วิลเลี่ยม กัลลาส อดีตปราการหลังทีมชาติฝรั่งเศสผู้เคยรับใช้สโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง เชลซี, อาร์เซน่อล และ สเปอร์ส ออกโรงแนะนำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างตรงไปตรงมาว่ามีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่ “ปีศาจแดง” จะสามารถคว้าอันดับท็อปโฟร์ในฤดูกาลนี้ได้ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่ากุนซือ เอริค เทน ฮาก อาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้
สถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2024/25 เริ่มต้นได้อย่างย่ำแย่หลังพ่ายแพ้ไปแล้วถึง 2 จาก 3 นัดในพรีเมียร์ลีก ทั้งๆ ที่ เทน ฮาก ได้รับการสนับสนุนเงินก้อนโตในการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ จนกระทั่งทำให้กุนซือชาวดัตช์รายนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะถูกปลดในซีซั่นนี้ หากผลงานไม่ดีขึ้นอย่างเร่งด่วน
แม้ว่า เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของสโมสรจะยังให้การสนับสนุนและไว้วางใจให้ เทน ฮาก คุมทีมต่อไป แต่แฟนบอลและนักวิเคราะห์หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่า แมนยู อาจพลาดโอกาสกลับไปเล่นในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในมุมมองของ วิลเลี่ยม กัลลาส
“จากสิ่งที่ผมเห็นในช่วงแรกของฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสน้อยมากที่จะจบท็อปโฟร์ในปีนี้ บอกตามตรงผมไม่คิดว่าพวกเขาจะทำได้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และสำหรับผม มันหมายถึงการที่ เอริค เทน ฮาก ต้องถูกปลด” กัลลาส ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 7 กันยายน พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ทีมพ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล อย่างน่าตกใจด้วยสกอร์ 3-0 ในบ้าน ซึ่งเป็นผลที่แฟนบอล “ปีศาจแดง” ไม่อาจยอมรับได้
“ผมเชื่อว่าหากพวกเขาแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน ในเกมถัดไป เทน ฮาก อาจจะโดนปลดทันที เพราะเงินที่สโมสรใช้เสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นั้นมากมาย และนี่คือซีซั่นที่สามของเขาแล้ว เขาควรจะทำได้ดีกว่านี้” อดีตนักเตะเชลซีกล่าวอย่างชัดเจน
กัลลาสยังเสริมอีกว่า บางที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะเป็นสโมสรที่ใหญ่เกินไปสำหรับ เทน ฮาก ความกดดันจากแฟนบอลและสื่อมวลชนอาจเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้ “นี่เป็นเรื่องของความกดดันในระดับที่สูงมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถรับมือได้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด“
หลังจากพ้นช่วงพักเบรกทีมชาติ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีเกมสำคัญบุกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน ในวันที่ 14 กันยายน ก่อนที่จะกลับมาเฝ้าบ้านเปิดสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือ บาร์นสลีย์ ในรอบสามของศึก คาราบาวคัพ วันที่ 17 กันยายน ซึ่งทั้งสองเกมนี้ถือเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับ เทน ฮาก และแฟนบอลของสโมสร ที่ต่างเฝ้ารอคอยการเปลี่ยนแปลงในผลงานทีม
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
