การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการลูกหนังญี่ปุ่นกำลังเริ่มต้นขึ้น และหนึ่งในผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นอย่างเข้มข้นถึงเรื่องนี้ก็คือ จามเปาโล โคลัตติ อดีตสเกาต์มากประสบการณ์ของทั้ง ทีมชาติญี่ปุ่น และ ทีมชาติยูเออี ที่เชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนปฏิทินแข่งขันของ เจลีก ไปสู่ระบบ ฤดูกาลเตะข้ามปี ตั้งแต่ฤดูกาลหน้า จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการผลักดันนักเตะญี่ปุ่นให้ก้าวสู่เวที ฟุตบอลยุโรป ได้อย่างมั่นคงและมีโอกาสมากขึ้น
โคลัตติ ซึ่งเคยผ่านการทำงานในสายตาอาชีพของแมวมองมาอย่างโชกโชน ให้มุมมองว่า การขยับปฏิทินการแข่งขันของเจลีกให้สอดคล้องกับลีกยุโรปนั้น ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนช่วงเวลาเท่านั้น แต่มันคือการ ยกระดับแพลตฟอร์ม ให้ฟุตบอลญี่ปุ่นมีความเชื่อมโยงกับเวทีโลกอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้สโมสรญี่ปุ่นสามารถเดินทางไป เก็บตัวในยุโรปช่วงปรีซีซั่น ได้มากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า นักเตะญี่ปุ่นจะได้ โชว์ฟอร์มต่อหน้าแมวมองยุโรป ได้แบบ “ถึงสนามจริง” ไม่ใช่แค่ผ่านวิดีโอหรือสถิติ
“เมื่อคุณลงเล่นในยุโรปช่วงปรีซีซั่น โค้ชและสโมสรต่าง ๆ จะมีโอกาสเห็นความสามารถของนักเตะญี่ปุ่นแบบสด ๆ ในเกมจริง นั่นแหละคือโอกาสที่แท้จริง” โคลัตติกล่าวอย่างมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม โคลัตติยังฝากข้อคิดไว้อย่างเฉียบคมว่า การประสบความสำเร็จในยุโรปไม่ใช่แค่เรื่องฝีเท้า แต่ยังเป็นเรื่องของ ทัศนคติ ความกล้า และสภาพจิตใจ ที่ต้องพร้อมลุยในสนามต่างแดนที่ไม่คุ้นเคย เขาเชื่อว่าหลายคนยังไม่กล้าพอที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ทั้งที่ศักยภาพมีอยู่เต็มเปี่ยม
“นักเตะญี่ปุ่นมีคุณสมบัติเพียบพร้อมในเรื่องความเป็นมืออาชีพ แต่การจะอยู่รอดในยุโรปได้ พวกเขาต้อง ‘เปิดใจ’ และพร้อมเผชิญกับความท้าทาย ทั้งด้านวัฒนธรรม ภาษา และสไตล์การเล่นที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง” โคลัตติย้ำอย่างหนักแน่น
สำหรับวงการลูกหนังญี่ปุ่นแล้ว นี่อาจไม่ใช่แค่การปรับปฏิทินเพื่อความสะดวก แต่คือการ สร้างสะพานเชื่อมสู่นานาชาติ อย่างแท้จริง และถ้านักเตะญี่ปุ่นสามารถใช้โอกาสนี้ได้อย่างเต็มที่ อนาคตของพวกเขาบนเวทียุโรปก็อาจกลายเป็นเรื่องธรรมดาในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ติดตามทุกข่าวความเคลื่อนไหวในวงการฟุตบอลเอเชียและยุโรปได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา
