หลุยส์ เอ็นรีเก้ คว้าเกียรติยศสูงสุด
วงการลูกหนังสั่นสะเทือนเมื่อ หลุยส์ เอ็นรีเก้ กุนซือสมองเพชรของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถูกยกให้คว้ารางวัลอันทรงเกียรติ เมนส์ โยฮัน ครัฟฟ์ โทรฟี่ 2025 ในฐานะ โค้ชทีมฟุตบอลชายยอดเยี่ยมแห่งปี โดยได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ผลงานที่ส่งให้เขาผงาดเหนือคู่แข่งคือการพาเปแอสเชสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการกวาด 4 แชมป์ ครบชุดในฤดูกาลเดียว
ซีซั่นแห่งความไร้เทียมทานของเปแอสเช
ฤดูกาล 2024/25 คือปีทองของ เปแอสเช ภายใต้การนำของเอ็นรีเก้ เพราะทีมดังแดนน้ำหอมสามารถคว้าแชมป์ ลีก เอิง, เฟรนช์ คัพ, เฟรนช์ ซูเปอร์ คัพ และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการผงาดคว้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับคืนสู่กรุงปารีส การทำได้ครบทั้ง 4 รายการในปีเดียวไม่ใช่เรื่องง่าย และนี่คือผลงานที่พิสูจน์ความยอดเยี่ยมทั้งในเชิงแท็กติกและการบริหารทีมของนายใหญ่ชาวสเปน
เอ็นรีเก้กับบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำ
ในวัย 55 ปี เอ็นรีเก้ยังคงยืนหยัดเป็นหนึ่งในโค้ชระดับแถวหน้าของโลก เขาไม่ได้เพียงสร้างทีมให้เล่นอย่างดุดัน แต่ยังเสริมสร้างวินัยและความเป็นหนึ่งเดียวในห้องแต่งตัว การพาแข้งซูเปอร์สตาร์มากมายอยู่ภายใต้ระบบที่มีวินัยและประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เอ็นรีเก้ก็ทำได้สำเร็จจนเปแอสเชกลายเป็นทีมที่น่าเกรงขามที่สุดในยุโรป
การขาดหายจากงานประกาศรางวัล
แม้จะเป็นผู้ได้รับเกียรติ แต่เอ็นรีเก้และลูกทีมไม่ได้เดินทางมาร่วมงานประกาศที่โรงละครชาเตอเลต์ กรุงปารีส เนื่องจากติดภารกิจคุมทีมในศึก ลีก เอิง นัดสำคัญกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ที่ถูกเลื่อนจากวันอาทิตย์เพราะเหตุการณ์น้ำท่วม การเลือกทุ่มเทให้กับการแข่งขันสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพของเอ็นรีเก้ ที่ยังคงยึดมั่นในหน้าที่หลักคือการคุมทีมให้ประสบความสำเร็จต่อไป
โค้ชผู้สร้างทีมที่โลกต้องจับตามอง
รางวัลครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องหมายของความสำเร็จในหนึ่งฤดูกาล แต่ยังเป็นการยืนยันว่าเอ็นรีเก้คือโค้ชที่มีความสามารถในการสร้างทีมระดับตำนานได้จริง การพาเปแอสเชก้าวขึ้นสู่บัลลังก์แชมป์ยุโรปคือความฝันที่สโมสรเฝ้ารอมานาน และเอ็นรีเก้ก็ทำให้มันกลายเป็นจริง
บทเรียนจากเส้นทางลูกหนัง
ความสำเร็จของเอ็นรีเก้ยังเป็นบทเรียนให้แฟนบอลและวงการโค้ชทั่วโลกว่า ความมุ่งมั่น การวางระบบ และการควบคุมทีมที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์นั้นต้องใช้ทั้งฝีมือและความเป็นผู้นำระดับสูง การที่เขาเคยผ่านทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวในเส้นทางอาชีพมาก่อน ทำให้วันนี้เขายืนในจุดที่พร้อมพิสูจน์ตัวเองได้อีกครั้งในระดับสูงสุด
แฟนบอลทั่วโลกต่างเฝ้ารอว่า หลังจากการคว้ารางวัลโค้ชแห่งปีแล้ว เอ็นรีเก้จะพา เปแอสเช ก้าวต่อไปอย่างไรในเวทีระดับยุโรป และจะสามารถต่อยอดความยิ่งใหญ่นี้ไปได้อีกกี่ปี
ติดตามทุกข่าวร้อนแรงในโลกฟุตบอลได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
