
🩺 ฝันร้ายยามคัมแบ็กของอัจฉริยะลูกหนังญี่ปุ่น
เรียวตะ โอชิมะ กองกลางตัวกลั่นวัย 32 ปีของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ต้องเจอกับบททดสอบครั้งใหญ่ในชีวิตค้าแข้งอีกครั้ง หลังหายหน้าไปจากสนามนานถึง 14 นัดเต็ม แต่เมื่อได้รับโอกาสลงสนามอีกครั้งในศึก เจลีก คัพ 2025 รอบรองชนะเลิศ ความดีใจของแฟนบอลก็ต้องกลายเป็นความช็อก เมื่อเจ้าตัวลงเล่นได้ไม่ถึง 10 นาที ก็ต้องถูกหามออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บหนัก ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 23 ในเส้นทางฟุตบอลอาชีพของเขา
⚽ คัมแบ็ก 10 นาที กลายเป็นฝันร้ายอีกครั้ง
ในเกมรอบรองชนะเลิศนัดแรกที่ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ เปิดบ้านเอาชนะ คาชิว่า เรย์โซล 3-1 โอชิมะถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 75 ท่ามกลางเสียงเชียร์กระหึ่มของแฟนบอลทั้งสนาม เพราะนี่คือการกลับมาของหนึ่งในมิดฟิลด์ที่แฟนบอลรอคอยมากที่สุด
แต่เหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็มาถึง ในนาทีที่ 84 เขาเกิดอาการบาดเจ็บจนไม่สามารถเล่นต่อได้ ต้องถูกหามออกจากสนามทันที ท่ามกลางบรรยากาศสุดหดหู่ของเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลที่เฝ้าดูอยู่เต็มอัฒจันทร์ กลายเป็นจุดเปลี่ยนของค่ำคืนที่ควรเป็น “คืนแห่งความสุข” ให้กลายเป็น “ฝันร้าย” ในพริบตาเดียว
🧠 พรสวรรค์ที่ต้องแลกด้วยความเจ็บปวด
ชื่อของ เรียวตะ โอชิมะ ถูกพูดถึงในฐานะ “อัจฉริยะลูกหนัง” มาหลายปี ด้วยสไตล์การเล่นที่สง่างาม การจ่ายบอลเฉียบคม และวิสัยทัศน์เกมที่หาได้ยากในฟุตบอลเอเชีย เขาคือจอมทัพที่เคยพา คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ คว้าแชมป์ลีกหลายสมัย และเป็นกำลังหลักทีมชาติญี่ปุ่นในอดีต
แต่เส้นทางอาชีพของเขากลับไม่เคยราบรื่น เพราะอาการบาดเจ็บเล่นงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้ต้องพลาดลงสนามไปเป็นจำนวนมาก ทั้งในลีกและฟุตบอลถ้วย แม้พรสวรรค์ของเขาจะเปล่งประกาย แต่โชคชะตากลับเหมือนกลั่นแกล้งอยู่เสมอ
🩻 บาดเจ็บครั้งที่ 23 จุดอ่อนกล้ามเนื้อกลายเป็นปัญหาหลัก
อาการบาดเจ็บครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 23 ในอาชีพค้าแข้งของเขา โดยส่วนใหญ่เป็นการบาดเจ็บซ้ำบริเวณเดิม ไม่ว่าจะเป็น กล้ามเนื้อแฮมสตริง, กล้ามเนื้อน่อง หรือเอ็นกล้ามเนื้อที่ขา ทำให้สภาพความฟิตของเขาไม่เคยกลับมาเต็มร้อยเหมือนเมื่อก่อน
บรรดาสื่อญี่ปุ่นหลายสำนักระบุว่า ทีมแพทย์ของสโมสรเตรียมส่งตัวเขาเข้ารับการตรวจ MRI อย่างละเอียด เพื่อประเมินว่าอาการครั้งนี้รุนแรงแค่ไหน และอาจต้องพักยาวไปจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
🫡 แฟนบอลส่งกำลังใจให้จอมทัพหมายเลข 10
ทันทีที่มีข่าวอาการบาดเจ็บของโอชิมะ โซเชียลมีเดียของสโมสรและแฟนคลับต่างลุกเป็นไฟ มีแฟนบอลจำนวนมากเข้ามาให้กำลังใจนักเตะรายนี้อย่างล้นหลาม เพราะทุกคนรู้ดีว่าเขาคือหนึ่งใน “หัวใจ” ของทีมตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลายคนยังหวังว่าเขาจะฟื้นตัวกลับมาและสวมปลอกแขนลงสนามอีกครั้งในเร็ววัน
🏟️ ความสำคัญของโอชิมะต่อฟรอนตาเล่
ตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เรียวตะ โอชิมะ ถือเป็นแกนหลักของยุคทอง คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ เขาคือจอมทัพที่คุมจังหวะเกมได้อย่างเหนือชั้น มีบทบาทสำคัญทั้งในเกมรุกและเกมรับ และเป็นหนึ่งในผู้นำในห้องแต่งตัวของทีม ความนิ่ง ความแม่นยำ และความมุ่งมั่นของเขาทำให้เพื่อนร่วมทีมหลายคนมองว่าเขาเป็น “คนสำคัญ” ที่ไม่อาจขาดได้
แม้เวลาจะผ่านไปจนเข้าสู่ช่วงบั้นปลายอาชีพ แต่ความสำคัญของเขายังไม่เคยลดลงในสายตาแฟนบอลและโค้ชของทีมเลยแม้แต่น้อย
📈 สะท้อนความจริงของวงการฟุตบอล
กรณีของโอชิมะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า “พรสวรรค์เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ” สำหรับการยืนระยะในระดับสูง นักฟุตบอลระดับท็อปจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญอุปสรรคจากอาการบาดเจ็บที่ไม่สามารถควบคุมได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่การดูแลร่างกายและการฟื้นฟูสมรรถภาพจึงสำคัญไม่แพ้ทักษะในสนามเลย
ในโลกฟุตบอล มีนักเตะหลายคนที่เคยถูกมองว่าเป็นดาวรุ่งพรสวรรค์สูง แต่ต้องหยุดชะงักเพราะร่างกายไม่เอื้ออำนวย โอชิมะเองก็เป็นหนึ่งในเรื่องราวที่แฟนบอลอยากเห็นเขากลับมายืนหยัดอีกครั้งให้ได้
🙏 ความหวังของแฟนบอลและสโมสร
แม้จะเป็นอาการบาดเจ็บครั้งที่ 23 แล้ว แต่ความหวังของแฟนบอลยังไม่ดับลง ทุกคนต่างส่งพลังใจให้ “จอมทัพเบอร์ 10” รายนี้สามารถหายกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง และหากเขากลับมาได้จริง นั่นจะกลายเป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่งดงามที่สุดของฤดูกาลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ติดตามข่าวฟุตบอลญี่ปุ่นและความเคลื่อนไหวของ เจลีก ได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา