
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก ระหว่าง เชลซี 2-1 ลิเวอร์พูล วันนี้ 4/10/68 – บ้านกีฬา
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นอีกหนึ่งเกมสุดมันส์ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดย เชลซี เปิดบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล เกมนี้ “สิงห์บลูส์” แสดงความแกร่งในรัง พลิกเกมสุดระทึกด้วยประตูชัยช่วงทดเจ็บจาก เอสเตวาโอ วิลเลี่ยน เฉือนชนะ 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมขยับขึ้นอันดับ 6 ของตาราง ในขณะที่ “หงส์แดง” ต้องเจอกับความพ่ายแพ้นัดที่สองของฤดูกาล ส่งผลให้ยังตามหลังจ่าฝูงอยู่
เกมนี้ บ้านผลบอล รายงานว่า เชลซีภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 เน้นครองบอลและการผ่านบอลที่แม่นยำ ขณะที่ ลิเวอร์พูลของ อาร์เน่ สลอต ใช้แผนเดียวกัน หวังสวนกลับด้วยความเร็วของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โคดี้ กัคโป
ครึ่งแรก
เปิดเกมมาไม่ถึง 15 นาที แฟนสิงห์เฮสนั่นสนามเมื่อ มอยเซส ไกเซโด้ ยิงเบิกร่องในนาทีที่ 14 จากจังหวะประสานงานกับ มาลอ กุสโต้ พาเชลซีออกนำ 1-0 แม้ลิเวอร์พูลพยายามบุกตอบโต้แต่ยังเจาะไม่เข้า ครึ่งแรกจบด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง
เข้าสู่ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเร่งเครื่องเต็มกำลังและมาตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 63 จากการเข้าทำสุดคมของ โคดี้ กัคโป ที่ได้แอสซิสต์จาก อเล็กซานเดอร์ อิซัค เกมกลับมาสูสีอีกครั้ง แต่ช่วงท้ายกลายเป็นดราม่าเมื่อ เอสเตวาโอ วิลเลี่ยน ตัวสำรองลงมายิงประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาที 90+6 พาเชลซีคว้าชัยสุดระทึก 2-1
🔹รายชื่อนักเตะตัวจริง
เชลซี (4-2-3-1):
- ผู้รักษาประตู: โรเบิร์ต ซานเชซ (6.6)
- กองหลัง: มาล็อง ซาร์ (6.3), เบอนัวต์ บาเดียชิล (7.6), มาร์ก กูกูเรญ่า (8.2⭐), รีซ เจมส์ (7.3)
- กองกลาง: มอยเซส ไกเซโด้ (8.0), เอ็นโซ่ เฟร์นันเดซ (6.0)
- ตัวรุก: เปโดร เนโต้ (6.4), ชูเอา เปโดร (6.3), อเลฆานโดร การ์นาโช่ (6.9)
- หน้าเป้า: มาร์ค กุยู (6.3)
ตัวสำรอง: เอสเตวาโอ วิลเลี่ยน (7.5), โรเมโอ ลาเวีย (7.0), เจมี่ กิตเทนส์ (6.9), จอร์เรล ฮาโต (6.9)
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1):
- ผู้รักษาประตู: จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ (7.1)
- กองหลัง: มักซ์ เคอร์เคซ (6.3), เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (6.4), อิบราฮิมา โกนาเต้ (6.7), คอนเนอร์ แบรดลีย์ (5.8)
- กองกลาง: อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (6.7), ไรอัน กราเฟนเบิร์ช (6.8)
- ตัวรุก: โดมินิค โซบอสซ์ไล (6.9), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (6.1), โคดี้ กัคโป (7.4)
- หน้าเป้า: อเล็กซานเดอร์ อิซัค (6.3)
ตัวสำรอง: ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (6.3), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (6.7), เคอร์ติส โจนส์ (6.5), ฮูโก้ เอคิติเก้ (6.5), วาตารุ เอนโดะ (6.7)
🔍 วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้ เชลซี วางระบบ 4-2-3-1 เน้นครองบอลด้วยความแม่นยำสูงถึง 91% ใช้คู่กลาง ไกเซโด้ กับ เอ็นโซ่ คุมจังหวะ สร้างสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับได้ยอดเยี่ยม ด้านแนวรุกเคลื่อนที่ยืดหยุ่น โดย เนโต้ และ การ์นาโช่ ทำหน้าที่ฉีกแนวรับลิเวอร์พูล ขณะที่แบ็กซ้าย คูกูเรญ่า เติมเกมบ่อยและมีบทบาทสูงสุดจนคว้าแมนออฟเดอะแมตช์
ส่วน ลิเวอร์พูล มีปัญหาในแนวรับ โดยเฉพาะฝั่งขวาของ แบรดลีย์ ที่ถูกโจมตีซ้ำๆ แม้แนวรุกอย่าง ซาลาห์ และ กัคโป จะพยายามสร้างสรรค์เกม แต่ครองบอลน้อยกว่าและยิงเข้ากรอบเพียง 2 ครั้ง จึงไม่สามารถกดดันเจ้าถิ่นได้มากนัก เกมรับยังหลวมโดยเฉพาะช่วงท้ายที่เสียประตูจากการหลุดตำแหน่ง
จากการ วิเคราะห์บอล โดยรวม เกมนี้แสดงให้เห็นว่าเชลซีมีความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายและการเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุก ส่วนลิเวอร์พูลต้องปรับเรื่องความแน่นอนในแดนกลางและการปิดพื้นที่ช่วงท้ายเกม
📊 สถิติการแข่งขัน
ทั้งสองทีมมีจำนวนยิงรวมเท่ากัน 11 ครั้ง แต่เชลซียิงตรงกรอบถึง 7 ครั้ง ขณะที่ลิเวอร์พูลได้เพียง 2 ครั้ง เจ้าบ้านครองบอลมากกว่า 54% และจ่ายบอล 460 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 91% แสดงถึงความเหนือกว่าในเกมคอนโทรล ส่วนลิเวอร์พูลแม้ครองบอลน้อยกว่าแต่มีการเล่นเร็วในแดนหน้า การฟาวล์เกิดขึ้นรวม 17 ครั้ง เชลซี 9 ครั้ง ลิเวอร์พูล 8 ครั้ง และทีมเยือนได้รับใบเหลือง 2 ใบ
⚽ เหตุการณ์สำคัญ
- ⏱ 14’ เชลซี ขึ้นนำ 1-0 มอยเซส ไกเซโด้ ยิงจากจังหวะต่อบอลกับ มาลอ กุสโต้
- ⏱ 34’ คอนเนอร์ แบรดลีย์ ทำฟาวล์โดนใบเหลือง
- ⏱ 63’ ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 โคดี้ กัคโป ซัดจากการแอสซิสต์ของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค
- ⏱ 74’-86’ มีการเปลี่ยนตัวหลายตำแหน่งทั้งสองฝั่ง
- ⏱ 90+6’ เอสเตวาโอ วิลเลี่ยน ซัดชัย 2-1 จากจังหวะต่อบอลของ มาร์ก คูกูเรญ่า
- 🟨 ใบเหลือง: แบรดลีย์ (34’), โซบอสซ์ไล (79’)
- ⚠️ ใบเหลืองโค้ช: เอ็นโซ่ มาเรสก้า โต้เถียงผู้ตัดสิน
🏆 Player of the Match: มาร์ก คูกูเรญ่า (Chelsea)
แบ็กซ้ายทีมชาติสเปนโชว์ฟอร์มสุดโหด คุมเกมรับแน่น เติมเกมรุกจัดจ้าน มีส่วนร่วมโดยตรงในประตูชัยและสร้างโอกาสหลายครั้ง ได้คะแนนสูงสุดในสนาม 8.2
📈 สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ เชลซี ขยับขึ้นอันดับ 6 ของตารางพรีเมียร์ลีก มี 11 คะแนน จาก 7 นัด ยังมีลุ้นทำอันดับท็อปโฟร์ ส่วน ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสไล่จี้จ่าฝูง อาร์เซน่อล อยู่ที่ 2 ของตาราง มี 15 คะแนนจาก 7 นัด
📅 โปรแกรมนัดถัดไป
ตาม ตารางบอล พรีเมียร์ลีกนัดต่อไป เชลซี จะบุกเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ วันที่ 18 ตุลาคม ก่อนจะเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกับ อาแจ็กซ์ ส่วน ลิเวอร์พูล มีคิวเจอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 19 ตุลาคม และบุกเยือน แฟรงค์เฟิร์ต ในแชมเปียนส์ลีก
📢 ติดตาม บ้านผลบอล ที่ บ้านกีฬา
อย่าพลาดทุก ผลบอลสด และวิเคราะห์บอลจากทีมข่าว บ้านกีฬา ที่พร้อมอัปเดตความเคลื่อนไหวพรีเมียร์ลีกแบบเข้มข้นทุกวัน