
ลิเวอร์พูล ยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงสมฐานะจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 3-1 ในเกมเหย้านัดสุดท้ายของปี 2024 แม้จะถูก “จิ้งจอกสยาม” ยิงขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกม แต่ความมุ่งมั่นของทีมก็พลิกสถานการณ์กลับมาเก็บสามแต้มสำคัญได้ พร้อมขยายช่องว่างจาก เชลซี อันดับสองเป็น 7 แต้ม แถมยังลงเล่นน้อยกว่าอีกหนึ่งนัด มาดูกันว่า 5 ประเด็นสำคัญในเกมนี้มีอะไรบ้าง
1. ดาร์วิน นูนเญซ ได้โอกาส แต่ยังต้องพิสูจน์ตัวเอง
เกมนี้ อาร์เน่อ สล็อต กุนซือลิเวอร์พูล ตัดสินใจหมุนเวียนผู้เล่นใน 11 ตัวจริง โดยเลือกส่ง ดาร์วิน นูนเญซ ลงสนามเพื่อเผชิญหน้ากับแนวรับที่เปราะบางของเลสเตอร์ อีกทั้งให้โอกาส เคอร์ติส โจนส์ ได้ออกสตาร์ตในแดนกลาง ขณะที่ หลุยส์ ดิอาซ และ โดมินิค โซโบซไล ถูกพักเป็นตัวสำรอง
นูนเญซมีโอกาสทองในหลายจังหวะ แต่ยังขาดความเด็ดขาดในการจบสกอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลคาดหวังให้เขาพัฒนา เพื่อขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคต
2. เลสเตอร์ ไร้ เจมี่ วาร์ดี้ ขาดความเฉียบคม
เลสเตอร์ ซิตี้ เดินทางมาเยือนแอนฟิลด์โดยไม่มี เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงตัวเก๋าที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่งผลให้ทีมต้องพึ่งพา แพตสัน ดาก้า ในแดนหน้า และมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นในหลายตำแหน่ง เช่น การส่ง ยาคุบ สโตลาร์คสกี้ นายทวารวัย 24 ปี ลงเฝ้าเสาเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก
แม้ทีมเยือนจะได้ประตูขึ้นนำจาก จอร์แดน อายิว ตั้งแต่นาทีที่ 4 แต่การขาดวาร์ดี้ที่มีความเฉียบขาดในแดนหน้า ทำให้พวกเขาไม่สามารถกดดันลิเวอร์พูลได้อย่างต่อเนื่อง
3. โคดี้ กัคโป ผู้เล่นแห่งปี
โคดี้ กัคโป ยังคงโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ ด้วยการยิงประตูตีเสมอ 1-1 ให้ลิเวอร์พูลก่อนหมดครึ่งแรก จังหวะดังกล่าวแสดงถึงความมั่นใจและความเฉียบขาดในการจบสกอร์ที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีม
ประตูนี้ยังทำให้กัคโปยิงแตะหลักสองหลักในทุกรายการของซีซั่น และย้ำให้เห็นถึงพัฒนาการของเขานับตั้งแต่ย้ายมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เมื่อปี 2023
4. เคอร์ติส โจนส์ ฉลองเกมที่ 100 อย่างสมบูรณ์แบบ
การลงสนามในเกมนี้ของ เคอร์ติส โจนส์ ไม่เพียงแค่เป็นนัดที่ 100 ของเขาในพรีเมียร์ลีก แต่ยังเป็นการฉลองด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจ เขาทำประตูสำคัญในนาทีที่ 49 ช่วยให้ลิเวอร์พูลพลิกขึ้นนำ 2-1 และสร้างความมั่นใจให้ทีมจนสามารถคว้าชัยชนะได้ในที่สุด
โจนส์พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเติบโตขึ้นในฐานะนักเตะจากอะคาเดมี่ที่สามารถยืนหยัดในทีมชุดใหญ่ได้อย่างเต็มตัว
5. โม ซาลาห์ สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในตำนานของลิเวอร์พูล ด้วยการยิงประตูปิดท้ายในนาทีที่ 83 ซึ่งนับเป็นประตูที่ 100 ของเขาในเกมพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ และเป็นผู้เล่นคนที่ 8 ในประวัติศาสตร์ที่ทำได้
นอกจากนี้ ซาลาห์ยังเป็นผู้เล่นที่มีสถิติยอดเยี่ยมที่สุดในวัน บ็อกซิ่งเดย์ ของพรีเมียร์ลีก ด้วยการยิงไป 7 ประตูและทำ 4 แอสซิสต์ ไม่มีนักเตะคนไหนที่ทำได้ดีกว่าเขาในวันสำคัญนี้
บทสรุป
ชัยชนะครั้งนี้ไม่เพียงแค่ทำให้ลิเวอร์พูลยึดจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมที่พร้อมจะเดินหน้าคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ ด้วยฟอร์มการเล่นที่มั่นคงและแข็งแกร่งจากผู้เล่นทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะ โคดี้ กัคโป และ โม ซาลาห์ ที่ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมไล่ล่าความสำเร็จ
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา