สายข่าวของบ้านกีฬา ขอบอกเลยว่าดราม่าครั้งนี้ไม่ใช่ไฟลามทุ่งธรรมดา แต่เป็นไฟที่เผาไปถึง “หัวใจนักสะสม” กับประเด็นร้อนของ เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 2508 เนื้อทองคำ ซึ่งถูกเปิดศึกความเห็นต่างระหว่าง บอย ท่าพระจันทร์ และ โอ๊ต บางแพ จนทั้งประเทศหันมาจับตา คำถามคือ “แท้หรือเก๊?” วันนี้บ้านกีฬาเก็บทุกมุม ทุกเหตุผล ทุกศัพท์เทคนิคที่เกี่ยวข้องมาเล่าแบบเข้าใจง่าย อ่านจบถือเป็น “วัคซีนพระเก๊” โดสใหญ่สำหรับมือใหม่และมือเก๋า
หัวใจของเรื่องเริ่มจากการที่บอย ท่าพระจันทร์ เซียนเหรียญตัวท็อปของวงการ ยืนยันความมั่นใจว่าเหรียญทองคำปี 08 ที่ตนเช่าบูชาในราคาประมาณ 5 ล้านบาท “แท้ชัด” โดยยกเหตุผลสำคัญคือ “ตัวตัด” และบล็อกหลังที่เข้าคู่กันกับเหรียญที่รู้จัก ส่วนโอ๊ต บางแพ เซียนที่อยู่ในวงการมากว่า 25 ปี สวนทันทีว่า “เป็นบล็อกย้อน” เพราะเหรียญปี 2508 ควรมี “ตำหนิผ่าปาก” ทุกเหรียญ แถมยังตั้งข้อสังเกตเรื่อง “เส้นรอบวง” และ “ความหนาบางของเนื้อทองคำ” ที่ไม่ตรงตามมาตรฐานในยุคเดียวกัน ความเดือดดาลยกระดับไปสู่รายการดัง โยงถึงเอกสาร หนังสือพระ และคำบอกเล่าจากคนในแวดวง
มาถึงจุดนี้ ไม่ว่าคุณจะเชียร์ฝั่งไหน บ้านกีฬาอยากชวนอ่าน “ภาพรวมข้อเท็จจริง” แบบไม่ต้องเลือกข้าง เพื่อให้ตัดสินใจด้วยสายตาตัวเอง
จุดยืนและเหตุผลของบอย ท่าพระจันทร์
- เชี่ยวชาญสายเหรียญกว่า 30 ปี ยืนยันเหรียญที่ซื้อ “เข้าทุกจุดสำคัญของบล็อก” โดยเฉพาะ “ตัวตัด” ที่ถือเป็นดัชนีชี้ขาด
- เหรียญปี 08 มีอย่างน้อย 2 บล็อก เรื่อง “ผ่าปาก–ไม่ผ่าปาก” จึงพบได้ และเนื้อทองคำมัก “บางกว่า” เนื้ออัลปาก้า เป็นลักษณะพิเศษจากการผลิต
- เหรียญทองคำลักษณะนี้มีน้อย ทำไว้แจกใกล้ชิด ยืนยันพร้อมซื้อที่ 5 ล้านบาท หากใครมีเหรียญลักษณะเดียวกัน
จุดยืนและเหตุผลของโอ๊ต บางแพ
- เหรียญปี 08 แท้ต้อง “ผ่าปาก” เพราะตำหนิเกิดตอนแกะบล็อก ลบไม่ได้
- ถ้าบล็อกเดิมจริง เหรียญเนื้อต่างกันควรใช้ “ตัวตัดเดียวกัน” เส้นรอบวงจึงต้องเท่ากัน แต่ที่ถกเถียงอยู่ “ต่าง”
- ลักษณะบางจุดดู “บวม–ไม่คม” คล้ายถอดพิมพ์จากของแท้แล้วทำบล็อกขึ้นใหม่ จึงเข้าข่าย “บล็อกย้อน”
- ตั้งคำถามเรื่อง “ประวัติการสร้าง” เพราะไม่มีเอกสารหรือบันทึกในหนังสือพระกระแสหลักรองรับ
เสียงกูรูตัวจริงที่ต้องฟัง
พยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องฯ ชี้ว่าทุกฝ่ายมีเหตุผล แต่สังคมและกระบวนการตรวจสอบจะเป็นคนตัดสิน ตนเอง “ถือตัวตัดเป็นหลัก” เพราะเป็นจุดที่ปลอมยากที่สุด ขณะที่นักวิชาการพระเครื่องอีกสายย้ำว่า “พระจะจบได้ที่ตัวตัด” ส่วนตำหนิอื่นเป็นองค์ประกอบประกอบการพิจารณา
ความเคลื่อนไหวจากทายาทตระกูลคณานุรักษ์
ฝั่งทายาทสายตรงของ “อนันต์ คณานุรักษ์” ผู้เกี่ยวข้องกับประวัติการสร้างพระหลวงปู่ทวดยุคเก่า ออกมาชี้แจงว่า “ปู่อนันต์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ปี 08” พร้อมตั้งคำถามถึงบุคคลชื่อ “แบงค์” ที่ถูกอ้างอิงในรายการว่าเป็นแหล่งข้อมูลว่าเป็นใคร สะท้อนว่า “หลักฐานด้านประวัติการสร้าง” ยังต้องการความกระจ่างอีกมาก
ศัพท์เทคนิคที่คนเล่นพระต้องรู้ อ่านรอบเดียวจบ
ผ่าปาก คือรอยแยกเล็กบริเวณปากองค์หลวงพ่อทวด เกิดจากการ “แกะบล็อก” ในบางรุ่น–บางยุค หากเกิดแล้ว “ลบไม่ออก” ถ้าพบในรุ่นที่ควรมี จัดเป็นตัวชี้สำคัญ
ตัวตัด คือรอยขอบที่เกิดจากเครื่องตัดเหรียญหลังปั๊ม ชิ้นงานแต่ละล็อตจะมี “ลายเซ็นของเครื่อง” เฉพาะตัว เป็นเบาะแสที่ปลอมเลียนแบบยาก
บล็อกย้อน คือการเอาเหรียญแท้ไปถอดพิมพ์ แล้ว “ทำบล็อกใหม่” ปั๊มซ้ำ ความคม เส้นลม–เส้นใบหน้า ขอบตัวหนังสือ มักสูญรายละเอียด กลายเป็นอาการ “บวม”
เนื้อทองคำ vs อัลปาก้า เนื้อทองคำในหลายยุค “บางกว่า” เพื่อควบคุมน้ำหนัก แต่ไม่ใช่กฎตายตัว ต้องดูควบคู่ “ตัวตัด–บล็อก–ผิวเนื้อ” และรอยสร้าง
คู่มือเอาตัวรอดเมื่อคิดจะเช่าบูชาเหรียญแพง
- ตรวจสามชั้น ผิว–บล็อก–ตัวตัด ใช้ไฟขาวและแว่นขยาย ดูความคมของตัวหนังสือ ร่องเส้นผม เส้นจีวร และรอย “กระดกขอบ” จากตัวตัด
- เทียบเคียงกับเหรียญ “มาตรฐานอ้างอิง” รุ่นเดียวกัน เนื้อเดียวกัน ขนาดเดียวกัน ถ้าไม่มี ให้หาภาพชัดระดับมาโครจากแหล่งน่าเชื่อถือ
- เช็กที่มาและประวัติการถือครอง ใบรับรองไม่ใช่ “เครื่องตีตรา” เสมอไป แต่ช่วยเป็นชั้นป้องกัน
- หลีกเลี่ยงความเร่งรีบ อย่าซื้อเพราะกระแสหรือแรงเชียร์ หากยังมีข้อสงสัยแม้เพียงจุดเดียว ให้ “วางมือ” รอข้อมูล
- เงื่อนไขการคืนของ ต้องคุยให้ชัดเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะกรณีพิสูจน์ได้ว่า “บล็อกย้อน” หรือ “ตัดซ่อม”
- ถ่ายภาพ–วิดีโอทุกองศาก่อนรับของ เพื่อเป็นหลักฐานหากเกิดข้อพิพาท
- อย่าหวัง “โกยกำไรเร็ว” พระเครื่องคือของสะสมที่มูลค่าอยู่บน “ความเชื่อและหลักฐาน” ความมั่นใจของตลาดสำคัญไม่แพ้ความสวย
คำถามคลาสสิกที่เจอบ่อย และคำตอบแบบบ้านกีฬา
เหรียญแท้ต้องมีตำหนิครบทุกจุดไหม ไม่จำเป็น ตำหนิบางอย่างเกิดเฉพาะ “บางบล็อก–บางล็อต” สิ่งที่สม่ำเสมอที่สุดคือ “ภาษาของตัวตัด” และ “ลายมือโรงงาน”
เนื้อทองคำบางถือว่าเก๊ไหม ไม่ใช่ข้อสรุป ต้องพิจารณาพร้อมผิว การรีดแผ่น การปั๊ม และรอยกระทบหลังตัด
ไม่มีในหนังสือพระ เท่ากับเก๊หรือไม่ หนังสือคือ “ฐานข้อมูลใหญ่” แต่ไม่ครอบคลุมทั้งหมด ให้ใช้ประกอบกับหลักฐานทางกายภาพและประวัติสร้าง
แพงแปลว่าแท้ไหม ไม่เสมอ การยอมจ่ายแพงมาจาก “ความเชื่อรวมหมู่” ของตลาด ณ เวลานั้น ต้องแยกระหว่าง “ราคา” กับ “ข้อเท็จจริง”
บทเรียนจากดราม่าครั้งนี้
หนึ่ง เสียงของเซียนไม่ใช่คำพิพากษา แต่เป็น “สมมติฐานที่ต้องตรวจซ้ำ” สอง สังคมนักสะสมไทยกำลังยกระดับมาตรฐาน ไปสู่การคุยกันบน “หลักฐาน–กระบวนการ–ความโปร่งใส” มากกว่าความศรัทธาล้วน ๆ สาม เราทุกคนมีสิทธิ์สงสัยได้ แต่ควรตั้งคำถามด้วยความเป็นธรรมต่อผู้เกี่ยวข้อง
บ้านกีฬาในมุมผู้หญิงที่อยู่หน้างานมองว่า การถกเถียงอย่างมีเหตุผลคือของดี วงการจะโตได้ด้วย “ข้อมูลที่ตรวจได้” ไม่ใช่เสียงดังใครดังกว่า หากวันหนึ่งมีเอกสารการสร้างหรือหลักฐานเทคนิคที่ชัดเจนกว่านี้ ทั้งตลาดและความจริงจะเคลียร์ตัวเอง ท้ายที่สุด เงินล้านทุกใบต้องแลกกับ “ความมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์” ของผู้ถือครอง
เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจกับเหรียญระดับตำนาน
เตรียมงบให้พร้อม แต่เตรียมข้อมูลให้มากกว่าหากยังหาคำตอบไม่ได้ ให้ซื้อ “ความสบายใจ” ด้วยการถอยเก็บรูป–เก็บหลักฐานทุกขั้นตอน ตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญหลายสำนักให้เกียรติความเห็นต่าง เพราะวิธีคิดไม่เหมือนกัน แต่ความรักในหลวงพ่อทวดเหมือนกัน
ปิดท้าย บ้านกีฬาอยากชวนทุกคนหายใจลึก ๆ แล้วกลับไปสนุกกับเสน่ห์ของ พระเครื่อง, การเรียนรู้ประวัติศาสตร์งานช่างไทย และแนวคิด “ดูเป็น–ซื้อเป็น–ใช้เป็น” เพราะนี่ไม่ใช่แค่ของสะสม แต่คือวัฒนธรรมที่สะท้อนความเชื่อและฝีมือระดับชาติ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก รายการโหนกระแส
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวสำคัญของวงการพระและกระแสสังคมที่คุณต้องรู้ก่อนใคร
