แม้ซัมเมอร์นี้พวกเขาจะเสริมแนวรุกชุดใหญ่ดึงทั้ง เลียม ดีแลป, ชูเอา เปโดร, เจมี่ กิตเท่นส์ และ เอสเตเวา มาร่วมทัพ แต่ดูเหมือนว่ายัง ไม่หยุดช็อป และอยากได้ปีกร่างบางจาก “ปีศาจแดง” ไปเสริมริมเส้นฝั่งซ้ายอีกคน
แหล่งข่าวใกล้ชิดวงในเผยว่า มาเรสก้ามองว่า การ์นาโช่คือโปรไฟล์ที่เขาต้องการ ทั้งความเร็ว ทักษะ และอายุที่เข้ากับทีมพลังหนุ่มของเชลซีได้อย่างลงตัว โดยวางแผนให้มาแย่งตำแหน่งกับ เจมี่ กิตเท่นส์ และ เปโดร เนโต้ ในระบบ 4-3-3 ที่ใช้ โคล พาลเมอร์ ยืนปีกขวาอย่างถาวรอยู่แล้ว
แมนยูตั้งค่าหัวการ์นาโช่ไว้เท่าไหร่?
ไม่ใช่ความลับอีกต่อไปว่า แมนยูพร้อมขายการ์นาโช่ หากได้ราคาที่เหมาะสม โดยแหล่งประเมินจาก Transfermarkt ระบุว่าค่าตัวปีกชาวอาร์เจนไตน์อยู่ที่ 45 ล้านยูโร (ราว 1,700 ล้านบาท) ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลขที่ “ปีศาจแดง” หวังจะปิดดีลให้ได้ในระดับสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้
หากเกิดการซื้อขายที่ตัวเลขนี้จริง การ์นาโช่จะกลายเป็น นักเตะแมนยูที่ขายออกแพงที่สุดอันดับ 4 ในประวัติศาสตร์ รองจากการปล่อย คริสเตียโน่ โรนัลโด้, อังเคล ดิ มาเรีย และโรเมลู ลูกากู
แม้จะมีหลายทีมในยุโรปให้ความสนใจ แต่จากการเปิดเผยของ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวตลาดซื้อขายชื่อดัง ชี้ว่า การ์นาโช่ ต้องการปักหลักค้าแข้งในอังกฤษ ต่อ และในตอนนี้มีเพียง เชลซีทีมเดียวที่เขายินดีจะเซ็นสัญญาด้วย
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดีลนี้ดูมีแนวโน้มคือเรื่อง โครงสร้างค่าเหนื่อย ที่การ์นาโช่ยังได้รับค่าแรงไม่สูงเท่าแข้งซีเนียร์รายอื่น ทำให้สามารถเข้ากับนโยบายค่าใช้จ่ายของเชลซีได้อย่างพอดีเป๊ะ
เทียบชัด! การ์นาโช่ vs ปีกเชลซี ใครเหนือกว่า?
ก่อนจะไปไกลถึงขั้นเปิดตัว เรามาดู ผลงานของการ์นาโช่ เปรียบเทียบกับบรรดาปีกในทีม “สิงห์บลูส์” ที่ มาเรสก้า มีอยู่ในมือปัจจุบันกันว่า หากย้ายมาแล้ว เจ้าตัวมีสิทธิ์เบียดใครขึ้นตัวจริงได้หรือไม่?
ผลงานรวม 2 ฤดูกาลหลังสุด (ลงเล่น + ประตู + แอสซิสต์)
- โคล พาลเมอร์ – 100 นัด / 74 ประตู+แอสซิสต์
- เอสเตเวา – 87 นัด / 48 ประตู+แอสซิสต์
- อเลฮานโดร การ์นาโช่ – 108 นัด / 38 ประตู+แอสซิสต์
- เปโดร เนโต้ – 75 นัด / 35 ประตู+แอสซิสต์
- เจมี่ กิตเท่นส์ – 83 นัด / 17 ประตู+แอสซิสต์
- คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู – 62 นัด / 23 ประตู+แอสซิสต์
ประสิทธิภาพเฉลี่ยต่อ 90 นาที (ประตู+แอสซิสต์/เกม)
- พาลเมอร์ – 0.83
- เอ็นกุนกู – 0.73
- เอสเตเวา – 0.72
- เนโต้ – 0.62
- กิตเท่นส์ – 0.58
- การ์นาโช่ – 0.47
จากตัวเลขจะเห็นได้ชัดว่า การ์นาโช่ยังตามหลังเพื่อนร่วมตำแหน่งหลายคนในแง่ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ พาลเมอร์, เอ็นกุนกู และเอสเตเวา อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าเขาเพิ่งอายุ 21 ปี และยังมีโอกาสพัฒนาได้อีกมาก หากได้โค้ชที่เชื่อมั่นและระบบที่เหมาะกับการลากเลื้อยของเขา
บทสรุป – หากดีลนี้เกิดขึ้น ใครจะได้ ใครจะเสีย?
ดีลนี้อาจกลายเป็น จุดเปลี่ยนของทั้งการ์นาโช่และเชลซี หากเขาย้ายไปแล้วสามารถปักหลักเป็นตัวจริงได้ เชลซีจะได้ของดีราคาถูก ขณะที่ แมนยูอาจถูกวิจารณ์ว่า “ปล่อยเพชรหลุดมือ” ไปให้คู่แข่งโดยตรง
ในมุมของอโมริม มันอาจเป็นแค่การตัดส่วนที่ไม่เข้าระบบออกจากแผนการสร้างทีมใหม่ แต่ในโลกของฟุตบอล การตัดสินใจแบบนี้อาจย้อนกลับมาหลอกหลอนได้ทุกเมื่อ
ติดตามข่าวซื้อขายร้อนแรง และวิเคราะห์ดุเดือดทุกดีลสำคัญได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา เว็บไซต์เดียวครบ จบทุกความเคลื่อนไหวของโลกฟุตบอล