
แฟนบอลเจลีกถึงกับใจหาย เมื่อ คาซูกิ ฟูไก มิดฟิลด์ตัวเก่งวัย 30 ปีของ ฮอกไกโด คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ทีมดังแห่ง เจลีก และอดีตเพื่อนซี้ของ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตัดสินใจประกาศ แขวนสตั๊ด หลังจบฤดูกาล 2025 เนื่องจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่ตามรบกวนมานานจนไม่สามารถกลับมาเล่นในระดับสูงสุดได้อีก
เส้นทางลูกหนังของฟูไกกับซัปโปโร
คาซูกิ ฟูไก เป็นลูกหม้อแท้ของสโมสร คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เข้าสู่ระบบเยาวชนตั้งแต่ระดับ U12 และไต่เต้าขึ้นมาจนติดทีมชุดใหญ่ในปี 2013 ตลอดเส้นทางค้าแข้งกว่า 13 ปี เขาลงสนามไปแล้วกว่า 205 นัดในเจลีก และเป็นหนึ่งในขุนพลคนสำคัญยุครุ่งเรืองของทีม โดยเฉพาะช่วงที่ได้เล่นร่วมกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สตาร์ทีมชาติไทยที่เคยสร้างชื่อในแดนอาทิตย์อุทัย
มิดฟิลด์รายนี้เคยเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของซัปโปโร ด้วยสไตล์การเล่นที่ขยันไล่บอล ดุดัน และไม่ยอมแพ้ ทำให้เขาได้รับฉายาจากแฟนบอลว่า “ชายผู้ไม่ย่อท้อ” ซึ่งสะท้อนบุคลิกการสู้ไม่ถอยแม้จะเจอปัญหาบาดเจ็บหนักแค่ไหนก็ตาม
สาเหตุการอำลา: เจ็บเรื้อรัง ผ่าตัด 5 ครั้งยังไม่หาย
เส้นทางนักฟุตบอลของฟูไกเริ่มสะดุดเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บหนักบริเวณหัวเข่า โดยเฉพาะอาการเอ็นไขว้หน้าฉีกที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 5 ครั้ง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้เขาจะพยายามฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่เพื่อกลับมาช่วยทีม แต่สภาพร่างกายกลับไม่ตอบสนองดังเดิม
เจ้าตัวเปิดใจถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า
“ขาของผมยังไม่พร้อมสำหรับการเล่นฟุตบอล หลายครั้งผมไม่สามารถขยับร่างกายได้อย่างที่ต้องการ จึงตัดสินใจแจ้งสโมสรว่าจะอำลาทีมหลังจบซีซั่น”
คำพูดดังกล่าวสะเทือนใจแฟนบอลอย่างมาก เพราะทุกคนรู้ดีว่าเขาทุ่มเทและพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่เมื่อร่างกายไม่ไหว การถอยออกอย่างสง่างามจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
จากนักเตะสู่เส้นทางใหม่ในฐานะโค้ช
แม้จะอำลาสนามในฐานะผู้เล่น แต่ ฟูไก จะไม่หายไปจากวงการลูกหนัง สโมสรซัปโปโรเตรียมบทบาทใหม่ให้เขาในฐานะ โค้ชทีมเยาวชน เพื่อสานต่อประสบการณ์และความรู้ให้กับเด็กรุ่นใหม่ โดยจะเริ่มต้นงานด้านการฝึกสอนตั้งแต่ปีหน้า
เป้าหมายของเขาคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็น ผู้จัดการทีมระดับเจลีก ในอนาคต เส้นทางใหม่นี้อาจเป็นบทที่สองของชีวิตลูกหนังที่เข้มข้นไม่แพ้ตอนเป็นนักเตะเลยทีเดียว
มิตรภาพแน่นแฟ้นกับ “ชนาธิป”
หนึ่งในไฮไลต์ที่แฟนบอลไทยจดจำคือมิตรภาพระหว่าง ฟูไก และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สองแข้งที่เคยร่วมสร้างความสำเร็จในยุคทองของซัปโปโร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นทั้งในและนอกสนาม จนกลายเป็นคู่หูขวัญใจแฟนบอลทั้งญี่ปุ่นและไทย
การอำลาของฟูไกจึงไม่ใช่แค่เรื่องของนักเตะญี่ปุ่นคนหนึ่ง แต่ยังเป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงความผูกพันระหว่างสองวัฒนธรรมลูกหนังที่ต่างเชื้อชาติแต่มีหัวใจเดียวกัน
ความทรงจำและแรงบันดาลใจ
สำหรับแฟนบอลซัปโปโร คาซูกิ ฟูไก คือสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและหัวใจนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขาไม่เคยย่อท้อแม้ต้องผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำอีก และยังยืนหยัดสู้จนวินาทีสุดท้ายของอาชีพ สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะเยาวชนที่กำลังเดินตามรอยเส้นทางของเขาในอนาคต
ในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น การที่นักเตะเลือดซามูไรอย่างฟูไกเลือกเปลี่ยนบทบาทมาเป็นโค้ช ถือเป็นการส่งต่อจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ซึ่งสะท้อนปรัชญาของฟุตบอลแดนอาทิตย์อุทัยได้อย่างแท้จริง
บ้านกีฬา ชวนแฟนบอลร่วมส่งกำลังใจ
แม้ คาซูกิ ฟูไก จะอำลาสนามในฐานะนักเตะ แต่เชื่อว่าแฟนบอลทั่วเอเชีย โดยเฉพาะชาวไทยที่คุ้นเคยชื่อของเขาผ่านการร่วมเล่นกับ ชนาธิป จะยังคงเฝ้าติดตามเส้นทางใหม่ของเขาในฐานะโค้ชอย่างแน่นอน
ติดตามข่าวสารวงการลูกหนังญี่ปุ่นและเรื่องราวแรงบันดาลใจแบบนี้ได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา เว็บไซต์ข่าวกีฬาเข้มข้นที่แฟนบอลตัวจริงไม่ควรพลาด!