
ระเบิดศึกกลางดงไฟ! เมื่อ รูเบน อโมริม นายใหญ่คนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงขั้นยอมรับต่อหน้าสื่อว่า ผลงานของเขาเข้าขั้น “เลวร้ายที่สุด” นับตั้งแต่สโมสรเข้าสู่ยุค พรีเมียร์ลีก และนั่นไม่ใช่คำพูดลอยๆ เพราะสถิติต่าง ๆ เริ่มชี้ชัดว่าเขาอาจกลายเป็น กุนซือที่แฟนผีอยากลืมมากที่สุด นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือเมื่อปี 2013
ก่อนเกมยูฟ่า ยูโรปา ลีก เลกสอง ที่ “ปีศาจแดง” ต้องเปิดบ้านรับมือ โอลิมปิก ลียง ในค่ำคืนวันพฤหัสบดีนี้ อโมริมได้แถลงข่าวพร้อมสารภาพตรงๆ ว่าผลงานของเขานั้น “ต่ำกว่ามาตรฐาน” และทำให้ยูไนเต็ดดูไร้เขี้ยวเล็บอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ย้อนกลับไปเกมล่าสุดในศึก พรีเมียร์ลีก ที่แมนยูบุกไปโดน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ถล่มถึง 4-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายของความอดทนจากแฟนบอลหลายกลุ่ม เพราะเมื่อดูจากจำนวนแต้มที่เก็บได้และความต่อเนื่องของฟอร์มการเล่น ผลงานของอโมริมชักเริ่มเข้าใกล้จุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของทีม
ไม่เพียงแค่ฟอร์มในลีกที่ร่วงลงเหว หากมองในภาพรวมทุกรายการ สถิติของอโมริมก็ยังคงดูไม่จืด เมื่อเทียบกับบรรดาอดีตกุนซือที่เคยพยายามสานต่องานของ “ป๋าเฟอร์กี้” ซึ่งรวมถึงชื่อดังระดับโลกอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่, หลุยส์ ฟาน กัล, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ราล์ฟ รังนิก, และ เอริค เทน ฮาก
แม้ปัจจุบันอโมริมจะยังเหลือเกมให้แก้ตัวในลีกอีก 6 นัด แต่หากยังคงสะดุดอย่างต่อเนื่อง จำนวนความพ่ายแพ้อาจทะลุ 14 นัดในฤดูกาลเดียว ซึ่งถือเป็นสถิติเลวร้ายที่สุดตั้งแต่ยุคทีมตกชั้นเมื่อปี 1974 เลยทีเดียว
เขากล่าวก่อนเกมชี้ชะตากับลียงว่า
“สถิติของผมแย่ที่สุด ผมยังไม่อาจแสดงผลงานในระดับที่ควรได้ แต่ผมยังเชื่อว่าผมคือคนที่ใช่สำหรับทีมนี้”
เสียงจากโค้ชวัย 40 ปีชาวโปรตุกีสที่ยังหวังพลิกสถานการณ์ แม้หลายเสียงเริ่มตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของเขา
เพื่อให้เห็นภาพชัด บ้านกีฬา ขอนำเสนอการเปรียบเทียบสถิติของอโมริม กับอดีตกุนซือทุกคนหลังเฟอร์กี้วางมือ ซึ่งจะเห็นว่าตัวเลขไม่เคยโกหก
สถิติในพรีเมียร์ลีก (เฉพาะเกมลีก)
- รูเบน อโมริม: 21 นัด / ชนะ 6 / เสมอ 5 / แพ้ 10 / อัตราชนะ 28.6% / แต้มต่อเกม 1.1
- เอริค เทน ฮาก: 85 นัด / ชนะ 44 / เสมอ 14 / แพ้ 27 / อัตราชนะ 51.8% / แต้มต่อเกม 1.72
- ราล์ฟ รังนิก: 24 นัด / ชนะ 10 / เสมอ 7 / แพ้ 7 / อัตราชนะ 41.7% / แต้มต่อเกม 1.54
- โอเล่ กุนนาร์ โซลชา: 109 นัด / ชนะ 56 / เสมอ 29 / แพ้ 24 / อัตราชนะ 51.4% / แต้มต่อเกม 1.81
- โชเซ่ มูรินโญ่: 93 นัด / ชนะ 50 / เสมอ 26 / แพ้ 17 / อัตราชนะ 53.8% / แต้มต่อเกม 1.89
- หลุยส์ ฟาน กัล: 76 นัด / ชนะ 39 / เสมอ 19 / แพ้ 18 / อัตราชนะ 51.3% / แต้มต่อเกม 1.77
- เดวิด มอยส์: 34 นัด / ชนะ 17 / เสมอ 6 / แพ้ 11 / อัตราชนะ 50% / แต้มต่อเกม 1.68
สถิติรวมทุกรายการ
- อโมริม: 32 นัด / ชนะ 12 / เสมอ 9 / แพ้ 11 / อัตราชนะ 37.5% / แชมป์: ยังไม่มี
- เทน ฮาก: 128 นัด / ชนะ 70 / เสมอ 23 / แพ้ 35 / อัตราชนะ 54.7% / แชมป์: เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ
- รังนิก: 29 นัด / ชนะ 11 / เสมอ 10 / แพ้ 8 / อัตราชนะ 37.9% / แชมป์: ไม่มี
- โซลชา: 168 นัด / ชนะ 91 / เสมอ 37 / แพ้ 40 / อัตราชนะ 54.2% / แชมป์: ไม่มี
- มูรินโญ่: 144 นัด / ชนะ 84 / เสมอ 32 / แพ้ 28 / อัตราชนะ 58.3% / แชมป์: ลีก คัพ, ยูโรปา ลีก
- ฟาน กัล: 103 นัด / ชนะ 54 / เสมอ 25 / แพ้ 24 / อัตราชนะ 52.4% / แชมป์: เอฟเอ คัพ
- มอยส์: 51 นัด / ชนะ 27 / เสมอ 9 / แพ้ 15 / อัตราชนะ 52.9% / แชมป์: ไม่มี
ชัดเจนว่าไม่ว่าจะมองจากมุมไหน อโมริมยังคงเป็นกุนซือที่ผลงานต่ำกว่ามาตรฐานของแมนยูอย่างมาก และหากยังไม่สามารถหาทางยกระดับทีมได้ทันเวลา อนาคตของเขาในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ดก็อาจสั้นกว่าที่คาดไว้
ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา จะคอยติดตามทุกฝีก้าวของสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด แล้วเราจะได้รู้กันว่าอโมริมจะพลิกสถานการณ์ได้ หรือจารึกสถิติที่แฟนผีไม่อยากจดจำมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร