ไกเซโด้ฟอร์มโหด! ซัดนำพาเชลซีดับลิเวอร์พูล 2-1 คว้าแมนออฟเดอะแมตช์

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

มิดฟิลด์พันล้านแผลงฤทธิ์กลางสนาม

มอยเซส ไกเซโด้ มิดฟิลด์จอมพลังทีมชาติเอกวาดอร์ ระเบิดฟอร์มระดับโลกในเกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก ที่ เชลซี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา กลายเป็นหัวใจสำคัญที่คุมจังหวะเกมทั้งรุกและรับอย่างอยู่หมัด พร้อมกด 1 ประตูสุดสวย และรับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองอย่างไร้ข้อโต้แย้ง

เกมนี้ ไกเซโด้ แสดงให้เห็นถึงพลัง ความแม่นยำ และการตัดสินใจที่เฉียบขาดในแดนกลาง เขาไม่เพียงเป็นกำแพงด่านแรกที่หยุดเกมรุกของ “หงส์แดง” ได้หลายครั้ง แต่ยังสร้างจังหวะบุกให้ทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ตอกย้ำว่าเงินกว่า 100 ล้านปอนด์ ที่ เชลซี ทุ่มซื้อมาจาก ไบรท์ตัน ในซัมเมอร์ 2023 คุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ

สถิติสุดโหดของ ไกเซโด้ เกมเชือด ลิเวอร์พูล

ผลงานในเกมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความครบเครื่องของ ไกเซโด้ ที่มีทั้งพลัง ความแข็งแกร่ง และสมองในเวลาเดียวกัน

  • สัมผัสบอล: 66 ครั้ง
  • พยายามยิง: 2 ครั้ง (มากสุดในทีมร่วมกับ เอสเตเวา และ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ)
  • ยิงตรงกรอบ: 2 ครั้ง (มากสุดในทีมร่วมกับ เอสเตเวา)
  • ประตู: 1 ลูก
  • ผ่านบอลเข้าเป้า: 88% (45/51 ครั้ง)
  • เข้าปะทะแย่งบอลสำเร็จ: 4 ครั้ง
  • แย่งบอลกลับมาครอง: 5 ครั้ง
  • ตัดบอล: 1 ครั้ง
  • เคลียร์บอลจากพื้นที่อันตราย: 1 ครั้ง
  • เรตติ้งจาก Whoscored.com: 7.8 (สูงสุดในทีม)

การเล่นที่นิ่งและมีประสิทธิภาพของเขาช่วยให้ เชลซี ครองแดนกลางเหนือกว่า ลิเวอร์พูล และสามารถควบคุมเกมได้ตามแท็กติกของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า แบบสมบูรณ์แบบ

คุมเกมกลางสนามอย่างเหนือชั้น

ตลอด 90 นาที ไกเซโด้ ทำหน้าที่ ปิดเกมรุกของลิเวอร์พูล ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการอ่านเกมที่เฉียบคมและการเข้าปะทะที่แม่นยำ เขาสามารถบีบพื้นที่ไม่ให้คู่แข่งเล่นเกมสวนกลับเร็ว และคอยคุมจังหวะให้เพื่อนร่วมทีมเชื่อมต่อกันได้อย่างลื่นไหล

นอกจากเกมรับที่แข็งแกร่งแล้ว ไกเซโด้ ยังแสดงให้เห็นถึง ศักยภาพเกมรุก ด้วยการสอดขึ้นมายิงประตูสุดสวยในครึ่งแรก ช่วยให้ทีมขึ้นนำ และสร้างความมั่นใจให้เพื่อนร่วมทีมในการครองเกมต่อเนื่อง

ทำไม ไกเซโด้ ถึงกลายเป็น “เครื่องจักรแดนกลาง” ที่ขาดไม่ได้

ตั้งแต่ย้ายมาเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไกเซโด้ ใช้เวลาไม่นานในการปรับตัวเข้ากับระบบของทีม และค่อย ๆ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือ หัวใจสำคัญในแดนกลาง ของ “สิงห์บลูส์” ไม่ว่าจะเล่นคู่กับ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ หรือสลับบทบาทกับมิดฟิลด์รายอื่น

จุดเด่นของเขาอยู่ที่การ อ่านเกมเร็ว, เข้าปะทะหนักแน่น, และวางบอลแม่นยำ ซึ่งทำให้ทีมสามารถเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกได้ในพริบตา อีกทั้งยังมีความเยือกเย็นในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์กดดันเพียงใดก็ตาม

การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป้าหมายในซีซั่นนี้

ฤดูกาลนี้ ไกเซโด้ ยิงไปแล้ว 3 ประตู จาก 7 นัดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งมากกว่าที่เขาเคยทำได้ทั้งหมดตลอดการเล่นให้ ไบรท์ตัน 3 ฤดูกาล ถือเป็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดด โดยเฉพาะในเกมบิ๊กแมตช์ที่เขาสามารถสร้างความแตกต่างได้

หากยังรักษามาตรฐานแบบนี้ไว้ได้ต่อเนื่อง มีโอกาสสูงที่เขาจะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ดีที่สุดของลีก และมีลุ้นติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล

เสาหลักของเชลซี ยุคใหม่ภายใต้ มาเรสก้า

เอ็นโซ่ มาเรสก้า มอบความไว้วางใจให้ ไกเซโด้ ยืนคุมแดนกลางเป็นแกนหลักในทุกนัด และเจ้าตัวก็ตอบแทนด้วยผลงานที่สม่ำเสมอ ทั้งในเกมรับที่แน่นหนาและเกมรุกที่มีประสิทธิภาพ เขาเป็นตัวเชื่อมสำคัญที่ช่วยให้เกมของเชลซีไหลลื่น และมีสมดุลทั้งสองด้าน

การมาของเขาทำให้ “สิงห์บลูส์” มีมิติที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไล่เพรสสูง, การคุมจังหวะ หรือการสร้างเกมจากแนวลึก ซึ่งล้วนแต่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพาทีมไล่ล่าความสำเร็จในซีซั่นนี้

แฟนสิงห์มั่นใจ ไกเซโด้ คือดีลสุดคุ้ม

จากเสียงวิจารณ์ในช่วงแรกที่ว่า 100 ล้านปอนด์ เป็นราคาที่แพงเกินจริง บัดนี้แฟนบอลต่างต้องยอมรับว่า ไกเซโด้ คือหนึ่งในแข้งที่คุ้มค่าทุกเพนนี เขาไม่เพียงยกระดับแดนกลางของทีม แต่ยังกลายเป็นผู้นำทางแท็กติกที่สร้างสมดุลให้กับระบบของมาเรสก้า

แฟนบอล “เชลซี” จึงเชื่อว่า หากเจ้าตัวรักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ได้ ทีมมีสิทธิ์กลับมาท้าทายตำแหน่งหัวตารางและลุ้นคว้าโควตา ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ได้แน่นอน

ติดตามทุกฟอร์มเดือดของ มอยเซส ไกเซโด้, ข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และวิเคราะห์เกมบิ๊กแมตช์ได้ก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา ศูนย์รวมข่าวบอลคุณภาพของแฟนลูกหนังตัวจริง

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา