จากข้างถนนสู่ทีมชาติอาร์เจนตินา เรื่องจริงของความฝันที่ไม่มีวันดับ
นี่คือเรื่องราวสุดเหลือเชื่อของ เลาตาโร่ ริเวโร่ แข้งหนุ่มวัย 21 ปี ที่ชีวิตเริ่มต้นจากศูนย์ เด็กชายที่เคยเร่ขายขนมอยู่ริมถนนในย่านชุมชนยากจนของเมืองโมเรโน่ ต้องดิ้นรนช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพด้วยการขาย อัลฟาโฮเรส (Alfajores) ขนมคุกกี้ชื่อดังของอเมริกาใต้ พร้อมดอกไม้และสมุดโน้ต เพื่อให้มีรายได้พอแบ่งเบาภาระของพ่อแม่
แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้และแรงศรัทธาในความฝัน ริเวโร่กัดฟันฝึกซ้อมลูกหนังทุกวัน จนวันนี้เขากลายเป็นหนึ่งในแข้งดาวรุ่งอนาคตไกลที่ถูกเรียกติดทีมชาติ อาร์เจนตินา เตรียมลงเล่นเกมอุ่นเครื่องกับ เวเนซูเอลา และ เปอร์โตริโก้ — เส้นทางที่พิสูจน์ว่า “ความฝันไม่เลือกที่เกิด” ใครที่ไม่หยุดสู้ ย่อมมีวันไปถึง
จุดเริ่มต้นจากย่านยากจน สู่การฝึกฝนในทุกซอกซอย
เลาตาโร่ ริเวโร่ เกิดในครอบครัวยากจน มีพี่น้องรวม 5 คนในย่าน โมเรโน่ ชานเมืองบัวโนสไอเรส เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่น โลส ฮัลคอนเซส ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องในสนามว่างแถวบ้านและทีมสมัครเล่นอย่าง วิลล่า ลูโร นอร์เต้ และ ลา วิคตอเรีย
ด้วยพรสวรรค์และความมุ่งมั่นเกินวัย ในที่สุดเมื่ออายุ 14 ปี สโมสรยักษ์ใหญ่ ริเวอร์เพลท ก็ตัดสินใจดึงตัวเข้าสู่ ทีมเยาวชน เพื่อปลุกปั้นอย่างจริงจัง ถือเป็นก้าวสำคัญที่เปลี่ยนชีวิตจากเด็กริมถนนสู่วงการลูกหนังมืออาชีพ
เด็กหนุ่มผู้ไม่เคยลืมรากเหง้า
แม้จะเข้าสู่ระบบอาชีพ แต่ริเวโร่ไม่เคยลืมจุดเริ่มต้นของตัวเอง เขายังต้องใช้เวลานอกสนามไปขายขนม อัลฟาโฮเรส ดอกไม้ และสมุดโน้ต เพื่อช่วยครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตทางการเงิน เขาเคยเปิดใจผ่านเว็บไซต์ทางการของริเวอร์เพลทไว้ว่า
“ผมเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และทำงานหนัก ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของผมก็คือการได้เห็นครอบครัวมีความสุข ผมอยากให้แม่, พ่อ และพี่น้องของผมได้รับทุกอย่างที่พวกเขาสมควรได้รับ ขอบคุณพวกเขา ผมอยู่ที่นี่ พร้อมสู้เต็มที่ทุกวัน”
คำพูดนี้สะท้อนถึงหัวใจของนักสู้ที่ไม่เคยลืมบุญคุณครอบครัว และพร้อมใช้ทุกเหงื่อหยดสุดท้ายเพื่อสร้างอนาคตให้มั่นคง
จากมิดฟิลด์สู่กองหลังแกร่งแห่งริเวอร์เพลท
ช่วงแรกของอาชีพ ริเวโร่เล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์ฝั่งซ้าย แต่ด้วยส่วนสูง 185 เซนติเมตร และเท้าซ้ายที่แข็งแกร่ง ทำให้ถูกปรับไปเล่น เซนเตอร์แบ็ก ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เขาโชว์ฟอร์มสุดแกร่ง คุมแนวรับได้อย่างมั่นใจ และได้รับความไว้วางใจให้เป็น กัปตันทีมเยาวชน หลายรุ่น
ในปี 2021 เขาถูกดันขึ้นเล่นทีมสำรองของริเวอร์เพลท และสร้างชื่ออย่างต่อเนื่องจนกระทั่งในปี 2023 ได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรกกับสโมสร ถือเป็นรางวัลแห่งความอดทนและความทุ่มเท
เส้นทางพิสูจน์ตัวตน ย้ายยืมตัวเพื่อโอกาส
แม้ฝีเท้าดี แต่ด้วยการแข่งขันในทีมชุดใหญ่ของริเวอร์เพลทที่ดุเดือด ทำให้ริเวโร่ต้องออกไปเก็บประสบการณ์กับทีม เซ็นทรัล กอร์โดบา แบบยืมตัว ที่นั่นเขาได้ลงเล่นต่อเนื่องภายใต้การคุมทีมของ กอนซาเลซ เวเลซ ก่อนที่สถานการณ์จะเปลี่ยนเมื่อโค้ชใหม่ โอมาร์ เดอ เฟลิปเป้ เข้ามาและลดบทบาทเขาลง
อย่างไรก็ตาม โอกาสกลับมาอีกครั้งเมื่อคู่แข่งในตำแหน่งเดียวกันอย่าง เซบาสเตียน วัลเดซ และ โจนาธาน รัค ย้ายออก ทำให้ริเวโร่ได้ยึดตัวจริงเต็มตัว และสามารถโชว์ฟอร์มจนทีมแม่เรียกตัวกลับ
ก้าวกระโดดสู่แถวหน้าของอาร์เจนตินา
ปี 2025 คือปีแห่งการแจ้งเกิดของ เลาตาโร่ ริเวโร่ อย่างแท้จริง เขากลายเป็นกำลังหลักของริเวอร์เพลทในแนวรับ ลงเล่นกว่า 30 นัด ยิงได้ 2 ประตู และทำ 1 แอสซิสต์ โดยเฉพาะเกมชนะ ฟลาเมงโก้ 2-1 ที่สนามมาราคานา เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจนกลายเป็นจุดสนใจของแฟนบอลและแมวมองจากยุโรป
ฟอร์มระดับนี้ทำให้ ลิโอเนล สกาโลนี่ เฮดโค้ชทีมชาติอาร์เจนตินา ตัดสินใจเรียกเขาติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของชีวิตนักเตะคนหนึ่ง
บทเรียนชีวิตของนักสู้ที่ไม่เคยถอย
เรื่องราวของริเวโร่สะท้อนความจริงในวงการฟุตบอลว่า “พรสวรรค์อาจพาเริ่มต้น แต่ความพยายามเท่านั้นที่พาไปถึงฝัน” เขาคือแรงบันดาลใจให้เยาวชนทั่วโลกที่กำลังต่อสู้กับความยากลำบาก ว่าหากไม่ยอมแพ้ ชีวิตย่อมมีวันที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ
จากริมถนนสู่เส้นทางทีมชาติ บทพิสูจน์แห่งหัวใจนักสู้
วันนี้ เลาตาโร่ ริเวโร่ ไม่เพียงเป็นแข้งอาชีพในสโมสรระดับตำนานอย่างริเวอร์เพลท แต่ยังสวมเสื้อทีมชาติอาร์เจนตินาอย่างภาคภูมิ เรื่องราวของเขาคือบทเรียนแห่งความเชื่อมั่น ความอดทน และแรงศรัทธาในความฝันที่กลายเป็นจริง
ติดตามข่าวฟุตบอลแรงบันดาลใจ และเรื่องราวลูกหนังเข้มข้นจากทั่วโลกได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา ศูนย์รวมข่าวฟุตบอลสำหรับคอบอลตัวจริง
