โลกฟุตบอลปี 2025 สั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ ลามีน ยามาล ปีกอัจฉริยะวัยเพียง 17 ปีของบาร์เซโลน่า ถูกประเมินให้มีมูลค่าการตลาดสูงสุดเหนือบรรดาสตาร์ระดับโลกอย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ ตามการรายงานของเว็บไซต์ชื่อดัง Transfermarkt ที่แฟนบอลทั่วโลกยอมรับในความน่าเชื่อถือ
ยามาล ไอคอนคนใหม่แห่งคัมป์ นู
ดาวรุ่งสัญชาติสเปนรายนี้เพิ่งก้าวขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ได้ไม่นาน แต่ฟอร์มการเล่นทั้งในลาลีกาและทีมชาติสเปนทำให้ค่าตัวของเขาพุ่งสูงถึง 200 ล้านยูโร หรือราว 7,600 ล้านบาท กลายเป็นแข้งแนวรุกที่แพงที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ จุดเด่นของยามาลคือเทคนิคการเลี้ยงบอล ความเร็ว และการสร้างโอกาสที่เหนือชั้นเกินวัย จนถูกมองว่าเป็นอนาคตของบาร์เซโลน่าและวงการลูกหนังโลก
เอ็มบัปเป้ & ฮาลันด์ จับมือรั้งที่สอง
แม้จะไม่ได้ขึ้นอันดับหนึ่ง แต่สองมหาเทพอย่าง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสจากเรอัล มาดริด และ เออร์ลิง ฮาลันด์ ศูนย์หน้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ยังคงครองมูลค่าสูงลิบอยู่ที่ 180 ล้านยูโร หรือราว 6,840 ล้านบาท ทั้งคู่คือกองหน้าที่ครองยุคสมัย สถิติถล่มประตูในลีกและบอลถ้วยยังคงน่ากลัว และเป็นคู่แข่งโดยตรงของยามาลในเวทีลูกหนังระดับโลก
รายชื่อท็อป 10 แข้งแนวรุกมูลค่าสูงสุดปี 2025
- ลามีน ยามาล (บาร์เซโลน่า) – 200 ล้านยูโร
- คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (เรอัล มาดริด) – 180 ล้านยูโร
- เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนฯ ซิตี้) – 180 ล้านยูโร
- วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) – 170 ล้านยูโร
- บูคาโย่ ซาก้า (อาร์เซน่อล) – 150 ล้านยูโร
- อเล็กซานเดอร์ อีซัค (ลิเวอร์พูล) – 120 ล้านยูโร
- ฮูเลียน อัลวาเรซ (แอต. มาดริด) – 100 ล้านยูโร
- ไมเคิ่ล โอลิเซ่ (บาเยิร์น มิวนิค) – 100 ล้านยูโร
- ฟิล โฟเด้น (แมนฯ ซิตี้) – 100 ล้านยูโร
- เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ (อินเตอร์ มิลาน) – 95 ล้านยูโร
รายชื่อดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตลาดนักเตะที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งพุ่งแรงผสมกับซูเปอร์สตาร์ระดับโลกที่ยังคงรักษามาตรฐานได้อย่างยอดเยี่ยม
มูลค่าที่สะท้อนมากกว่าตัวเลข
ค่าตัวของนักเตะไม่ได้สะท้อนเพียงฝีเท้าในสนาม แต่ยังรวมถึงอายุ ศักยภาพในการพัฒนา ความนิยมในตลาดการค้า และพลังดึงดูดแฟนบอลทั่วโลก เช่นเดียวกับกรณีของยามาลที่แม้จะยังวัยรุ่น แต่การันตีด้วยพรสวรรค์และสถิติที่กำลังทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว จนบาร์ซ่าแทบจะต้องล็อกสัญญาระยะยาวเพื่อกันการถูกล่าตัว
ความน่าสนใจของท็อป 10
สิ่งที่เห็นชัดคือการผสมผสานระหว่างดาวรุ่งที่กำลังขึ้นชั้นและนักเตะที่ยืนระยะมาได้หลายปี บาร์ซ่าและเรอัล มาดริด ยังคงเป็นสองทีมที่ครองพื้นที่สำคัญในลิสต์นี้ เช่นเดียวกับพรีเมียร์ลีกที่ส่งทั้ง ซาก้า, อีซัค และ โฟเด้น ติดเข้ามา ส่วนบาเยิร์นและอินเตอร์ มิลานก็ยังมีตัวแทนในลิสต์ไม่ให้หายไปจากวงการ
บทเรียนสำหรับตลาดนักเตะ
ตลาดซื้อขายนักเตะทุกวันนี้ไม่ได้มีแค่การทุ่มเงินอย่างบ้าคลั่ง แต่คือการลงทุนที่ต้องมองทั้งระยะสั้นและระยะยาว การมีนักเตะอย่างยามาลหรือซาก้าในทีมไม่ได้มีแค่คุณค่าทางกีฬา แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ การตลาด และฐานแฟนคลับในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น นักเตะที่อยู่ในลิสต์ท็อป 10 ล้วนมีความเป็นไอคอนของสโมสรและทีมชาติ
ตำนานและอนาคต
เมื่อมองย้อนกลับไป สมัยก่อนชื่อที่ครองลิสต์ค่าตัวแพงสุดมักจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ตอนนี้เวทีกำลังถูกส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ยามาล, วินิซิอุส หรือซาก้า ขณะที่ฮาลันด์และเอ็มบัปเป้ก็ยังคงเป็นขั้วอำนาจลูกหนังที่โลกจับตามอง การเปลี่ยนผ่านนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ทั้งแฟนบอลและนักลงทุนในวงการกีฬาต่างต้องติดตาม
แฟนบอลไทยที่อยากเห็นอนาคตของตลาดนักเตะโลก คงต้องจับตาดูว่ายามาลจะรักษามาตรฐานและก้าวไปไกลได้แค่ไหน รวมถึงคู่แข่งอย่างเอ็มบัปเป้และฮาลันด์จะสามารถกลับมาทวงบัลลังก์ได้หรือไม่ ติดตามทุกความเคลื่อนไหวสุดเข้มข้นแบบนี้ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
