
ฟอร์มร้อนแรงของกองหน้าทีมชาติไทย
ชื่อของ ปรเมศย์ อาจวิไล หรือ “ฟร้องซ์” กำลังถูกพูดถึงอย่างหนักในหมู่แฟนบอลไทยและญี่ปุ่น หลังเจ้าตัวโชว์ฟอร์มสะเด่าในเกมอุ่นเครื่องกับ เวียร์เตียง มิเอะ สโมสรจากเจแปน ฟุตบอล ลีก (JFL) โดยแม้ต้นสังกัดอย่าง จูบิโล่ อิวาตะ จะพ่ายไป 2-3 แต่ผลงานส่วนตัวของกองหน้าทีมชาติไทยวัย 25 ปี กลับเป็นไฮไลต์สำคัญ ด้วยการยิง 1 ประตูและจ่าย 1 แอสซิสต์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการจบสกอร์และการประสานงานในแดนหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม
นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่า ปรเมศย์เริ่มปรับตัวเข้ากับฟุตบอลญี่ปุ่นได้รวดเร็วเกินคาด และพร้อมแล้วที่จะสร้างความแตกต่างให้กับทีมในเกมลีกอย่างเป็นทางการ
สถานการณ์ของจูบิโล่ในเส้นทางลุ้นเลื่อนชั้น
ฤดูกาล 2025 ของ เจลีก 2 กำลังเข้มข้น และฟอร์มของ “กางเขนเหล็ก” จูบิโล่ อิวาตะ ก็กำลังกลับมาแข็งแกร่ง หลังเก็บชัยได้ 2 นัดติดต่อกัน รั้งอันดับ 7 ของตาราง มี 44 คะแนนจาก 27 เกม ไล่จี้โซนเพลย์ออฟเพียง 2 แต้ม และตามหลังพื้นที่เลื่อนชั้นอัตโนมัติแค่ 4 คะแนนเท่านั้น ทำให้เส้นทางคืนสู่ลีกสูงสุดยังเปิดกว้างเต็มที่
การได้หัวหอกตัวใหม่อย่างปรเมศย์เข้ามาเติมเต็มในช่วงโค้งสำคัญแบบนี้ จึงเป็นความหวังที่แฟนบอลอิวาตะจับตาเป็นพิเศษ เพราะทุกแต้มล้วนมีค่า และการมีตัวเลือกในแดนหน้าที่สามารถยิงเองหรือสร้างโอกาสให้เพื่อนได้ ย่อมเพิ่มความหลากหลายให้กับทีมอย่างมาก
โอกาสเดบิวต์เจลีก 2
สิ่งที่แฟนบอลชาวไทยรอคอยคือการได้เห็น “เจ้าฟร้องซ์” เดินลงสนามในเกมลีกอย่างเป็นทางการ โดยจากการที่เจ้าตัวถูกใส่ชื่อในทีมมาแล้ว 2 นัดติดต่อกัน มีโอกาสสูงอย่างยิ่งที่จะได้เดบิวต์ในเกม เจลีก 2 นัดที่ 28 ซึ่งจูบิโล่ อิวาตะ จะบุกไปเยือน โออิตะ ทรินิตะ วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคมนี้
หากปรเมศย์ได้โอกาสลงสนามจริง จะถือเป็นการเปิดประตูครั้งสำคัญของกองหน้าทีมชาติไทยในเวทีเจลีก ที่ขึ้นชื่อว่ามีความเข้มข้นและมาตรฐานสูงที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย และอาจเป็นก้าวแรกของเส้นทางลูกหนังที่ไกลกว่าที่ใครหลายคนคาด
บทบาทของนักเตะไทยในเจลีก
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักเตะไทยจำนวนหนึ่งได้ไปสร้างชื่อเสียงในเจลีก เช่น ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน และธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งล้วนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้แข้งรุ่นใหม่ตามรอย การมาของปรเมศย์จึงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าฟุตบอลไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะก้าวสู่ลีกคุณภาพอย่างญี่ปุ่นได้ และหากเขาทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ก็มีสิทธิ์ถูกยกให้เป็นกำลังหลักระยะยาวทั้งในสโมสรและทีมชาติ
มุมมองที่กว้างขึ้น
ในเชิงฟุตบอลสมัยใหม่ การมีนักเตะไทยไปค้าแข้งต่างแดน โดยเฉพาะในลีกที่มีมาตรฐานสูง ช่วยยกระดับทั้งประสบการณ์และทักษะ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อทีมชาติไทยในการแข่งขันระดับเอเชีย การได้เห็นปรเมศย์ก้าวสู่เจลีกไม่ใช่แค่เรื่องส่วนบุคคล แต่ยังสะท้อนถึงการพัฒนาของวงการลูกหนังไทยโดยรวม
ติดตามความมันส์ต่อเนื่อง
สุดสัปดาห์นี้จึงเป็นนัดที่ไม่ควรพลาดของแฟนบอลชาวไทย เมื่อ จูบิโล่ อิวาตะ ต้องบุกเยือน โออิตะ ทรินิตะ ในเกมที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์บทใหม่ของ “เจ้าฟร้องซ์” ปรเมศย์ อาจวิไล จับตาให้ดีว่าเขาจะได้โอกาสสร้างชื่อในเวทีเจลีกหรือไม่ และสำหรับทุกความเคลื่อนไหวมันส์ๆ ของวงการฟุตบอล อย่าลืมติดตามที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา