
จาก : ผลบอลสด อีลิทซีเรียน นอร์เวย์ 2025 ระหว่าง เฟรดริคสตัด 0-2 โรเซนบอร์ก วันนี้ 29/5/68 – บ้านกีฬา
ศึกฟุตบอล ยูฟ่าคอนเฟอเรนซ์ลีก รอบน็อกเอาต์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา เชลซี บุกโชว์ฟอร์มสุดโหดในแดนกระทิงดุ ด้วยการไล่แซงถล่มเจ้าถิ่น เรอัล เบติส 4-1 แบบสุดมัน ผลการแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นการประกาศศักดาความพร้อมของทีมพลังหนุ่มแห่งลอนดอนอย่างแท้จริง หลังโดนนำก่อนแต่ไม่สะท้าน บดแซงอย่างเด็ดขาด และหากใครติดตาม ผลบอลสด คู่นี้ คงได้มันส์แบบไม่มีหยุดตลอด 90 นาที
ครึ่งแรกเริ่มมาไม่ทันไร เบติสโชว์ความเฉียบคมก่อน จากจังหวะที่อิสโก้แทงทะลุให้เอซซัลซูลีหลุดไปซัดเข้าไปแบบหมดจด นาทีที่ 9 ส่งให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 และเป็นประตูเดียวในครึ่งแรก แม้เชลซีจะครองเกมมากกว่าอย่างชัดเจนแต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคมไม่ได้ เสียงเชียร์จากแฟนเบติสดังกระหึ่ม กระตุ้นให้เกมรุกของเจ้าบ้านมีชีวิตชีวา ขณะที่เกมรับของสิงห์บลูส์ยังดูตื่น ๆ ในช่วงต้น
เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซีพลิกเกมราวกลับเป็นคนละทีม! นาที 65 เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ วางเท้าซัดสุดสวยตีเสมอ 1-1 ก่อนที่นิโคลัส แจ็คสัน จะกดประตูพาแซงนำในนาที 70 จากนั้นเจดอน ซานโช ที่ลงมาเป็นสำรองโชว์คมซัดประตูที่สามในนาที 83 ก่อนปิดท้ายด้วยประตูของไคเซโด้ในช่วงทดเจ็บ 90+1 สกอร์จบที่ 4-1 กลายเป็นชัยชนะสุดโหดของทีมเยือน
รายชื่อตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
เรอัล เบติส (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: อาเดรียน
กองหลัง: ซาบาลี่, บาร์ตร้า, นาตาน, โรดริเกซ
กองกลางรับ: คาร์โดโซ, ฟอร์นาลส์
ตัวรุก: อันโธนี่, อิสโก้ (กัปตันทีม), เอซซัลซูลี
กองหน้า: บาแคมบู
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
- โรแมง แปร์โรด์ (แทน โรดริเกซ 46’)
- เฆซุส โรดริเกซ (แทน เอซซัลซูลี 53’)
- ไอโต รูอิบัล (แทน บาแคมบู 72’)
- โล เซลโซ่ (แทน คาร์โดโซ 85’)
- เซร์กี้ อัลติมิรา (แทน ฟอร์นาลส์ 85’)
เชลซี (ระบบ 4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: ยอร์เกนเซ่น
กองหลัง: คูคูเรญ่า, บาเดียชิล, ชาโลบาห์, กุสโต้
กองกลางรับ: ไคเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ (กัปตันทีม)
ตัวรุก: เนโต้, พาลเมอร์, มาดูเอเก้
กองหน้า: แจ็คสัน
ตัวสำรองที่ลงสนาม:
- รีซ เจมส์ (แทน กุสโต้ 46’)
- จาดอน ซานโช (แทน เนโต้ 61’)
- ลีวาย โคลวิลล์ (แทน บาเดียชิล 61’)
- คีแรน ดิวส์เบอรี-ฮอลล์ (แทน แจ็คสัน 80’)
- มาร์ก กุยู (แทน พาลเมอร์ 88’)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้แผนการเล่นของทั้งสองทีมเหมือนกันที่ใช้ 4-2-3-1 แต่คุณภาพและความดุดันของเกมรุกต่างกันชัดเจน ในครึ่งแรก เบติสมีจังหวะสวนกลับเร็วและความนิ่งของอิสโก้ที่ประสานงานกับเอซซัลซูลีได้อย่างอันตราย เรียกได้ว่าใช้โอกาสไม่เปลือง แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลังกลับเป็นหนังคนละม้วน
เชลซี ปรับเกมเร็วขึ้น ใช้การเคลื่อนที่ของตัวรุกเปลี่ยนตำแหน่งสลับกันทำลายสมดุลแนวรับเจ้าบ้าน โดยเฉพาะ คอเนอร์ พาลเมอร์ ที่ยืนเป็นเบอร์ 10 และคอยเปิดพื้นที่ให้เพื่อนสร้างเกมอย่างมีประสิทธิภาพ การเติมเกมของมิดฟิลด์อย่างเอ็นโซ่ และไคเซโด้ก็เป็นหัวใจหลักที่ขับเคลื่อนให้เกมรุกของเชลซีไหลลื่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด แนวรับของเบติสเริ่มผิดพลาดบ่อยขึ้นเมื่อโดนกดดันหนัก เรียกได้ว่าในแง่ของ วิเคราะห์บอล แผนบุกและการปรับแท็คติกของเอ็นโซ่ มาเรสก้า มีความแม่นยำเฉียบขาดอย่างมากในเกมนี้
สถิติการแข่งขัน
แม้จะยิงน้อยกว่า แต่เชลซีแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการเข้าทำ ด้วยการยิงตรงกรอบถึง 7 ครั้งจาก 11 หน ซึ่งแปลงเป็น 4 ประตู ส่วนเบติสแม้จะมีโอกาสยิงถึง 13 ครั้งแต่ตรงกรอบแค่ 3 ครั้งเท่านั้น การครองบอลชัดเจนว่าอยู่ที่เชลซีถึง 67% และการผ่านบอลก็เหนือกว่ามากถึง 592 ครั้ง เทียบกับเบติสที่ทำได้เพียง 296 ครั้ง พร้อมความแม่นยำในการจ่ายที่ดีกว่าที่ 86% เทียบกับเจ้าบ้านที่มีเพียง 77% ทั้งสองฝ่ายมีใบเหลืองรวมกัน 5 ใบ และมีลูกเตะมุมฝั่งละ 4 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 9’ – เบติสขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะอิสโก้แทงให้เอซซัลซูลีซัดไม่พลาด
🔁 46’ – เชลซีเปลี่ยน รีซ เจมส์ แทน มาลโล กุสโต้ / เบติสส่ง แปร์โรด์ แทน โรดริเกซ
🔁 53’ – เบติสส่ง เฆซุส โรดริเกซ ลงแทน เอซซัลซูลี
🟨 55’ – บาเดียชิล ถูกใบเหลืองจากการเถียงผู้ตัดสิน
🔁 61’ – เชลซีเปลี่ยนสองคนรวด: ซานโช ลงแทน เนโต้ และ โคลวิลล์ ลงแทน บาเดียชิล
⚽ 65’ – เชลซีตีเสมอ 1-1 จาก เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ
⚽ 70’ – เชลซีพลิกแซง 2-1 โดย แจ็คสัน
🔁 72’ – เบติสเปลี่ยน บาแคมบู ออก ส่ง รูอิบัล ลงแทน
⚽ 83’ – เชลซีนำห่าง 3-1 จาก ซานโช
⚽ 90+1’ – เชลซีปิดกล่อง 4-1 จาก ไคเซโด้
🟨 90+5’ – แปร์โรด์ โดนใบเหลืองจากการถกเถียงกับผู้ตัดสิน
🟨 88’ – อันโธนี่ โดนใบเหลืองจากจังหวะฟาวล์
🔁 85’ – เบติสเปลี่ยน โล เซลโซ และ อัลติมิรา ลงแทน คาร์โดโซ และ ฟอร์นาลส์
🔁 80’ – เชลซีส่ง ดิวส์เบอรี-ฮอลล์ แทน แจ็คสัน
🔁 88’ – เชลซีเปลี่ยน มาร์ก กุยู ลงแทน พาลเมอร์
Player of the Match
แมนออฟเดอะแมตช์ต้องยกให้ คอเนอร์ พาลเมอร์ ดาวรุ่งฟอร์มแรงของเชลซี ที่ระเบิดฟอร์มตลอดทั้งเกม สร้างโอกาส ทำเกม และแอสซิสต์ให้ถึงสองประตู พร้อมพาทีมพลิกสถานการณ์อย่างเหนือชั้น ได้คะแนนเรตติ้งสูงสุดในเกมที่ 8.4 ชี้ชัดว่าเขาคือเพลย์เมกเกอร์ตัวจริงในทีมชุดนี้
สถานการณ์ในตารางคะแนน
แม้จะไม่มีตารางคะแนนในเกมนี้เพราะเป็นเกมถ้วยยุโรป แต่ผลการแข่งขันสุดโหดนี้ตอกย้ำว่า เชลซี ภายใต้การคุมทีมของเอ็นโซ่ มาเรสก้า กำลังเดินมาถูกทาง และพร้อมท้าทายทุกถ้วยที่เหลือในฤดูกาลนี้ ขณะที่ เรอัล เบติส สะกดคำว่าชนะไม่เจอมาแล้ว 5 นัดติด รวมทุกรายการ ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ส่งแรงกระเพื่อมต่อความมั่นใจของทีมอย่างหนัก
การแข่งขันนัดถัดไป
เชลซีมีคิวสำคัญใน ตารางบอล ศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 โดยจะพบกับผู้ชนะจากรอบเพลย์ออฟในวันที่ 17 มิถุนายน เวลา 02:00 น. ส่วนแมตช์ที่เดิมจะพบ ลีออน ในวันเดียวกันถูกยกเลิกไปแล้ว ขณะที่ฝั่งเบติสต้องรีบกลับมาเค้นฟอร์มในลา ลีกาให้เร็วที่สุดหากไม่อยากหลุดโควตายุโรปในซีซั่นหน้า
ติดตาม ผลบอล และแมตช์เดือดในทุกรายการได้ที่ บ้านผลบอล โดย บ้านกีฬา เจ้าเดียวที่กล้ารายงานจริงครบทุกมุมมองแบบถึงใจแฟนบอล