จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2024 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ลิเวอร์พูล วันนี้ 23/2/68 – บ้านกีฬา
บิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก 2024 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาบ้านต่อ ลิเวอร์พูล 0-2 จากประตูของ โดมินิก โซบอสไล และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่น เกมนี้แม้ซิตี้จะครองบอลได้มากกว่า แต่เกมรุกของลิเวอร์พูลเฉียบขาดและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ส่งผลให้ทีมของ อาร์เน่ สล็อต เก็บสามแต้มสำคัญ รั้งจ่าฝูงเหนียวแน่น ในขณะที่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องพลาดโอกาสไล่จี้หัวตารางไปอย่างน่าเสียดาย บ้านผลบอล นัดนี้ต้องยกเครดิตให้แข้ง “หงส์แดง” ที่เล่นกันอย่างมีระเบียบและเฉียบขาด
ครึ่งแรก – โซบอสไล-ซาลาห์ ซัดคนละลูก พาลิเวอร์พูลนำ 2-0
เกมเริ่มต้นมาด้วยจังหวะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามคุมเกมและครองบอลได้เหนือกว่า แต่จังหวะเข้าทำยังไม่คมพอ และแล้วในนาทีที่ 14 โดมินิก โซบอสไล ก็ทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นช็อกทั้งสนาม เมื่อเจ้าตัวจับบอลจากการจ่ายของ ซาลาห์ ก่อนซัดเข้าไปอย่างสวยงามให้ลิเวอร์พูลออกนำ 0-1
แมนฯ ซิตี้พยายามตอบโต้และสร้างสรรค์โอกาสยิงหลายครั้ง แต่แนวรับลิเวอร์พูลนำโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังรับมือได้ดี จนกระทั่งนาทีที่ 37 ซาลาห์ โชว์ความเหนือชั้นอีกครั้ง เมื่อรับบอลจาก โซบอสไล ก่อนซัดเต็มข้อให้ลิเวอร์พูลหนีห่าง 0-2
ครึ่งหลัง – แมนฯ ซิตี้ บุกหนักแต่เจาะไม่เข้า ลิเวอร์พูลเล่นเกมรับสุดแกร่ง
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ เดินหน้าบุกเต็มกำลัง หวังทวงประตูคืนแต่แนวรับลิเวอร์พูลยังเหนียวแน่น นาทีที่ 57 เคอร์ติส โจนส์ ยิงเข้าไปแต่ VAR ริบประตูคืน ทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นเซ็งไปตามๆ กัน หลังจากนั้นแม้ซิตี้จะมีโอกาสยิงถึง 16 ครั้ง แต่กลับเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลย
ลิเวอร์พูลเน้นเกมรับและเล่นสวนกลับอย่างมีประสิทธิภาพ แม้เจ้าถิ่นจะครองบอลมากถึง 67% แต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกชนะ 2-0 คว้าสามแต้มสำคัญไปได้
รายชื่อนักเตะตัวจริง และนักเตะโดดเด่น
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1)
- ผู้รักษาประตู: เอแดร์ซอน
- กองหลัง: ริโก้ ลูอิส, นาธาน อาเก้, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล, ซาวินโญ่
- กองกลาง: อับดูโคดิร์ คูซานอฟ, เควิน เดอ บรอยน์ (กัปตัน), ฟิล โฟเด้น, นิโคลัส กอนซาเลซ, อุสซามา มาร์มูช
- กองหน้า: เฌเรมี่ โดกู
🔹 นักเตะโดดเด่น
- เฌเรมี่ โดกู (8.2) – สร้างสรรค์เกมรุกและเลี้ยงบอลได้อันตราย
- อับดูโคดิร์ คูซานอฟ (7.2) – คุมแดนกลางและจ่ายบอลแม่นยำ
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1)
- ผู้รักษาประตู: อลิสซง
- กองหลัง: เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (กัปตัน), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
- กองกลาง: ไรอัน กราเวนเบิร์ช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์, โดมินิก โซบอสไล, หลุยส์ ดิอาซ
- กองหน้า: โมฮาเหม็ด ซาลาห์
🔹 นักเตะโดดเด่น
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (8.9) – ยิง 1 จ่าย 1 ฟอร์มยอดเยี่ยม
- อลิสซง (8.0) – เซฟสำคัญหลายครั้งช่วยให้ทีมไม่เสียประตู
วิเคราะห์บอล การรุกและการรับ
แม้ แมนฯ ซิตี้ จะครองบอลได้ถึง 67% และผ่านบอลมากกว่า 659 ครั้ง แต่เกมรุกของพวกเขาขาดความเฉียบขาด ต่างจาก ลิเวอร์พูล ที่มาในระบบ 4-2-3-1 และใช้ความเร็วของ ซาลาห์ และ ดิอาซ เจาะแนวรับคู่แข่ง เกมรับของ “หงส์แดง” ยังเหนียวแน่น โดยเฉพาะ อลิสซง ที่เซฟลูกสำคัญหลายครั้ง บ้านกีฬาเห็นว่าจุดแตกต่างของเกมนี้อยู่ที่ ลิเวอร์พูล มีความเฉียบขาดในการเข้าทำมากกว่า แมนฯ ซิตี้ ที่จบสกอร์ไม่คม
สถิติการแข่งขัน
แม้ แมนฯ ซิตี้ จะยิงมากถึง 16 ครั้ง แต่ตรงกรอบแค่ 5 ครั้ง ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยิง 8 ครั้ง และตรงกรอบถึง 4 ครั้ง การครองบอลของซิตี้อยู่ที่ 67% ส่วนลิเวอร์พูล 33% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ครองเกมได้แต่ขาดประสิทธิภาพในจังหวะสุดท้าย
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 14′ โดมินิก โซบอสไล ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-1
⚽ 37′ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดให้ลิเวอร์พูลหนี 0-2
❌ 57′ เคอร์ติส โจนส์ ยิงได้แต่โดน VAR ริบประตู
🔄 73′ วาตารุ เอ็นโดะ ลงแทน เคอร์ติส โจนส์
🔄 74′ คอนสแตนตินอส ซิมิกาส ลงแทน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
🔄 79′ โคดี้ กัคโป ลงแทน หลุยส์ ดิอาซ
Player of the Match
🏅 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (8.9) – ยิง 1 จ่าย 1 พาลิเวอร์พูลคว้าชัย และยังคงเป็นตัวแบกของทีมในเกมรุก
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะนัดนี้ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล นำเป็นจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก มี 64 แต้ม ทิ้งห่าง อาร์เซน่อล อันดับสองอยู่ 11 แต้ม ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ พลาดโอกาสลดช่องว่างกับทีมนำ ยังคงรั้งอันดับ 4 มี 47 แต้ม และเริ่มถูกทีมไล่หลังอย่าง นิวคาสเซิ่ล ตามมาติดๆ
การแข่งขันนัดถัดไป
ศึกบิ๊กแมตช์ที่เพิ่งจบลงไป ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มสุดแกร่ง แต่พวกเขายังต้องเผชิญบททดสอบที่ไม่ง่ายเช่นกัน เมื่อนัดถัดไปต้องเปิดบ้านรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 03:15 น. ฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เองต้องเจอศึกใหญ่เช่นกัน เพราะต้องออกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในคืนเดียวกัน เวลา 02:30 น. ศึกนี้จะเป็นอีกหนึ่งแมตช์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ตารางบอล บอกชัดเจนว่าสองทีมนี้ยังต้องเจอกับบททดสอบหนักอย่างต่อเนื่อง
ติดตาม บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
แฟนบอลสามารถติดตาม บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา เพื่ออัปเดตข่าวสารฟุตบอล วิเคราะห์บอล และ ผลบอลสด ได้ทุกวัน
