
วงการลูกหนังฝรั่งเศสเดือดลั่น เมื่อ เวโรนิเก้ ราบิโอต์ คุณแม่ของกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส อาเดรียง ราบิโอต์ ออกโรงจวกยับ โอลิมปิก มาร์กเซย ว่าไม่เป็นธรรมกับลูกชาย หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นชนวนเหตุทะเลาะวิวาทในห้องแต่งตัว ก่อนถูกสโมสรสั่งขายพ้นทีม ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นแค่เหตุการณ์เล็กน้อยที่ถูกขยายความเกินจริง
จุดเริ่มต้นเหตุปะทะในห้องแต่งตัว
เรื่องราวเริ่มต้นจากเกมลีก เอิง นัดเปิดซีซั่นที่มาร์กเซยบุกพ่ายแร็งส์ 0-1 หลังจบเกมในห้องแต่งตัวเกิดเหตุชุลมุนขึ้นระหว่าง โจนาธาน โรว์ กับ เกโรนีโม่ รุลลี่ นายทวารอาร์เจนไตน์ โดยตอนนั้นราบิโอต์เหมือนจะพยายามเข้าไปช่วยห้าม แต่กลับกลายเป็นมีปากเสียงกับโรว์ จนสถานการณ์ลุกลามไปสู่การปะทะกันเล็กน้อย
ข่าววงในอ้างว่ามีการลงไม้ลงมือ แต่ความรุนแรงไม่ได้ถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ทว่าผลลัพธ์กลับกลายเป็นทั้งราบิโอต์และโรว์ถูกสโมสรสั่งพักงานทันที และในเวลาต่อมาถูกประกาศขายแบบฟ้าผ่า
มาร์กเซยมองเป็นความรุนแรงครั้งใหญ่
ปาโบล ล็องโกเรีย ประธานสโมสร มาร์กเซย ถึงขั้นออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตลอดการทำงานของเขา ไม่เคยเจอเหตุความรุนแรงในห้องแต่งตัวที่ระดับนี้มาก่อนเลย คำพูดดังกล่าวถูกนำไปขยายต่อในสื่อฝรั่งเศสจนกลายเป็นกระแสร้อน ทำให้หลายฝ่ายเข้าใจว่าราบิโอต์คือคนผิดหลักในเหตุการณ์
เวโรนิเก้ ราบิโอต์ ไม่ทน! สวนกลับทันควัน
เวโรนิเก้ ราบิโอต์ ให้สัมภาษณ์เปิดใจ โดยกล่าวว่า
“ตระกูล ราบิโอต์ ไม่ใช่พวกที่จะพ่ายแพ้เมื่อเจอกับปัญหา เราไม่เคยเสียใจกับการเลือกของเรา! แต่ที่จริงฉันไม่เคยอยากให้ลูกชายเซ็นสัญญากับ โอลิมปิก เดอ มาร์กเซย เลยนะ ลูกชายของฉันโน้มน้าวใจให้ฉันยอมเห็นด้วย ตอนที่ เบนาเตีย (หมายถึง เมห์ดี้ เบนาเตีย ผู้อำนวยการกีฬาของ มาร์กเซย) ติดต่อมาครั้งแรกน่ะ ฉันบอกกับเขาไปเลยว่า -ถ้าฉันมีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายแล้วล่ะก็ ลูกชายของฉันก็คงจะไม่ย้ายมาอยู่กับทีมนี้แน่ๆ!”
แม่ราบิโอต์เผย ลูกชายถูกหักหลัง
เธอเสริมต่อว่า ตลอดเส้นทางค้าแข้งของลูกชาย เคยคิดว่าตอนอยู่กับปารีส แซงต์-แชร์กแมง คือตอนที่เจ็บปวดที่สุด แต่สิ่งที่เจอกับมาร์กเซยกลับหนักหนากว่า เธอมองว่าราบิโอต์ไม่ได้โกรธหรือเศร้า เพียงแต่รู้สึกผิดหวังที่ถูกหักหลัง และไม่สมควรถูกทำให้กลายเป็นแพะรับบาปในสถานการณ์นี้
คำถามที่ยังค้างคา
เวโรนิเก้ตั้งคำถามว่า เหตุใดลูกชายต้องออกมาขอโทษ ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนผิดหลักในเหตุการณ์ เธอมองว่าการทะเลาะกันในห้องแต่งตัวเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกทีมฟุตบอล แต่การถูกสโมสรนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อเขี่ยนักเตะพ้นทีมคือสิ่งที่รับไม่ได้
ความจริงที่ถูกสื่อขยายเกินจริง
เธอยืนยันว่าไม่มีนักเตะคนใดได้รับบาดเจ็บรุนแรงตามที่ถูกกล่าวอ้าง ไม่มีใครจมูกหัก ไม่มีใครต้องเย็บแผลหรือพักซ้อม แต่กลับถูกประโคมข่าวจนดูเหมือนเป็นเหตุการณ์รุนแรงเกินจริง สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นเพียงเครื่องมือบริหารในการกำจัดนักเตะบางคนออกจากทีม
มุมมองจากโลกฟุตบอล
กรณีของราบิโอต์สะท้อนให้เห็นว่าฟุตบอลสมัยใหม่ไม่ได้วัดกันแค่ในสนาม แต่ยังมีแรงกดดันจากฝ่ายบริหารและสื่อที่พร้อมจะชี้นำภาพลักษณ์ของนักเตะ เหตุการณ์ในห้องแต่งตัวที่ควรเป็นเรื่องภายในกลับถูกนำออกมาขยายจนเสียหาย ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่นักเตะต้องตกเป็นแพะรับบาปจากความวุ่นวายในสโมสร
บ้านกีฬา ฝากถึงแฟนบอล
ดราม่าราบิโอต์กับมาร์กเซยครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัวของนักเตะ แต่เป็นบทเรียนชัดเจนว่าฟุตบอลเต็มไปด้วยเกมการเมืองนอกสนามมากกว่าที่หลายคนคิด เรื่องราวจะคลี่คลายอย่างไร แฟนบอลทั่วโลกต้องจับตามอง ติดตามทุกความเคลื่อนไหวร้อนแรงแบบนี้ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา