โอลิเวอร์ คาห์น ตำนานผู้รักษาประตูจอมแกร่งของทีมชาติเยอรมัน ออกโรงแสดงความกังวลอย่างจริงจังต่ออนาคตของ บุนเดสลีกา ลีกสูงสุดของเยอรมนี หลังเห็นการผูกขาดแชมป์อย่างต่อเนื่องของ บาเยิร์น มิวนิค พร้อมชี้ว่าสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการเงินที่รุนแรงขึ้นกำลังทำให้การแข่งขันไร้ความตื่นเต้น และอาจทำให้ลีกแห่งนี้สูญเสียเสน่ห์ในสายตาแฟนบอลทั่วโลก
อดีตกัปตันทีมเสือใต้ที่เคยนำสโมสรสู่ความยิ่งใหญ่ในยุค 90 และต้นปี 2000 เปิดใจว่าเขาไม่อาจนิ่งเฉยต่อสภาพปัจจุบันของลีกได้อีกต่อไป เมื่อมองเห็นชัดเจนว่าการแข่งขันเพื่อแชมป์ใน บุนเดสลีกา กลายเป็นเรื่องที่คาดเดาได้ง่ายจนน่าเบื่อ โดยเฉพาะเมื่อ บาเยิร์น มิวนิค สามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 12 สมัยจาก 13 ฤดูกาลหลังสุด จนแทบไม่มีทีมใดต่อกรได้อย่างแท้จริง
คาห์นย้ำว่าแม้ บุนเดสลีกา ยังถือว่ามีชื่อเสียงระดับสากล และได้รับความนิยมในประเทศจากบรรยากาศสนามที่ยอดเยี่ยมและจำนวนผู้ชมที่หนาแน่น แต่ในเวทีระดับนานาชาติ ลีกแห่งนี้กำลังตกอยู่ในสถานะ “พระรอง” อย่างไม่อาจปฏิเสธ โดยเทียบไม่ได้กับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ลา ลีกา สเปน ที่มีทั้งการแข่งขันสูสีและความโด่งดังของสโมสรและนักเตะในระดับโลก
“เมื่อคุณมีทีมอย่าง เอฟเซ บาเยิร์น มิวนิค ที่มีงบประมาณการทำทีมระดับ 300 ล้านยูโร ต่อปี และต้องลงสนามเจอกับทีมที่มีงบเพียง 30-40 ล้านยูโร มันจะมีการแข่งขันที่ยุติธรรมได้อย่างไร?” คาห์นตั้งคำถามอย่างเผ็ดร้อน “แค่ตัวสำรอง 5 คนของบาเยิร์น ยังมีมูลค่ามากกว่าทีมท้ายตารางทั้งทีม นี่ยังไม่รวมรายได้เพิ่มเติมจากการไปเล่นรายการใหญ่ๆ อย่าง ชิงแชมป์สโมสรโลก ที่ยิ่งทำให้ทีมใหญ่รวยขึ้นไปอีก ขณะที่ทีมเล็กกลับต้องดิ้นรนเพื่ออยู่รอด”
ตำนานจอมเซฟวัย 55 ปี ยังย้อนความหลังถึงยุคทองของ บุนเดสลีกา ที่เขามองว่ามีความน่าติดตามกว่ายุคปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด เพราะมีการขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ที่เข้มข้น และมีหลายทีมสลับกันขึ้นมาท้าชิงความสำเร็จ ไม่เหมือนทุกวันนี้ที่แชมป์แทบจะตกเป็นของทีมเดิมเสมอ
“ในยุคที่ผมยังลงเล่น ลีกยังเปิดกว้างมากกว่านี้ ทุกฤดูกาลมีความคาดเดาไม่ได้ และแฟนบอลทั่วประเทศยังมีความหวังกับทีมของตัวเองจริงๆ” คาห์นกล่าว “แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มกลายเป็นระบบที่ทีมใหญ่เท่านั้นที่มีสิทธิ์ลุ้น ส่วนทีมอื่นๆ แค่การอยู่รอดก็ยากแล้ว ช่องว่างมันจะยิ่งขยายออกไปอีกถ้าไม่รีบหาทางจัดการ”
นอกจากนั้น คาห์นยังกล่าวถึงการรับรู้ของคนต่างชาติที่มีต่อ บุนเดสลีกา โดยบอกว่าแฟนบอลจากทั่วโลกมักมองลีกเยอรมันรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกับ เซเรีย อา อิตาลี และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่แม้จะมีคุณภาพแต่ไม่สามารถแข่งขันเรื่องกระแสความนิยมกับ พรีเมียร์ลีก และ ลา ลีกา ได้เลย
“พอคุยกับคนต่างชาติ พวกเขามักพูดเหมือนกันว่า บุนเดสลีกาไม่ได้แตกต่างจากลีกอื่นๆ ในยุโรปมากนัก คนส่วนใหญ่ยังรู้จักแค่บาเยิร์น หรือสตาร์ไม่กี่คน” เขาเผย “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นดาวรุ่งอย่าง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ถึงเลือกย้ายไปอังกฤษ เพราะที่นั่นคือเวทีที่มีทั้งแสงไฟและโอกาสมากกว่า”
แม้จะเป็นอดีตผู้บริหารของ บาเยิร์น มิวนิค เอง แต่ โอลิเวอร์ คาห์น กลับแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าอนาคตของฟุตบอลเยอรมันจะไม่อาจเติบโตได้อย่างยั่งยืน หากยังคงปล่อยให้ความเหลื่อมล้ำถ่างกว้างแบบในปัจจุบัน และลีกยังตกอยู่ในการผูกขาดจากทีมเดียว
“ถ้าเราอยากให้ บุนเดสลีกา ยืนหยัดอย่างภาคภูมิในระดับโลก เราต้องกล้าตั้งคำถามและกล้าเปลี่ยนแปลง” ตำนานเยอรมันกล่าวทิ้งท้ายอย่างหนักแน่น
ติดตาม ข่าวฟุตบอลระดับโลก และบทวิเคราะห์เจาะลึกแบบนี้ได้ทุกวัน ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
